ตอนที่ 107
บทที่ 107 ร่วมมือกับฉันเถอะ!
เธอยังคิดว่าฟางฉินหรือคนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นว่าโดนกลั่นแกล้งเป็นคนตั้งกระทู้นี้ขึ้น แต่ไม่เคยคิดเลยว่าคนคนนี้จะเป็นเยี่ยหวั่นหวัน!
กระทู้นี้พูดออกหน้าให้เธอ ช่วยเธอเรียกร้องความไม่ยุติธรรม แท้จริงแล้ว...แท้จริงแล้วเยี่ยหวั่นหวันคนที่เธอมองเป็นศัตรูมาตลอดเป็นคนโพสต์เอง?
เป็นไปได้ยังไง....
“เฉินเมิ่งฉีเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอถึงทำแบบนี้?” เจียงเยียนหรานถามด้วยความอึ้ง
เยี่ยหวั่นหวันเลิกคิ้ว มองไปทางอีกฝ่ายแวบหนึ่ง “หึ เพื่อนสนิทที่สุด? เธอต่างหากล่ะที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเมิ่งฉี แต่ฉันไม่เหมือนบางคน โง่จนคนอื่นต้องมาเตือนถึงค่อยรู้ว่าโดนหลอกจนหัวหมุน!”
ที่จริงคำพูดนี้ของเยี่ยหวั่นหวันก็ยังมีความรู้สึกร้อนตัวอยู่บ้าง เธอก็โง่มาทั้งชีวิตกว่าไอคิวจะพัฒนา
“เธอ....” เจียงเยียนหรานพบว่าจู่ๆ เธอก็ไม่เข้าใจคนตรงหน้านี้เลย
หรือว่าตอนนั้นเยี่ยหวั่นหวันไม่ได้หลุดปาก แต่ตั้งใจพูดต่อหน้าทุกคน?
หรือว่าเฉินเมิ่งฉีก็ตีสองหน้าลงมือทำอะไรเยี่ยหวั่นหวันเหมือนกัน แล้วโดนเยี่ยหวั่นหวันจับได้ ดังนั้นท่าทีของเยี่ยหวั่นหวันถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้?
เจียงเยียนหรานยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้ เธอคิดกระทั่งเยี่ยหวั่นหวันโดนบีบออกไปอย่างไร เพราะตอนแรกเฉินเมิ่งฉีทำเหมือนไม่ตั้งใจหลุดพูดออกมาต่อหน้าพวกเขาว่าเยี่ยหวั่นหวันมีคนเลี้ยงดูอยู่นอกโรงเรียน ชีวิตส่วนตัวเละเทะมาก แล้วยังเป็นกามโรคอีก
ตอนนี้มาคิดดู จากนิสัยของเฉินเมิ่งฉีแล้ว ความน่าเชื่อถือของคำพูดพวกนี้ควรค่าแก่การกลั่นกรองทีเดียว!
เห็นท่าทางเจียงเยียนหรานประหลาดใจสงสัย เยี่ยหวั่นหวันรู้ว่าด้วยไอคิวของอีกฝ่ายน่าจะเข้าใจเรื่องราวมากมายนี้แล้ว ดังนั้นเลยพูดด้วยสีหน้าเหมือนนักต้มตุ๋น จะหลอกให้หลงกล...
“คุณหนูใหญ่เจียง อยากจะให้ผู้ชายเลวๆ แซ่ซ่งนั่นรักเธอจนตายโงหัวไม่ขึ้นใช่ไหม? อยากจะให้เฉินเมิ่งฉีเผยธาตุแท้ออกมาต่อหน้าคนอื่นให้ชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปทั่วหรือเปล่า? อยากจะให้นายซ่งผู้ชายเลวๆ นั่นเห็นนิสัยที่แท้จริงของเฉินเมิ่งฉีแล้วเสียใจที่ตอนแรกไม่ได้เลือกเธอใช่ไหม?”
ถึงแม้เจียงเยียนหรานไม่ได้ตอบ แต่ทุกประโยคที่เยี่ยหวั่นหวันพูด สายตาของเจียงเยียนหรานเป็นประกายขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าทุกคำพูดของเยี่ยหวั่นหวันนั่นแทงใจดำเธอ
พูดมาถึงตอนสุดท้าย เยี่ยหวั่นหวันกะพริบตา พูดหนึ่งประโยคว่า “มาร่วมมือกับฉันเถอะ!”
เจียงเยียนหรานอึ้งไป มองไปทางอีกฝ่ายด้วยความสงสัย “ร่วมมือ? ทำไมฉันถึงต้องเชื่อเธอด้วย ทำไมฉันต้องร่วมมือกับเธอ?”
เยี่ยหวั่นหวันขบคิด “เพราะว่าฉันสวย?”
เจียงเยียนหรานทำหน้าบึ้ง
“เพราะพวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน เหตุผลนี้เพียงพอไหม?” ครั้งนี้ เยี่ยหวั่นหวันพูดจริงจัง
เพราะข้อจำกัดของซือเยี่ยหาน จึงมีเรื่องมากมายที่เธอไม่สะดวกลงมือ ทุกวันแม้แต่จะออกไปนอกโรงเรียนยังไม่กล้าเลย จำเป็นต้องมีคนร่วมมือสักคนจริงๆ
เจียงเยียนหรานเงียบไปนานมาก จากนั้นถามขึ้นมา “ฉันรู้ได้ไหมว่าทำไม? ทำไมจู่ๆ เธอถึงเป็นศัตรูกับเฉินเมิ่งฉี?”
เยี่ยหวั่นหวันยิ้มมุมปาก “บังเอิญจัง เหมือนเธอเลย เพราะยัยนั่นอยากจะได้ผู้ชายของฉันไง”
“ผู้ชายของเธอ...” เจียงเยียนหรานรู้สึกตกใจ ดูท่าไม่ค่อยเชื่อนักว่าเยี่ยหวั่นหวันมีแฟน
หรือว่าเยี่ยหวั่นหวันจะเป็นเหมือนเธอที่แอบรักผู้ชายอยู่ฝ่ายเดียว!
คิดมาถึงตรงนี้ เจียงเยียนหรานค่อยรู้สึกเห็นใจคนหัวอกเดียวกัน
ดังนั้นเมื่อกี้เยี่ยหวั่นหวันจงใจพูดคำพวกนั้นเพื่อแทงใจดำเธอ ที่จริงแล้วก็เพื่อให้เธอคิดได้ใช่ไหม?
ถึงแม้จะเปลี่ยนมุมมองต่อเยี่ยหวั่นหวันไป แต่เพิ่งผ่านเรื่องหลอกลวงมาครั้งหนึ่ง เจียงเยียนหรานจึงไม่เชื่อใครง่ายๆ แบบนั้นอีกแล้ว ก่อนจะถามอย่างระมัดระวัง “เธออย่าคิดว่าพูดอะไรตามใจไม่กี่คำแล้วฉันจะเชื่อนะ ฉันกับเธอยังเป็นศัตรูกันอยู่!”