ตอนที่ 38
บทที่ 38 รางวัลหนึ่งจุ๊บ
ร่างกายของเด็กสาวหลังอาบน้ำมีความหอมตามธรรมชาติแผ่ซ่าน ริมฝีปากอ่อนนุ่มหวานสวยงดงามราวกับขนมไหมสวรรค์…
รังสีความน่ากลัวรอบกายชายหนุ่มราวกับมลายหายไปสิ้นภายในพริบตา โอนอ่อนยอมให้สาวน้อยจุมพิตคล้องรอบลำคอที่บอบบางและไร้ซึ่งปราการป้องกันตามอำเภอใจ
เมื่อสังเกตเห็นว่ารังสีรอบกายซือเยี่ยหานเเปรเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ในที่สุดหัวใจที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายของเยี่ยหวันหวั่นก็นับว่าวางใจได้บ้างแล้ว
เป็นแบบนี้แล้ว เมื่อกี้ที่เธอพุ่งไปที่ประตูก็ไม่ใช่การหนี แต่ทำเพื่อจะล็อคประตูเพื่อมาเร่าร้อนกับเขาเท่านั้น แบบนี้เขาคงไม่โกรธหรอกใช่ไหม?
“ที่รักคุณมาได้ยังไงคะ?” เยี่ยหวันหวั่นพยายามให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูประหลาดใจและดีใจมาก
ซือเยี่ยหานมองเธอนิ่งๆ ไม่พูดสิ่งใด นัยน์ตาเย็นชาราวกับสามารถมองทะลุวิญญานคนได้
เยี่ยหวันหวั่นหวั่นใจเล็กน้อย เขามองละครปาหี่น้อยๆ ของเธอออกอย่างนั้นเหรอ?
ผ่านไปพักหนึ่ง ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ ขึ้นอย่างสบายๆ ว่า “มีคนไล่จีบเธอ...ต่อแถวยาวถึงทางช้างเผือก?”
เยี่ยหวันหวั่นคิดอยู่นานกว่าจะรู้สึกตัวขึ้นมาได้ สิ่งที่ซือเยี่ยหานพูดคือเนื้อเพลงของเพลงนั้นที่เธอร้องเมื่อครู่
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกหมดคำพูด “ไม่มี ไม่มี! นั่นมันเนื้อเพลงเท่านั้นเอง!”
ต่อแถวยาวถึงทางช้างเผือกอะไรกันเล่า...เบียดกันเต็มนรกขุมที่สิบแปดล่ะสิไม่ว่า!
คนที่กล้าจีบเธอยังจะรอดชีวิตได้เห็นดวงอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้เหรอ?
ไม่ใช่สิ ประเด็นสำคัญคือ มีคนจีบเธอที่ไหนกัน ข้างกายเธอไม่มีแม้แต่แมลงวันสักตัว
“อ้อ! ใช่แล้วๆ! การสอบครั้งนี้ฉันสอบได้ที่หนึ่งของห้องเชียวนะ!” เยี่ยหวันหวั่นรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
นิ้วมือของซือเยี่ยหานวนเวียนเบาๆ อยู่กับเส้นผมเส้นหนึ่งข้างหูของเธอ ตอบรับคำหนึ่ง “อืม”
น้ำเสียงมั่นใจมากว่าต้องเป็นอย่างนั้น ไม่แฝงความแปลกใจและยากที่จะเชื่อแม้แต่นิดเดียว ราวกับการที่เธอสามารถทำเรื่องพวกนี้ได้เป็นเรื่องที่ธรรมดาอย่างมาก
นึกถึงว่าวันนี้ต้องประสบกับความเคลือบแคลงใจนับไม่ถ้วน ปฏิกิริยาตอบรับของซือเยี่ยหานในเวลานี้ ทำให้ในใจของเธอเกิดความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้บางอย่าง
คิดไม่ถึงว่า คนเพียงคนเดียวที่เชื่อมั่นในตัวเธอ กลับเป็นซือเยี่ยหานอย่างคาดไม่ถึง
ซือเยี่ยหานเห็นเยี่ยหวันหวั่นเหม่อมองตัวเองอย่างผิดหวัง เหมือนว่าจะรู้สึกตัว นิ้วมือเรียวยาว พลันเชยคางของเด็กสาว ท่ามกลางสายตาประหลาดใจ เขาก็ประทับจูบลงไปเบาๆ บนริมฝีปากของหญิงสาว “ทำได้ดีมาก”
เยี่ยหวันหวั่นกะพริบตา และกะพริบตาอีกครั้ง
เอ๊ะ...
นี่เธอกำลังได้รางวัลเหรอ?
เมื่อกี้เธอทำอะไรลงไปกันแน่ ถึงได้ทำให้ซือเยี่ยหานคิดไปว่าตัวเธอกำลังขอรางวัลขอจุมพิตเนี่ย!
ช่างเถอะๆ ท่านอ๋องมีความสุขก็พอแล้ว
เวลานี้เอง เยี่ยหวันหวั่นนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน จะว่าไปที่นี่คือหอพักหญิงนะ! เขาเข้ามาได้ยังไงกันแน่?
ไม่ใช่สิ ประเด็นสำคัญคือ เขาเตรียมที่จะออกไปตอนไหน?
ในเมื่อที่หอพักอาจจะมีคนมาตรวจห้องได้ตลอดเวลา หากถูกจับได้ว่าเธอซ่อนผู้ชายเอาไว้...
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังเค้นสมองว่าจะโน้มน้าวให้ซือเยี่ยหานจากไปอย่างไร สายตาของซือเยี่ยหานตกไปที่เตียงว่างเปล่าของเธอแล้วเอ่ยถามขึ้นมาประโยคหนึ่งอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย...
“ผ้าห่มล่ะ?”
“หา? ผ้าห่ม?” เยี่ยหวันหวั่นตกใจเล็กน้อย จากนั้นพอรู้สึกตัวก็เอ่ยปากตอบ “ตอนกลางวันอุ้มออกไปตากข้างนอก ยังไม่ได้เก็บกลับมา ให้ฉันไปเก็บไหมคะ…? ”
ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย “อื้อ”
เยี่ยหวันหวั่นไม่เข้าใจทำไมอยู่ดีๆ ซือเยี่ยหานถึงถามหาผ้าห่มขึ้นมา วิ่งออกไประเบียงเก็บผ้าห่มอย่างงงงวย
หอบแฮ่กๆ ปูผ้าปูเตียงและผ้าห่มทั้งหมดจนเสร็จเรียบร้อย ตบหมอนสองสามที
ผ้าห่มและหมอนหลังจากตากแดดก็พองฟูอ่อนนุ่ม แผ่กลิ่นไอของแดด มองดูน่านอนสบายอย่างมาก
ชายหนุ่มมองดูอย่างพอใจ จากนั้น ขาเรียวยาวทั้งคู่เดินไปนอนลงบนเตียงของเธอ “ช่วยตั้งนาฬิกาปลุกหลังสองชั่วโมงให้ฉันที”
เยี่ยหวันหวั่นมองดูชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงเล็กของเธอ ทำท่าทางเตรียมตัวจะนอน เธอก็อึ้งไปเลย
คาดไม่ถึงว่าซือเยี่ยหานเตรียมที่จะนอนที่หอพักของเธอ!