ตอนที่ 15
บทที่ 15 อุปสรรคต่อการนอนหลับ
เฉินเมิ่งฉีรีบถามหยั่งเชิง “หรือว่าคุณชายซือเข้าใจอะไรผิดเพราะเห็นเธอกับกู้เยว่เจ๋ออยู่ด้วยกัน ก็เลยพานโกรธไล่เธอออกมาเหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยิน จึงเอ่ยตอบอย่างไม่ช้าไม่เร็ว “เธอรู้ได้ยังไงว่าซือเยี่ยหานเห็นฉันกับกู้เยว่เจ๋อ? หลายวันนั้นเขาไม่อยู่บ้าน เธอก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ?”
เฉินเมิ่งฉีพลันตอบอึกๆ อักๆ “ฉัน...ฉันเดาน่ะ...ฉันยังหลงคิดว่าเธอไม่ทันระวังตัวถูกจับได้ซะแล้ว! ยังไงรอเธอกลับมาที่โรงเรียนค่อยคุยกันก็แล้วกันนะ!”
“ได้สิ” เยี่ยหวันหวั่นแค่นหัวเราะ แล้ววางโทรศัพท์
ไม่ต้องรีบร้อน เฉินเมิ่งฉี บัญชีความแค้นระหว่างเรา ค่อยๆ คิดก็ได้!
ภายในห้องนอนหลักบนชั้นสูงสุด
หลังจากเยี่ยหวันหวั่นออกไปแล้ว นักสะกดจิตบำบัดกลับเข้ามาในห้องเพื่อเตรียมเริ่มสะกดจิตใหม่อีกครั้ง
“คุณชายเก้า เริ่มกันเลยไหมครับ?”
เหมือนว่าซือเยี่ยหานกำลังคิดเรื่องบางอย่างอยู่ และไม่รู้ว่าได้ฟังคำถามของเขาหรือไม่ เพียงยกมือขึ้นอย่างขอไปที
จากนั้น นักสะกดจิตบำบัดเปิดเพลง จุดกำยานที่สั่งทำขึ้นโดยเฉพาะ และเริ่มทำการชักนำจิตใจ...
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป...
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป...
สองชั่วโมงผ่านไป...
การสะกดจิตล้มเหลว
โม่เสวียนเริ่มสงสัยในชีวิตตัวเองเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ เขาเป็นถึงนักจิตวิทยาชั้นยอด รักษาโรคซับซ้อนที่รักษาไม่หายมานับไม่ถ้วน จนถูกจัดอันดับให้เป็นที่ปรึกษาอันดับหนึ่งของโลกด้านจิตวิทยาการปรึกษาให้กลุ่มทหารรับจ้าง
ทุกครั้งที่รักษาให้ซือเยี่ยหาน เขามักจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นหมอปลอม...
นับตั้งแต่สองปีก่อนที่ซือเยี่ยหานคบหากับเด็กผู้หญิงชื่อเยี่ยหวันหวั่น ทุกครั้งที่เด็กคนนั้นหนีหรือต่อต้านเขา ล้วนส่งผลให้อาการนอนไม่หลับหนักกว่าเดิม
แต่สวี่อี้บอกว่าเด็กคนนั้นเหมือนจะคิดได้แล้ว ช่วงนี้ราบรื่นดีไม่ใช่หรือ?
เมื่อครู่ตอนที่เขาได้พบกับอีกฝ่ายก็ยังตกใจ ไม่ใช่แค่การแต่งหน้าแต่งตัวของเด็กผู้หญิงคนนั้น แม้แต่บุคลิกรวมถึงความรู้สึกที่ให้ก็เปลี่ยนไป ไม่ได้มืดมนเหมือนแต่ก่อน
ในเมื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ได้กระตุ้นซือเยี่ยหาน ทำไมการสะกดจิตครั้งนี้ถึงได้ล้มเหลวอีกแล้ว?
เวลานี้ ซือเยี่ยหานนอนอยู่บนเตียง เงามืดสีคล้ำใต้เปลือกตาค่อยๆ ปรากฏออกมาอีกครั้ง เส้นเลือดสีเขียวบนหน้าผากปูดนูน ท่าทางดุร้าย ชัดเจนว่ากำลังอดทนกับความเจ็บปวดรุนแรงอยู่
ก็เหมือนกับในร่างกายเขามีอสูรร้ายน่ากลัวอาศัยอยู่ ควบคุมไม่ได้ บ้าคลั่ง มีอานุภาพทำลายล้างรุนแรง คอยกัดกร่อนประสาทของเขาทุกขณะ
เมื่อพบว่าอาการของซือเยี่ยหานย่ำแย่ลงเรื่อยๆ สีหน้าของโม่เสวียนยิ่งเคร่งเครียด รีบเอ่ยถามว่า “คุณชายเก้า วันนี้คุณเจอเรื่องอะไรมาครับ? เมื่อครู่คุณหนูเยี่ยคนนั้นมาพูดอะไรกับคุณ?”
ดวงตาที่ปิดสนิทของซือเยี่ยหานลืมขึ้นทันที นัยน์ตาฉายความเย็นชา
ความกดดันรุนแรงทำให้โม่เสวียนยอมแพ้ไม่ซักถามต่ออย่างหมดหนทาง
ถ้าหากซือเยี่ยหานยินยอมพูดคุยกับคนอื่นบ้าง อาการป่วยของเขาก็คงจะไม่สาหัสขนาดนี้
การป้องกันทางจิตใจของเขาแข็งแกร่งเกินไป ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในอาณาเขตของตน
ต่อให้เป็นจิตแพทย์ที่ดีขนาดไหน หากผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือ ก็หมดหนทางช่วย
เมื่อคิดถึงเยี่ยหวันหวั่น อารมณ์ของโม่เสวียนก็สับสนอยู่บ้าง
ร่างกายของซือเยี่ยหานไม่มีความผิดปกติ โดยพื้นฐานอุปสรรคการนอนหลับของเขายืนยันได้ว่าเป็นเพราะสภาพจิตใจ และเป็นไปได้มากว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เกี่ยวข้องกับปมในใจของซือเยี่ยหานด้วย
ไม่อย่างนั้นแล้ว คงยากที่จะอธิบายว่าทำไมซือเยี่ยหาคนที่ปฏิเสธผู้หญิงมาโดยตลอด ถึงได้ยืนกรานรั้งผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งไว้ข้างกาย อีกทั้งจากการสังเกตของเขา เยี่ยหวันหวั่นส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของซือเยี่ยหานได้อย่างง่ายดาย
แต่ว่า เขาไม่อาจหาคำตอบได้จากซือเยี่ยหาน จากทางเยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อะไรนัก
ธุรกิจของตระกูลเยี่ยคือธุรกิจในวงการบันเทิง องค์กรภายใต้การดูแลครอบครองอุตสาหกรรมบันเทิงเกินครึ่ง แต่ถ้าเทียบกับตระกูลที่มีประวัติมายืนยาว มีภูมิหลังอันแข็งแกร่งแล้ว ตระกูลเยี่ยก็เป็นเพียงเศรษฐีธรรมดา ยิ่งกว่านั้นปัจจุบันนี้ตระกูลเยี่ยเปลี่ยนเจ้าของไปแล้ว บิดาของเยี่ยหวันหวั่นถูกไล่ออกจากตระกูลไปนานแล้ว ตอนนี้ผู้ดูแลบริษัทคืออาคนรองเธอ
ตระกูลของเยี่ยหวันหวั่นไม่อาจร่วมกับตระกูลซือกดดันตระกูลใหญ่เก่าแก่ในประเทศ Z แน่นอน เยี่ยหวันหวั่นเองก็ไม่อาจมีความข้องเกี่ยวกับซือเยี่ยหานได้เลย การปฏิบัติต่อเยี่ยหวันหวั่นเป็นพิเศษของซือเยี่ยหาน จึงเข้าใจได้ยากจริงๆ
วันนี้หากยังหาหนทางรักษาโรคเรื้อรังอย่างการนอนไม่หลับของซือเยี่ยหานไม่ได้ เกรงว่าร่างกายของเขาจะทนได้อีกไม่กี่ปี