ตอนที่ 49
บทที่ 49 รวมตัวคัดค้าน
หลังเลิกเรียน มีการฝึกซ้อมละครเวทีที่ห้องโถงเล็กของโรงเรียน
นอกจากนักแสดงไม่กี่คน ยังมีบรรดาแฟนคลับผู้ภักดีของซือเซี่ยและทีมองครักษ์อยู่ด้วย กลุ่มผู้หญิงทำหน้าแดงล้อมรอบซือเซี่ยเป็นวงกลมโดยมีเฉิงเสวี่ยเป็นผู้นำ ไถ่ถามทุกข์สุข ปลอบโยนเขาที่จิตวิญญาณถูกทำร้ายเพราะต้องเล่นละครคู่กับเยี่ยหวันหวั่น
“อาจารย์ก็จริงๆ เลย ใช้การจับฉลากตัดสินมันเหลวไหลจริงๆ!”
“นั่นสิๆ คิดไม่ถึงว่าจะให้เยี่ยหวันหวั่นมาแสดงจริงๆ ช่างเป็นการแปดเปื้อนซือเซี่ย”
“ซือเซี่ย นายอย่าเสียใจไปเลย ไม่อย่างนั้นพวกเรารวมตัวกันไปหาอาจารย์เพื่อคัดค้านเรื่องนี้กันดีไหม?”
...
เยี่ยหวันหวั่นปากคาบอมยิ้มแท่งหนึ่งยืนอยู่ที่ประตู ได้ยินคำพูดของผู้หญิงพวกนั้น มุมปากหยักโค้งเล็กน้อย
ดูจากท่าทางของผู้หญิงกลุ่มนี้แล้ว ทำไมทำอย่างกับว่าซือเซี่ยจะถูกข่มขืนอย่างนั้น?
ข้างหูเต็มไปด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าดของพวกผู้หญิง สีหน้าของซือเซี่ยเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความรำคาญ กำลังจะเปิดปากพูด ทว่ารอบข้างกลับเงียบลงอย่างประหลาด
เหลือบสายตาขึ้นมองไปทางประตู ก็เห็นอย่างที่คิดจริงๆ เยี่ยหวันหวั่นมาแล้ว
เพียงเยี่ยหวันหวั่นปรากฏตัว ก็ได้ดึงดูดลูกกระสุนทั้งหมดไปภายในพริบตา ผู้หญิงหลายคนวางมาดร้ายกาจพุ่งไปทางเธอ
“เยี่ยหวันหวั่น เธอยังมียางอายอยู่บ้างไหม คิดไม่ถึงว่าจะกล้ามาจริงๆ นะเนี่ย”
“เรื่องเมื่อเช้ายังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอเลย”
“แย่งบทของเสี่ยวเสวี่ยของพวกเราไป แล้วยังกล้ามาวางอำนาจบาตรใหญ่อีก คิดว่าพวกเราทำอะไรเธอไม่ได้หรือไง?”
เยี่ยหวันหวั่นกวาดสายตามองผู้หญิงสามคนที่พุ่งเข้ามา
สามคนนี้ก็คือผู้หญิงสามคนเมื่อเช้าที่วางแผนกลั่นแกล้งเธอ ผู้ชายอีกคนไม่ได้ปรากฎตัว คิดว่าคงสารภาพเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ยังโดนจ้าวซิงโจวคุมตัวอยู่
ผู้หญิงสามคนนี้เป็นคนของฝั่งเฉิงเสวี่ยทั้งหมด ผู้ชายคนนั้นคือคนที่เฉิงเสวี่ยนับเป็นพี่ชายที่ในโรงเรียน ค่อนข้างมีอำนาจในชิงเหอ เป็นจอมอันธพาลของโรงเรียน ไม่มีใครกล้าผิดใจด้วย
ครั้งนี้ถ้าเธอไม่ได้สอดเท้าเข้ามา ไม่ว่าจะด้วยชาติตระกูล หรือจากอำนาจบารมีในโรงเรียน สุดท้ายบทตัวเอกนี้แปดสิบเปอร์เซ็นต์จะต้องตกอยู่ในกำมือของเฉิงเสวี่ย
ดังนั้น ไม่น่าแปลกใจที่เฉิงเสวี่ยจะเกลียดเธอรุนแรงขนาดนี้
เฉิงเสวี่ยสวมชุดกระโปรงลูกไม้สั่งตัดราคาแพง ยืนอยู่ข้างหลังผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่กำลังปกป้องเธอ ผิวขาวดวงตาแวววาว ใบหน้าแฝงความเป็นลูกครึ่งนิดๆ ยิ่งเพิ่มความงดงาม ยืนเคียงคู่กับซือเซี่ยช่างเป็นทิวทัศน์ที่งดงามไร้ที่เปรียบ ทั้งสองเสมือนเจ้าหญิงเจ้าชายในโลกนิทานจริงๆ
เวลานี้ ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของเฉิงเสวี่ยเต็มไปด้วยความน้อยใจไม่ยินยอม แต่แม้ว่าความริษยาในดวงตาจะทำให้เธอดูร้ายกาจขึ้นหลายส่วน แต่เพราะร่างกายที่ดูดีร่างนี้ ยังคงทำให้ดูน่าสงสาร
เฉิงเสวี่ยไม่ได้เป็นเพียงดาวห้อง F ของพวกเขา ยังเป็นดาวโรงเรียนชิงเหออีกด้วย
เยี่ยหวันหวั่นจำได้ว่า ชาติตระกูลของเฉิงเสวี่ยคนนี้ไม่ธรรมดา รู้จักกับซือเซี่ยมาตั้งแต่เด็ก ในชาติก่อนเหมือนว่าต่อมาทั้งสองก็หมั้นกัน
ในเมื่ออายุดวงจิตของเยี่ยหวันหวั่นปาเข้าไปยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ตอนนี้มามองกลุ่มผู้หญิง ก็รู้สึกเหมือนกำลังทะเลาะกับเด็กอย่างไรอย่างนั้น จึงเบ้ปากพูดขึ้น “เฮอะ ก็แค่บทเข้าคู่ไม่กี่วินาที ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ?”
บทเข้าคู่ไม่กี่วินาที!?
บทระหว่างเจ้าชายกับเจ้าหญิงสโนว์ไวท์นั้นน้อยมากจริงๆ จนกระทั่งหลังจากเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ทานแอปเปิ้ลพิษเข้าไป เจ้าชายถึงจะปรากฏตัวต่อหน้าเธอ
แต่ว่า!
บทเข้าคู่ไม่กี่วินาทีนั้นเป็นถึงบทจูบเชียวนะบทจูบ!
คิดถึงตรงนี้ เฉิงเสวี่ยกัดฟันจนฟันแทบแตก คำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่นจงใจยั่วโมโหชัดๆ “เยี่ยหวันหวั่น! เธออย่าได้รังแกกันเกินไป! ซือเซี่ย นายจะแสดงละครกับคนแบบนี้จริงเหรอ?”
น้ำเสียงนี้เต็มไปด้วยความโกรธที่ถูกแย่งของรักไป
ใบหน้าของซือเซี่ยคล้ำลงถนัดตา ไม่อย่างนั้นล่ะ? เขาเป็นลูกผู้ชายจะให้กลับคำอย่างนั้นเหรอ?
“พอได้แล้ว ฉันเป็นคนจับฉลากเอง ทุกคนหุบปาก ตอนนี้เริ่มฝึกซ้อมกันได้แล้ว คนที่ไม่อยากแสดงก็ออกไปเดี๋ยวนี้!”