ตอนที่ 58
บทที่ 58 หลับเร็วอีกแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกว่า จะต้องเป็นสมองของเธอที่คิดมากเกินไปแน่นอน!
แต่ไม่ว่าเขาจะผิดปกติที่ตรงไหน เดินจูงเขาก็ดี แบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะตามไม่ทันเขาแล้ว
ที่นี่กว้างใหญ่ขนาดนี้ หากหลงทางขึ้นมาคงจะน่าอายน่าดู
ครั้งนี้หลังจากถูกเธอจับมือไว้แล้ว ซือเยี่ยหานยังคงเพียงหยุดเท้าเล็กน้อย ไม่พูดสิ่งใด พาเธอเดินวนรอบบ้านใหญ่ทั้งข้างนอกข้างในทุกซอกทุกมุม
ตอนที่เขาเตรียมที่จะเดินรอบที่สอง ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นทนไม่ไหวอีกต่อไป “ซือเยี่ยหาน ฉันปวดขา พวกเราไปนั่งทางนั้นสักแปปกันเถอะ?”
ดวงตาของซือเยี่ยหานมองเธอทีหนึ่ง ถึงได้พาเธอไปนั่งลงข้างกันที่เก้าอี้ไม้ยาว
เยี่ยหวันหวั่นผ่อนลมหายใจ ปล่อยมือยืดแขนบิดขี้เกียจ พึมพำว่า “คุณย่าเป็นคนดีจังเลย เดิมทีฉันยังกังวลว่าคุณย่าจะไม่ชอบฉันซะอีก”
อันที่จริงเยี่ยหวันหวั่นรู้ดี นอกจากเหตุที่การแสดงออกครั้งนี้ของตัวนับว่าไม่เลวแล้ว เหตุผลที่สำคัญที่สุดยังเป็นซือเยี่ยหาน ในเมื่อรักฉันต้องรักหมาของฉันด้วย
ขอแค่เธอไม่ทำผิดซ้ำอีก ก่อเรื่องใหญ่โตขนาดนั้น โดยพื้นฐานแล้วการพบกันครั้งนี้ไม่มีทางมีปัญหา แน่นอนว่า สร้างความรู้สึกดีต่อกันให้มากหน่อยย่อมดีกว่า
การคุยเรื่อยเปื่อยกับซือเยี่ยหานเป็นเรื่องที่ยากมากเกินไปเรื่องหนึ่ง
หลังจากเงียบอยู่นาน เยี่ยหวันหวั่นทำได้เพียงหาเรื่องคุย “คือว่า ซือเยี่ยหาน คุณอยู่ในอันดับที่เก้า หรือว่าก่อนหน้าคุณยังมีพี่ๆ อีกแปดคนจริงๆ เหรอ?”
ไม่รู้ว่าทำไม เยี่ยหวันหวั่นจึงรู้สึกว่าเมื่อเธอพูดจบ บรรยากาศรอบตัวของซือเยี่ยหานเหมือนว่าจะหนักอึ้งขึ้นไม่น้อย
และในเวลานี้เอง เยี่ยหวันหวั่นพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ พลันรู้สึกอยากตบหน้าตัวเองสักที
แย่แล้ว! ทำไมเธอถึงได้ถามคำถามเสี่ยงอันตรายอย่างนี้!
แปดคนก่อนหน้าซือเยี่ยหานนั้น ตอนนี้ที่ยังอยู่มีเพียงไม่กี่คน ว่ากันว่าทั้งหมดถูกซือเยี่ยหานจัดการด้วยมือตัวเอง
เวลานั้นตอนที่ซือเยี่ยหานชิงอำนาจ ทั้งตระกูล ไม่ว่าจะที่มืดหรือบนท้องถนน ล้วนเป็นลมฝนคาวเลือด ชีวิตคนในกำมือเขานับไม่ถ้วน แม้กระทั่งแขนขาของตัวเองก็ยังไม่เว้น ไม่อย่างนั้นแล้วชื่อเสียงความน่ากลัวของวิญญาณนักฆ่าซือเยี่ยหานนั้นจะมาจากไหน
วันนี้เห็นท่าทางอบอุ่นของเขาขนาดนั้นต่อหน้าคุณย่า ราวกับหลานชายของครอบครัวทั่วๆ ไป เลยทำให้เธอเกือบลืมเรื่องพวกนี้ไปทั้งหมดอย่างคาดไม่ถึง!
ในขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังตื่นกลัวสุดขีด ข้างกายกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดอยู่นาน
วินาทีถัดมา เธอพลันรู้สึกว่าหนักไหล่
ร่างกายของเยี่ยหวันหวั่นแข็งทื่อ หันศีรษะไปอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เห็นว่า ซือเยี่ยหานกำลังซบไหล่ของเธออยู่ หลับตาทั้งสอง ลมหายใจเนิบช้าสม่ำเสมอ เหมือนว่า...จะหลับไปแล้ว...
“เอ่อ...” ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นพลันดำคล้ำ
ทำไมหลับไปอีกแล้วล่ะ?
ช่างเถอะ ก็ดีเหมือนกัน...
อย่างไรก็หลบเภทภัยครั้งนี้ไปได้อีกครั้ง
ซือเยี่ยหานเหมือนว่าจะหลับสบาย เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่กล้าขยับ ทำได้เพียงยอมให้เขาซบอิงอยู่อย่างนั้น
แต่ว่าอุณหภูมิตอนกลางคืนค่อนข้างต่ำ ถ้าเขานอนแบบนี้ เดี๋ยวนานเข้าจะไม่สบายเอา...
เยี่ยหวันหวั่นที่กำลังกลัดกลุ้มไม่รู้ตัวเลยว่าเวลานี้มีคนสองคนอยู่ห่างออกไปไม่ไกล
คุณย่าเห็นทั้งสองไม่กลับมาเสียที จึงออกตามหาด้วยตัวเองโดยมีผู้ดูแลเป็นเพื่อน
สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจคือ เด็กทั้งสองนั่งข้างกันอยู่ตรงนั้น แต่หลานชายของเธอหลับตาซบไหล่ของเด็กคนนั้น ดูเหมือนว่าจะหลับไปแล้ว...
นี่...นี่เป็นไปได้อย่างไร!