ตอนที่ 112
ตอนที่ 112 ไม่มีใจให้เขาแล้ว (2)
จากนั้นก็ตามมาด้วยความเงียบ ซ่งชิงชุนอาจกำลังลองของขวัญของฉินอี่หนานอยู่ก็ได้ ในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงของฉินอี่หนานพูดขึ้น “มานี่ เดี๋ยวพี่ช่วย”
ซูจือเนี่ยนได้ยินอย่างชัดเจน เสียงของก้าวเท้าของฉินอี่หนาน ตามด้วยเสียงลมหายใจติดขัดของซ่งชิงชุนเมื่อฉินอี่หนานเข้าไปใกล้เธอ
เขาชะงักนิ่ง
“ประธานซู แก้วเต็มแล้วนะ...” คนใกล้ๆ เห็นว่าซูจือเนี่ยนกำลังรินไวน์จนล้นแก้วแล้ว
เสียงนั้นดูจะไม่เข้าหูซูจือเนี่ยน มือของเขายังคงถือขวดไวน์รินต่อไป
“นี่ คุณซู”
“ประธานซู”
“ซูจือเนี่ยน…” ถังนั่วที่ข้างๆ ซูจือเนี่ยนเอื้อมมือมาดึงขวดไวน์ไป ก่อนคว้าทิชชูมาหยิบมือหนึ่งแล้วส่งให้ซูจือเนี่ยน “นายทำอะไรน่ะ คิดอะไรอยู่”
“เปล่า” ซูจือเนี่ยนเพิ่งรู้ตัวจึงพึมพำตอบ เขาไม่ได้อธิบายอะไร
ชายหนุ่มรับกระดาษจากถังนั่วแล้วเช็ดไวน์บนโต๊ะ ก่อนเสียงหัวเราะคิกคักของซ่งชิงชุนจะดังเข้ามาในหู “ขอบคุณค่ะ พี่อี่หนาน”
เธอคงมีความสุขมาก เพราะเขาจับได้ถึงน้ำเสียงสดใสร่าเริง ที่มักหายไปเวลาเธอพูดกับเขา หญิงสาวพูดกับฉินอี่หนานด้วยน้ำเสียงร่าเริงนั้น “ดูเป็นไงบ้างคะ”
ถึงเขาจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่ซูจือเนี่ยนนึกในหัวภาพออกเลย ดวงตารื้นน้ำตาของเธอที่กำลังมองฉินอี่หนานนั้น คงเต็มไปด้วยความรักใคร่ชื่นชม
ดวงตาของซูจือเนี่ยนแข็งกระด้าง มือที่เช็ดโต๊ะอยู่สั่นสะท้าน แล้วศอกของเขาก็บังเอิญไปชนกับแก้วไวน์เข้า ทำให้ไวน์ที่มีฟองสีขาวกระเด็นมาโดนแขนเสื้อเข้า
ถังนั่วลุกพรวดขึ้นทันทีเพื่อช่วยทำความสะอาด แม้แต่หญิงสาวที่อยู่ใกล้ซูจือเนี่ยนที่สุด คนที่เป็นแขกคนหนึ่งของประธานซุน ก็รีบล้วงผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาซับไวน์บนแขนเสื้อของเขา
แต่ก่อนที่ปลายนิ้วของเธอจะทันแตะโดนแขนเสื้อเขา ซูจือเนี่ยนลุกพรวดขึ้นจากที่นั่ง เขารีบถอยหลังไปสองก้าวราวกับเธอเป็นสิ่งสกปรกที่สุดในโลกนี้ ก่อนสั่งด้วยน้ำเสียงรังเกียจ “อย่าแตะต้องผม!”
หญิงสาวคนนั้นตกใจกับปฏิกิริยาของซูจือเนี่ยน ใบหน้าของเธอซีดเผือด ตามีน้ำรื้นออกมา
ถังนั่วขอโทษเธอทันที ก่อนเห็นไปมองซูจือเนี่ยนอย่างโกรธๆ ปากก็รีบกระซิบว่า “ฉันรู้ว่านายไม่ชอบให้ผู้หญิงโดนตัว แต่นายช่วยทำตัวให้มันดีกว่านี้ไม่ได้หรือไง”
ซูจือเนี่ยนไม่ตอบ สีหน้าของเขายังมีร่องรอยความรังเกียจ ชายหนุ่มลดสายตาลงเพื่อซับแอลกอฮอล์ที่เปื้อนชุด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนทั้งห้องพร้อมพูดว่า “ขอโทษ” ก่อนเดินออกไปที่ระเบียง
ถังนั่วหัวเราะเก้อๆ ให้กับคนทั้งห้อง เสริมว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ คืนนี้เขาแค่ไม่ค่อยสบายน่ะ”
จากนั้นเขาก็ไปร่วมดื่มและฟังเพลงกับแขกคนอื่นๆ
ซูจือเนี่ยนสวมเพียงเสื้อเชิ้ต ดังนั้นเมื่อสายลมเย็นพัดมา ชายหนุ่มจึงรู้สึกเย็นไปทั่วร่าง
เขาจ้องมองแสงไฟสีเหลืองอ่อนบนระเบียง แล้วลอบฟังซ่งชิงชุนต่อ จึงได้รู้ว่าเธอทักทายแขกเพียงไม่กี่คนในงานเลี้ยง และไม่ได้พูดคุยกับฉินอี่หนานอีก
ความหงุดหงิดเมื่อครู่จึงค่อยๆ คลายไป
งานเลี้ยงในห้องด้านหลังเขายังคงดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนาน แต่เสียงร้องเพลงหยุดลงแล้ว และผู้คนต่างกำลังพูดคุยกัน
ถังนั่วอาจรู้สึกว่าเขาออกมานานพอแล้ว จึงวิ่งออกมาที่ระเบียงเพื่อเรียกเขาให้กลับเข้าไป
ปกติซูจือเนี่ยนเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว เขาจึงรู้สึกเบื่อหน่ายกับเหล่าผู้หญิงในงานที่ตนไม่รู้จัก และนั่นทำให้เขายิ่งเงียบขรึมกว่าเดิม