ตอนที่ 18
ตอนที่ 18 ความลับทั้งสามข้อ (8)
ในช่วงแรกเธอยังคงใช้มือปัดหิมะออกจากตัว แต่พอหิมะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ปัดอย่างไรก็ไม่หมดเสียที เธอจึงเลิกปัด ซ่งชิงชุนดึงคอปกเสื้อคลุมให้สูงขึ้นอีกหน่อย จากนั้นก็ปล่อยให้หิมะร่วงหล่นลงบนตัวเธอ เพียงไม่กี่นาทีหิมะก็ปกคลุมไปทั่วศีรษะและไหล่เธอจนขาวโพลน
ซูจือเนี่ยนนิ่วหน้าโดยไม่รู้ตัว สายตาที่ดูเหมือนจะจดจ่ออยู่กับเอกสารกลับแวบมองออกไปนอกหน้าต่างเป็นครั้งคราว
ซ่งชิงชุนขยับตัวเปลี่ยนท่ายืน รู้สึกเมื่อยล้าจากการยืนอยู่ในท่าเดิมนานๆ ขณะที่ขยับตัวนั้น สายตาของเธอก็กวาดมองข้ามไปยังหน้าต่างบานใหญ่จรดพื้นของร้านกาแฟที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เธอมองผ่านกระจกนั้น และเห็นคนที่เธอคุ้นเคยดีนั่งอยู่ด้านใน
ซ่งชิงชุนถึงกับประหลาดใจ ชั่วแวบแรกเธอคิดว่าตาฝาดไปเอง เพราะตั้งแต่แยกกันที่ร้านเอลโดราโด้คราวนั้น เธอพยายามดักพบเขาที่หน้าบริษัทหลายต่อหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นเขา…
ในระหว่างที่ซ่งชิงชุนตกอยู่ในภวังค์นั้น ซูจือเนี่ยนก็หันขวับมา สายตาของเขาจ้องมองมาที่เธออย่างช้าๆ จนทั้งคู่สบตากัน
ถึงแม้จะเป็นการมองผ่านกระจกหน้าต่าง ซ่งชิงชุนก็ยังรู้สึกได้ชัดถึงความเย็นชาในสายตาเขา ช่างบีบคั้นจนเธอหลบสายตาโดยไม่รู้ตัว และเมื่อเงยขึ้นมองอีกครั้งซูจือเนี่ยนก็ได้หันกลับไปดูเอกสารแล้ว นิ้วของเขาแตะที่กริ่งข้างโต๊ะสำหรับกดเรียกพนักงานในร้าน
ชั่วอึดใจหนึ่ง พนักงานเสิร์ฟเดินยิ้มเข้าหามาเขา คงจะมาตามเสียงกริ่งเรียก สายตาของซูจือเนี่ยนยังไม่ละไปจากเอกสาร และถึงแม้จะเป็นการมองผ่านกระจกหน้าต่าง ซ่งชิงชุนก็มองเห็นริมฝีปากของเขาขยับ พนักงานพยักหน้ารับ พร้อมกับส่งยิ้มให้เขา จากนั้นก็เดินผ่านโซฟาตัวที่ซูจือเนี่ยนกำลังนั่งอยู่มายังหน้าต่าง แล้วรูดผ้าม่านปิด บดบังเขาจากสายตาเธอโดยสิ้นเชิง
เขาเคยพูดว่าไม่ต้องการให้เธอมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีก เช่นนั้นแม้ตัวเขาจะอยู่ด้านใน ส่วนตัวเธออยู่ด้านนอก อยู่กันคนละฟากขนาดนี้แล้ว เขายังเรียกให้พนักงานมาดึงผ้าม่านปิดบังไม่ให้เธอเห็น เพื่อกีดกั้นความสัมพันธ์ระหว่างกัน
...
ผ้าม่านหนาหนักปิดหน้าต่างบานใหญ่จนมิด แขกด้านในมองไม่เห็นทิวทัศน์ด้านนอก ตอนที่ถังนั่วสังเกตเห็นซูจือเนี่ยนกับซ่งชิงชุนสบตากัน เขาแอบคิดเองเออเองว่าซูจือเนี่ยนจะออกไปหาเธอ แต่หลังจากทั้งคู่สบตากันเพียงครู่เดียว ซูจือเนี่ยนก็เบือนหน้าหนี และถึงกับเรียกพนักงานให้มาปิดผ้าม่าน แล้วกลับไปอ่านเอกสารต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเสียอย่างงั้น
ถังนั่วอดรนทนไม่ไหว จึงถามขึ้นมาในที่สุด “นี่นายจะไม่ไปหาเธอหน่อยหรือ แล้วนี่จะปล่อยให้เธอรอต่อไปท่ามกลางอากาศหนาวเย็นขนาดนี้อย่างนั้นหรือ”
ซูจือเนี่ยนทำเป็นหูทวนลมไม่ตอบคำถาม ถังนั่วยักไหล่เลิกพูดต่อ หยิบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กขึ้นมาทำงานของตัวเอง
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ถังนั่วทำงานของเขาเสร็จ จึงพักสายตา ยกมือขึ้นนวดไหล่อันอ่อนล้า ขณะกำลังจะเรียกพนักงานให้มาเติมเครื่องดื่ม ตอนนั้นเองที่เขาเห็นซูจือเนี่ยนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม กำลังจ้องเขม็งไปยังโคมไฟบนโต๊ะ ราวจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ถังนั่วขมวดคิ้ว “มีอะไรงั้นหรือ”
ซูจือเนี่ยนไม่ตอบ เขาดูเหมือนตั้งใจฟังบางสิ่งบางอย่างอยู่
“นายเป็นอะไรน่ะ” ถังนั่วโบกไม้โบกมือตรงหน้าซูจือเนี่ยนเพื่อเรียกความสนใจ