ตอนที่ 32
ตอนที่ 32 วิธีการใช้ระบบไฮเทคที่ถูกต้องคือการอ่านหนังสือจนดึก?
ลู่โจวรู้สึกซาบซึ้งกับคำพูดของศาสตราจารย์ถัง
ศาสตราจารย์ถังเป็นห่วงเขาจริงๆ
อย่างไรก็ตามฉันไม่มีทางเลือก ระบบมอบพิมพ์เขียวให้ฉัน ถ้าไม่ใช้มันคงสูญเปล่า!
หลังจากทานมื้อค่ำเสร็จ ลู่โจวก็มุ่งหน้าไปห้องสมุด บรรณารักษ์เฝ้าดูเขายืมหนังสือเรขาคณิตวิเคราะห์ สมการเชิงอนุพันธ์สามัญ ฟังก์ชันค่าจริงและค่าเชิงซ้อน การวิเคราะห์เชิงฟังก์ชัน เรขาคณิตเชิงอนุพันธ์และโทโพโลจีและหนังสือที่เกี่ยวข้องเล่มอื่นๆ ที่อยู่ในลิสต์หนังสือของระบบ
หนึ่งในสามในลิสต์หนังสือประกอบด้วยหนังสือคณิตศาสตร์
ถ้าเขาอ่านหนังสือเสร็จ เขาคงจบหลักสูตรคณิตศาสตร์ระดับปริญญาตรี
แต่...
ลู่โจวมองดูขวดยาแล้วคิด 'แคปซูลสมาธิสี่สิบอันจะพอไหม? ' เขาไม่แน่ใจ
ลู่โจวส่ายหน้าแล้วตัดสินใจไม่คิดเรื่องนี้อีก เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ภารกิจนี้สำเร็จ
ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นหลังยาหมด?
ค่อยมาคิดทีหลัง
ลู่โจวเปิดฝาขวดน้ำที่เตรียมไว้แล้วโยนเม็ดแคปซูลเข้าปาก
เนื่องจากประสบการณ์ครั้งก่อน เขาจึงเข้าสู่สมาธิอย่างรวดเร็ว
...
แสงอาทิตย์ยามเช้าเริ่มสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา
สายลมพัดผ่านผ้าม่านปลิวไสว เสียงจักจั่นขับร้องดังทะลุมายังด้านใน หัวของลู่โจวฟุบอยู่บนโต๊ะทำงาน ขนตาของเขาเริ่มขยับ พร้อมค่อยๆ ลืมตาขึ้น
"..."
เขารู้สึกปวดไปทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณลำคอ
เขาใช้เวลาทบทวนหนังสือตลอดทั้งคืนจนถึงขั้นจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาจำได้แค่ว่ารู้สึกเหนื่อยมากเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ที่เขาจำได้หลังจากนั้นก็คือ หัวเขาจมอยู่กับหนังสือพร้อมกับเผลอหลับไป
ในห้องเรียนยังคงเปิดไฟเอาไว้เพื่อให้นักศึกษาได้ทบทวนเตรียมสอบเข้าปริญญาโทและปริญญาเอก ความปลอดภัยในช่วงฤดูร้อนนี้จึงมีความหละหลวม ดังนั้นจึงไม่มีใครมาปลุกเขา ทำให้ลู่โจวหลับใหลตลอดทั้งคืน
กี่โมงแล้ว?
โทรศัพท์ของลู่โจวเหลือแบตเตอรี่ต่ำแล้ว เมื่อเปิดดูโทรศัพท์ เขาก็ตะโกนออกมา
"สิบเอ็ดโมง...แล้วฉันมีสอนตอนบ่าย"
เขานั่งลงสักพักสะบัดหัวไล่ความมึนงงออกไปแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
ลู่โจวเอาน้ำเย็น สาดหน้าแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นมาก เขาเดินกลับเข้าไปพักในห้องเรียนแล้วความทรงจำของเมื่อวานก็เริ่มฟื้นกลับมา
ข้อสรุปจากครั้งล่าสุดของเขาคือ แม้ว่าจะผ่านไปห้าชั่วโมงแล้ว แต่ผลของยาก็ยังหลงเหลืออยู่บ้าง
เพื่อทดสอบระยะเวลาสูงสุดของแคปซูล ลู่โจวจึงเลือกที่จะลองในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีเสียงรบกวนใดๆ
ผลลัพธ์คาดไม่ถึงเลยทีเดียว
เขาพบว่าหลังจากกำจัดสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิไป แม้จะผ่านไปห้าชั่วโมงแล้ว แต่ยาก็ยังออกฤทธิ์ในสมองของเขาอยู่
เมื่อไม่มีเสียงรบกวนและการขัดจังหวะ เขาสามารถรักษาสภาวะสมาธิไว้ได้
อย่างไรก็ตามการคงสภาวะสมาธิสูงจะทำให้สมองเขาได้รับความเสียหาย เริ่มแรกมีอาการปวดหัวเบาๆ จากนั้นมันก็จะกระตุ้นกลไกป้องกันตัวเองแล้วเขาก็เริ่มหมดสติไปในที่สุด
"ฉันคิดว่าผลห้าชั่วโมงนี้ไม่แน่นอน ถ้าพยายาม ฉันสามารถเพิ่มระยะเวลาได้อีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ถ้าฉันพยายามมากกว่านี้แล้วผลักดันไปจนถึงขีดจำกัด สมองฉันก็จะเฉียบแหลมอย่างผิดปกติ ส่วนผลข้างเคียง มันไม่ต่างอะไรกับการโต้รุ่งทั้งคืน"
ลู่โจวพูดกับตัวเองแล้วอดหาวไม่ได้
"ดูเหมือนหลังจากทานยา ฉันต้องอ่านหนังสือจนดึกเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด"
ลู่โจวบิดคอที่รู้สึกปวด จากนั้นเขาก็หลับตาลงแล้วเข้าสู่มิติของระบบ โดยเปิดหน้าภารกิจขึ้นมา
[ความคืบหน้าของภารกิจ 2/30]
ดูเหมือนว่าหนังสือ'พีชคณิตเชิงเส้น'และ'เรขาคณิตเชิงวิเคราะห์'ทั้งสองเล่มนี้ระบบจะให้ผ่านแล้ว ขั้นต่อไปคือสมการเชิงอนุพันธ์สามัญ
ถ้าเขาดำเนินต่อด้วยความเร็วระดับนี้ คือการทำ’ ภารกิจรางวัล’ ให้เสร็จสิ้นด้วยแคปซูล สี่สิบ เม็ดจะไม่มีปัญหาแน่นอน
.....
ลู่โจวเก็บของใส่ในกระเป๋าแล้วเดินกลับหอพักก่อน เขาอาบน้ำสวมเสื้อผ้าสะอาดแล้วออกไปข้างนอกพร้อมโบกเรียกแท็กซี่ จากนั้นเขาก็บอกให้คนขับไปตามที่อยู่บนนามบัตร
ช่วงฤดูร้อนในเมืองจินหลิงอุณหภูมิค่อนข้างสูง
ด้วยการที่ไม่ต้องจ่ายค่าเดินทาง ดังนั้นเขาจึงนั่งแท็กซี่แทนที่จะขึ้นรถเมล์
หลังจากนั้นไม่นาน แท็กซี่ก็มาจอดที่ชุมชนที่ชื่อว่า 'จื่อจิงฮวาหยวน' ลู่โจวลงจากรถแล้วขยับหน้าขึ้นลง เขารู้สึกกระวนกระวาย
ชุมชนนี้คู่ควรกับชื่อ ฮวาหยวน เป็นสวนที่มีต้นไม้แต่ละต้นถูกตัดแต่งอย่างสวยงาม
บริเวณนี้ถือเป็นทำเลที่ดีที่อยู่ใกล้กับย่านธุรกิจ มันมีพื้นที่สีเขียวมากมายล้อมรอบ แถมมันยังเป็นสไตล์อะพาร์ตเมนต์แบบหรูหรา ค่าครองชีพที่นี่ต้องสูงอย่างที่จินตนาการไม่ได้ มีแต่คนที่ถูกเรียกว่าชนชั้นสูงเท่านั้นที่อยู่ที่นี่ได้
ลืมเรื่องจำนวนเฉพาะของแมร์แซนร้อยล้านตัวแรกไปได้เลย ต่อให้คุณแก้ปัญหาข้อคาดคะเนของบีลและได้รับรางวัลหนึ่งล้านเหรียญ คุณก็อาจไม่มีปัญญาซื้ออะพาร์ตเมนต์ที่นี่
ลู่โจวมองยามและยามก็มองกลับมาทางเขา เห็นได้ชัดว่าลู่โจวไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงไม่ปล่อยให้เข้าไปข้างใน
ลู่โจวเริ่มใจร้อน ดังนั้นเขาจึงโทรหาคุณหยาง เธอโทรหายามแล้วบอกให้ยามปล่อยให้เขาเข้าไป
เขาเดินออกจากลิฟต์แล้วกดออดเรียก ทันใดนั้นก็ได้ยินเหมือนวัตถุกระทบพื้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องดังมาจากหลังประตู
"แม่ไม่เคยสนใจฉันเลย เลิกแสร้งทำเป็นว่าแม่ทำทุกอย่างเพื่อฉันได้แล้ว"
ปัง!
ลู่โจวยังคงได้ยินเสียงอู้อี้ดังออกมา
ไม่นะ...
งานนี้ดูไม่ดีแล้ว
ลู่โจวลังเลอยู่ในใจ เขากำลังคิดว่าควรเข้าไปหรือไม่
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากหลังประตูแล้วประตูก็ถูกเปิด
ลู่โจวประหลาดใจเมื่อเห็นคุณหยาง จากสีหน้าเย็นชาของเธอ เขาก็รู้เลยว่าเธอพึ่งทะเลาะกับลูกสาวมาอย่างใหญ่โต
คุณหยางกล่าวอย่างใจเย็น "ครูลู่ใช่ไหม รองเท้าแตะวางตรงนั้น เชิญเข้ามา"
ลู่โจวกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ "ผมไม่ใช่ครู เรียกผมแค่ลู่โจวก็พอครับ"
"ครูสอนพิเศษก็ยังเป็นครู เชิญมาทางนี้"
ลู่โจวเดินผ่านประตูแล้วสังเกตเห็นเศษแก้วแตก มันดูเหมือนผลงานศิลปะ
มีประตูห้องหนึ่งปิดอยู่ เขาคิดว่ามันต้องเป็นห้องลูกพี่ลูกน้องของเฉินยู่ซาน
คุณหยางไม่ได้ปล่อยให้เขาอยู่ในห้องนั่งเล่น กลับกันเธอพาเขาไปห้องหนังสือแทน เธอส่งสัญญาณให้เขานั่งลงแล้วยิ้มบางๆ
"ขอโทษที่ให้เธอมาเจอเรื่องแบบนี้"
มันน่าอึดอัดเล็กน้อย...
ลู่โจวยิ้มและไม่ได้ตอบอะไร
เขาแค่มาทำงาน เลยไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุระครอบครัวของพวกเขา
คุณหยางไม่ได้พูดอะไร เธอหยิบบุหรี่มากล่องหนึ่ง
"เธอสูบไหม? "
ลู่โจวปฏิเสธ "ผมไม่สูบครับ"
คุณหยางพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไร เธอปิดกล่องบุหรี่แล้วมองนาฬิกาบนกำแพงก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลียเล็กน้อย
"บ่ายโมงแล้ว ฉันเลิกงานตอนหกโมง ในช่วงเวลานี้เธอจะต้องดูแลหานเมิ่งฉี ฉันเอาหนังสือเรียน แบบฝึกหัดข้อสอบและเอกสารอื่นๆ ไว้ในห้องหนังสือ เธอแค่ต้องสอนคณิตศาสตร์ให้"
"สถานการณ์ของเธอตอนนี้โอเคไหม? " ลู่โจวถามอย่างลังเล
ถ้าเธออยู่ในห้อง เขาจะไม่สามารถสอนได้
"ไม่มีปัญหา" คุณหยางกล่าว เธอหยิบกุญแจออกมาแล้ววางไว้บนโต๊ะเบาๆ โดยสีหน้าไม่เปลี่ยน "นี่เป็นกุญแจห้อง"
ให้ตายเถอะ?
คุณเรียกตัวเองว่าเป็นแม่ได้ยังไง?
ปัญหานี้ร้ายแรงมาก!
"ผมคิด..."
"เธอคิดอะไร? "
"ไม่มีอะไรครับ..." ลู่โจวส่ายหน้า
ลู่โจวอยากพูดว่าถ้าทำแบบนี้จะทำให้ความตึงเครียดระหว่างพวกเขาเพิ่มขึ้น แต่เขาก็เป็นเพียงคนนอก มันไม่เหมาะที่จะไปพูดเรื่องครอบครัวคนอื่น เพราะมันค่อนข้างละเอียดอ่อน
นอกจากนี้เขาเชื่อว่าคุณหยางคงไม่มองจากมุมของเขา
เพียงแต่...
เขาไม่รู้ว่าเธอหมดหวังหรือเธอแค่ไม่สนใจ
คุณหยางลุกขึ้นยืนแล้วกล่าว "งั้นฉันจะมอบกุญแจให้ มีสอบเดือนกรกฎาคมก่อนวันหยุด ถ้าเธอได้คะแนนมากกว่า แปดสิบฉันจะมอบโบนัสให้ ถ้าเธอทำได้ไม่ถึงแปดสิบฉันอาจจะคิดเรื่องเปลี่ยนครูสอนพิเศษ"
ยังไม่ทันที่ลู่โจวจะตอบ เธอก็ออกจากห้องหนังสือไปทันที
"ลืมบอกอีกเรื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกฉันหนีไป ฉันจะล็อกประตูจากข้างนอก เธอไม่มีปัญหาใช่ไหม? "
"...ไม่มีครับ" ลู่โจวกล่าวพร้อมส่ายหน้า
เธอกลับมาตอนหกโมง แถมเขาก็ไม่มีที่ไหนต้องไป
แต่...
แม้ว่าหลานสาวคุณจะเป็นคนแนะนำผม แต่มันจะไม่เป็นไรจริงเหรอที่ขังคนแปลกหน้าไว้ในบ้านกับลูกสาวของคุณ?
อย่างไรก็ตามคำพูดต่อจากนั้นก็ทำให้เขาหายสงสัย
อะพาร์ตเมนต์หลังนี้มีกล้องวงจรปิดอยู่เป็นโหล ซึ่งไม่มีจุดไหนเสียเลย ถ้าคุณคิดว่ามันรบกวนความเป็นส่วนตัวของคุณ โปรดบอกฉันด้วย
สีหน้าของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลยหลังจากพูดเรื่องนี้ แต่ลู่โจวสัมผัสถึงคำเตือนจากเธอ
เป็นอย่างที่คาดไว้...
คุณคือแม่ที่แท้จริงของเธอเหรอ?
"ผมไม่มีปัญหา"
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่ได้มีความคิดที่จะทำเรื่องน่ารังเกียจ เขาแค่มาทำงาน
ส่วนเรื่องกล้อง มันมีกล้องในห้องสมุดและห้องเรียนกระจายอยู่ทุกจุด เขาชินแล้ว
อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินว่าเธอติดตั้งกล้องวงจรปิดเป็นโหลในอะพาร์ตเมนต์ ลู่โจวก็เข้าใจเล็กน้อยว่าทำไมระหว่างลูกสาวกับแม่ถึงมีความตึงเครียดมากนัก