ตอนที่ 12
บทที่ 12 เธอต้องทนหิวอย่างนั้นเหรอ?
“แล้วก็สนามหญ้าฝั่งตะวันออก อย่างไรก็ไหม้ไปหมดแล้ว ไม่สู้ถือโอกาสเอาหญ้าที่ถูกเผาพวกนี้มาทำเป็นปุ๋ยซะ แล้วเอามาปลูกผักกาดขาวดีกว่า?”
ผัก...กาดขาวงั้นเหรอ?
เห็นอาการตาโตอ้าปากค้างของสวี่อี้ อีกทั้งใบหน้าที่ยากจะคาดเดาอารมณ์ของซือเยี่ยหาน เสียงของเยี่ยหวันหวั่นจึงเบาลงเล็กน้อย ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “เป็นอะไรไป?”
นิ้วเรียวยาวของซือเยี่ยหานเคาะเบาๆ บนถ้วยเซรามิก ช้อนตาขึ้นมาเล็กน้อย “ปกติอยู่บ้านฉัน เธอต้องทนหิวงั้นเหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นอึ้งไปเล็กน้อย “อ่อ...เปล่า...”
ตั้งแต่เด็กเธอไม่เคยต้องกังวลเรื่องอาหารการกิน ไม่เคยต้องทนหิวหรืออดอยาก ยิ่งอยู่บ้านของซือเยี่ยหานด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ พ่อครัวที่สวนจิ่นหยวนผลัดเปลี่ยนอาหารหลากหลายรูปแบบทุกวัน เพื่อให้เธอกินได้มากขึ้นอีกสักหน่อย เพราะหากเธอกินได้น้อยกว่ากฎที่ซือเยี่ยหานตั้งไว้ พ่อครัวพวกนั้นจะถูกไล่ออก
แต่เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป ถึงได้มีนิสัยชอบกักตุนอาหารเหมือนหนูแฮมสเตอร์ ยิ่งรอบกายมีอาหารมากเท่าไร เธอก็ยิ่งรู้สึกปลอดภัยมากเท่านั้น
เพียงแต่ชาติก่อนถูกซือเยี่ยหานกักขังเอาไว้ สุขภาพจิตซึมเศร้าไม่มั่นคง ความอยากอาหารจึงค่อยๆ หายไป
ได้เกิดใหม่ทั้งที นอกจากจะต้องสวยแล้ว เรื่องของอร่อยย่อมขาดไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะเสียเปล่าที่ได้มาเกิดใหม่อีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน ซือเยี่ยหานปรายตามองสวี่อี้ “ทำตามนั้น”
สวี่อี้หน้าซีดรับคำ “ครับ”
เขาช่างไร้เดียงสาเกินไปจริงๆ ถึงได้หลงคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเปลี่ยนนิสัยแล้ว
คาดไม่ถึงว่าเธอต้องการจะเปลี่ยนสวนในคฤหาสถ์ส่วนตัวอันดับต้นๆ เป็นสวนผัก เสียสติไปแล้วจริงๆ...
เยี่ยหวันหวั่นเมื่อได้ยินว่าซือเยี่ยหานยอมตกลง ก็พลันรู้สึกเบิกบานใจ เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “เยี่ยมไปเลย แบบนี้พอถึงฤดูใบไม้ร่วง ก็จะมีของอร่อยเยอะแยะเลย!”
พอถึงฤดูใบไม้ร่วง...
ได้ยินสี่คำนี้ อารมณ์ของซือเยี่ยหานเปลี่ยนไปเล็กน้อย มีสิ่งผิดปกติบางอย่างวาบผ่านสายตา
เยี่ยหวันหวั่นคนก่อนคิดแต่จะหนีไปจากเขา จะมีแก่ใจคิดถึงอนาคตได้อย่างไร?
ตลอดทั้งวัน เยี่ยหวันหวั่นปรึกษากับสวี่อี้ว่าจะปลูกอะไรตรงไหนอย่างละเอียด และคอยสั่งการให้คนทำนั่นนี่
จนถึงพลบค่ำ สวนจิ่นหยวนที่ถูกเยี่ยหวันหวั่นเผาทำลายไปก่อนหน้านี้ก็พลิกโฉมใหม่
ฝั่งตะวันออกปลูกผักกาดขาว ฝั่งตะวันตกปลูกดอกทานตะวัน ด้านข้างกำแพงมีรั้วองุ่นที่ปักขึ้นใหม่ ดอกไม้ใบหญ้าราคาแพงถูกแทนที่ด้วยผักผลไม้ ในบ่อน้ำที่เปลี่ยนน้ำแล้วมีปลากินพืชตัวอ้วนพีและกุ้งมีชีวิตแหวกว่ายอย่างมีความสุข...
สวนจิ่นหยวนที่มีดอกไม้ใบหญ้ามูลค่ามหาศาลทุกตารางนิ้ว แม้แต่คนรับใช้จะเหยียบลงไปยังต้องระวัง ไม่เช่นนั้นอาจเหยียบเงินหนึ่งแสนให้หายวับไปได้ ตอนนี้กลายมาเป็นเช่นนี้ ถึงแม้จะเป็นสวนผักไปแล้ว แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างคาดไม่ถึง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะออกกำลังมากขึ้นหรือเปล่า ความอยากอาหารของเยี่ยหวันหวั่นจึงดีขึ้น กินอาหารเย็นเข้าไปไม่น้อย
หลังจากอิ่มหนำสำราญและสะสมพลังเต็มที่แล้ว เธอจึงเริ่มตรึกตรองปัญหาเมื่อตอนกลางวันอีกครั้ง
ปัญหาไม่ใช่แค่เพียงการไปเรียน แก่นปัญหาที่แท้จริงคือสถานะความสัมพันธ์ของเธอกับซือเยี่ยหานในเวลานี้
จะต้องหาวิธีเปลี่ยนแปลงมันทั้งหมด เธอต้องไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง
ห้องของซือเยี่ยหานอยู่ที่ชั้นบนสุด เป็นสถานที่ที่เธอในชาติก่อนไม่มีวันเหยียบเข้ามาด้วยตนเอง
“ก๊อกๆๆ...”
เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่หน้าประตูอย่างตื่นเต้น สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเคาะประตู
“แกร๊ก” เสียงประตูเปิดออก ภาพที่ปรากฏสู่สายตาคือดวงตาเยียบเย็นราวน้ำแข็งคู่หนึ่ง
“คือว่า ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณหน่อย ตอนนี้คุณสะดวกไหม?”
ชายหนุ่มเหมือนคาดไว้แล้วว่าเธอจะมา ใบหน้าไม่แสดงความแปลกใจแม้แต่น้อย หันกายเดินกลับเข้าไปในห้องโดยไม่พูดอะไร เป็นสัญญาณว่าตกลง
เยี่ยหวันหวั่นรีบก้าวเท้าตาม
ไม่ว่าอย่างไรคืนนี้จะต้องจัดการผู้ชายคนนี้ให้ได้!