icon member

อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ตอนที่ 24

ตอนที่ 24 ขวัญผวา

      พวกโจรที่คิดว่าจะตามมาสมทบกับหัวหน้าแล้วล้อมสังหารตงป๋อเสวี่ยอิงนั้นล้วนตะลึงค้างไป หัวหน้าของพวกมันจบชีวิตลงเช่นนี้เองน่ะหรือ

นี่เพิ่งจะประมือกันไม่กี่กระบวนท่า จะจบเร็วเกินไปหน่อยแล้วกระมัง

      ฉึก ตงป๋อเสวี่ยอิงดึงหอกยาวออกมาในพริบตา สายตาหันขวับมาทางพวกโจรเถื่อนที่มือเต็มไปด้วยคาวเลือด

      “รีบหนีเร็ว”

      “หนี”

      โจรทั้งหมดล้วนขวัญผวาแล้ว ในหมู่พวกมันไม่มีอัศวินชั้นฟ้าแม้สักคน ขนาดหัวหน้า “ก้ายปิน” คนเดียวก็ยังสังหารหมู่พวกมันได้ ไม่ต้องพูดถึงเจ้าแดนหนุ่มน้อยที่แกร่งกล้ากว่าก้ายปินมากมายผู้นี้

      “ไอ้พวกสวะ ยังคิดหนีอีกหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพุ่งไปทางโจรเหล่านี้ในอึดใจเดียว เกล็ดหิมะปลิวว่อน เลือดสดสาดกระจาย เช่นเดียวกับที่หมู่โจรเข่นฆ่าชาวบ้านตาดำๆ ตามอำเภอใจ บัดนี้เมื่อพวกโจรเหล่านี้อยู่ต่อหน้าตงป๋อเสวี่ยอิงก็อ่อนแออย่างมากไม่ต่างกัน …อัศวินชั้นดินที่หลงเหลืออยู่เพียงสามคนก็ถูกฆ่าตายภายในชั่วสองลมหายใจ ซากของพวกโจรมากต่อมากลอยขึ้นไปแล้วก็ร่วงลงมา

      “หนีเร็ว หนีเร็ว” โจรทั้งหมดล้วนเข่าอ่อน ความแตกต่างนั้นมากเกินไปแล้ว หอกยาวเล่มนั้นทรงพลังนัก วาดทีหนึ่งก็ต้องคร่าเอาชีวิตน้อยๆ ไปแล้ว ไม่มีโจรคนไหนที่อยู่ต่อหน้าตงป๋อเสวี่ยอิงแล้วต้านรับได้ถึงหนึ่งกระบวนท่าเลย

      “ตาย”

      “ตาย”

      สำหรับโจรเถื่อนของกองมีดโค้งเหล่านี้ ตงป๋อเสวี่ยอิงไม่มีความปรานีให้แม้แต่น้อย พวกโจรเถื่อนที่ถูกไล่ฆ่าเหล่านี้แตกหนีไปสี่ทิศด้วยความหวาดผวา ตงป๋อเสวี่ยอิงรู้ดีว่า…อย่างไรเสียตัวเขาก็มีแค่คนเดียว พวกโจรเถื่อนหนีไปทั้งสี่ทิศเช่นนี้เขาไม่สามารถฆ่าให้หมดทุกคนได้ เพื่อจะกำจัดเนื้อร้ายก้อนนี้ของเมืองอี๋สุ่ย ตงป๋อเสวี่ยอิงจึงจ้องไปยังพวกที่มีกำลังกล้าแกร่งก่อน

      กำจัดพวกชั้นอัศวินไปให้สิ้น

      เพียงอึดใจเดียว พวกโจรเถื่อนก็แตกหนีไปทั้งสี่ทิศจนหมด เหลือเพียงซากศพสองร้อยกว่าร่างบนพื้น หัวหน้า ยอดฝีมือชั้นฟ้า และยอดฝีมือชั้นดินซึ่งเป็นแกนหลักที่แท้จริงของทั้งกองมีดโค้งล้วนไม่หลงเหลือเลยสักคน

      กองมีดโค้งถูกทำลายลงเช่นนี้เอง

      ส่วนพวกกระจอกนั้น กองรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านเองก็คงต้านทานได้แล้ว

“ไว้ชีวิตด้วยเถิด ไว้ชีวิตด้วยเถิด” ยังมีโจรอีกห้าคนที่ถูกจงหลิงต้อนไปจนมุมอยู่ที่แผ่นผา พวกมันล้วนแต่ไม่กล้าขยับ เพราะว่าพวกที่ขยับก็ล้วนตายไปสิ้นแล้ว

      “เสวี่ยอิง” จงหลิงพูดพลางหัวเราะฮ่าๆ “ช่างมีความสุขเสียจริง เนื้อร้ายก้อนใหญ่อย่างกองมีดโค้งถูกทำลายลงเช่นนี้เอง ข้าค้นศพก้ายปินและพวกยอดฝีมือบางคนแล้ว พบของมีค่าไม่น้อย โดยเฉพาะร่างก้ายปินนั้นยังมีของมีค่าที่ไว้เก็บวัตถุด้วย”

      ตงป๋อเสวี่ยอิงตกใจอยู่บ้าง มีของมีค่าที่ไว้เก็บวัตถุด้วยหรือ

      “ไอ้มหาโจรนี่ ฐานะทางบ้านไม่ธรรมดาจริงด้วย” ตงป๋อเสวี่ยอิงเดินมา

      “เอ้า” จงหลิงส่งห่อผ้าห่อหนึ่งมาให้ ในห่อผ้ามีตั๋วเงินที่ออกโดยร้านเงินของอาณาจักรอยู่จำนวนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าการเป็นโจรนั้นก็แค่อยู่ไปวันๆ พวกของมีค่าโดยทั่วไปนั้นล้วนต้องพกติดตัว หนึ่งในนั้นยังมีแหวนวงหนึ่งด้วย

      หลังตงป๋อเสวี่ยอิงหยิบแหวนวงนั้นขึ้นมา ก็มีปฏิกิริยาในทันใด พลังการต่อสู้ไหลไปตามแหวนแล้วแทรกซึมเข้าไป ชะล้างภายในแหวนทั้งวงรอบหนึ่ง ทันใดนั้นแหวนกับจิตวิญญาณของตงป๋อเสวี่ยอิงก็เกิดปฏิกิริยากันขึ้นมา เหล่าอัศวินและนักเวทย์ล้วนสามารถใช้พลังการต่อสู้และพลังเวทย์ในการหลอมที่เก็บวัตถุได้ หากเป็นคนธรรมดาแล้ว จำเป็นต้องให้เหล่านักเวทย์ช่วยใช้เลือดสดหลอม

      “เพื่อนรัก” พอหลอมออกมา ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ตกตะลึง ข้างในวางของมีค่าเอาไว้กระจัดกระจายกันเป็นจำนวนไม่น้อย หลักๆ แล้วก็คือพวกของเบ็ดเตล็ดอย่างตั๋วเงิน ตำลึงทอง และอาวุธ แต่ว่าพื้นที่เก็บของทั้งหมดนั้นมีเพียงแค่สองเชียะ เล็กกว่าจี้เก็บวัตถุที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้ตนอยู่ไม่น้อย 

      “ตั๋วเงินมากถึงเพียงนี้” จิตวิญญาณของตงป๋อเสวี่ยอิงสามารถรับรู้ได้ถึงวัตถุทั้งหมดที่เก็บอยู่ข้างในพื้นที่เก็บวัตถุ

      ตั๋วเงินมูลค่ารวมแปดหมื่นห้าพันตำลึงทอง และยังมีของมีค่าเล็กๆ น้อยๆ รวมแล้วกว่าเก้าหมื่นตำลึงทอง

      ทรัพย์สมบัติของโจรที่เป็นนักเวทย์ชั้นฟ้าและอัศวินคนอื่นๆ รวมกันทั้งหมดก็ได้สองหมื่นกว่าตำลึงทอง

      “เป็นโจรก็รวยไม่เบานะเนี่ย” ตงป๋อเสวี่ยอิงพึมพำ

      “พวกเจ้าห้าคน”

      ตงป๋อเสวี่ยอิงมองไปทางโจรเถื่อนผู้หวาดผวาห้าคนนั้น “ไปอยู่ข้างหน้าเสีย นำทางไปยังรังซ่องสุมของพวกเจ้า หากนำทางถูกต้องก็จะไว้ชีวิตเจ้า หากนำทางผิดล่ะก็…ต้องตายกันหมด”

      “ขอรับๆๆ”

      “ใต้เท้าเจ้าแดนวางใจเถิด พวกเราย่อมนำทางอยู่แล้ว” โจรเถื่อนทั้งห้ารับคำสั่งทันที

  ……

      เหล่าโจรเถื่อนนำทางอยู่ข้างหน้าด้วยจิตใจอันหวาดหวั่น

      ตงป๋อเสวี่ยอิงและจงหลิงเดินตามมาข้างหลัง

      “ท่านอาจง ให้ท่าน” ตงป๋อเสวี่ยอิงส่งแหวนเก็บวัตถุให้ท่านอาจง

      “จะได้อย่างไร เจ้าเป็นคนทำลายกองมีดโค้ง ของพวกนี้ควรเป็นของเจ้า” จงหลิงปฏิเสธ

      “ฮ่าๆ ท่านแม่มอบจี้เก็บวัตถุให้ข้ามาตั้งนานแล้ว ข้าไม่ต้องใช้สิ่งนี้หรอก” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด

      “แต่เจ้าเก็บไว้ให้ชิงสือก็ได้นี่นา อีกหน่อยชิงสือจะกลายเป็นนักเวทย์  นักเวทย์ยังต้องใช้ที่เก็บวัตถุนะ” จงหลิงส่ายหน้า

      ตงป๋อเสวี่ยอิงส่ายหน้าเบาๆ “ยังเร็วเกินไปมาก ชิงสือติดตามอาจารย์ของเขา ต้องใช้เวลาศึกษาอย่างน้อยหลายปีถึงจะได้เป็นนักเวทย์จริงๆ ถึงตอนนั้น ข้าก็จะให้อันที่ดีกว่านี้กับชิงสือ ท่านอาจง ท่านอย่าลืมว่า ครั้งนี้พวกเราได้อะไรมามากมายนัก”

      จงหลิงชะงักไป แต่แล้วก็ยิ้มออกมา

      ใช่สิ ครั้งนี้มีทั้งเสือดาวเงามืด มีทั้งราชันย์หมาป่าจันทร์เงิน ราคาก็แสนกว่าตำลึงทองแล้ว รวมกับที่ทำลายกองมีดโค้งแล้วได้มาอีกแสนกว่าตำลึงทอง นับว่าหาเงินได้ก้อนใหญ่มหาศาลจริงๆ 

      “ก็ได้” จงหลิงไม่พูดอะไรมากอีกต่อไป รับแหวนเก็บวัตถุมา หลอมแหวนอย่างไม่คิดอะไร

      “เอ๊ะ” จงหลิงตะลึง เขาพบตั๋วเงินจำนวนมากและตำลึงทองอีกจำนวนหนึ่งในแหวนเก็บวัตถุแล้ว ลำพังแค่ตั๋วเงินก็มีค่าห้าหมื่นตำลึงทองแล้ว

      “แดนอินทรีหิมะยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ อีกมาก ห้าหมื่นตำลึงทองนี้ ทางท่านอาจงรับไว้ไปใช้ก่อน หากไม่พอใช้เมื่อไหร่ค่อยว่ากัน” ตงป๋อเสวี่ยอิงลดเสียงลงพูดว่า “กลับไปครั้งนี้ ข้ายังต้องหาโอกาสทยอยขายขนราชันย์หมาป่าจันทร์เงินและซากเสือดาวเงามืดทิ้ง”

      ซากเสือดาวเงามืดวางไว้ในที่เก็บวัตถุซึ่งไร้อากาศ เป็นสุญญากาศอย่างสมบูรณ์ มีประโยชน์ต่อการเก็บรักษาวัตถุเป็นอย่างยิ่ง

      “อืม” จงหลิงพยักหน้าเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด พลังของเสวี่ยอิงยังคงเพิ่มสูงขึ้นไปได้อีก ค่าใช้จ่ายของแดนอินทรีหิมะก็ย่อมค่อยๆ เพิ่มขึ้นได้อีกเช่นกัน

      หลังเดินไปได้ไม่นาน

      “ใต้เท้าเจ้าแดนขอรับ ข้างหน้านี่ก็ถึงแล้ว” โจรเถื่อนห้านายล้วนเคารพนอบน้อมหาใดเปรียบ โจรเถื่อนรูปร่างเล็กผอมคนหนึ่งพูดต่อว่า “รังซ่องสุมของพวกเราอยู่ในลาดเขา หากคนทั่วไปเดินมาถึงหน้าเขาแล้วล้วนแต่มองไม่ออก ทางทะลุเข้าไปยังลาดเขานั้นเร้นลับมาก”

      “นำทางไป”

      ตงป๋อเสวี่ยอิงมือกุมหอกยาว ระแวดระวังตลอดเวลา

      โจรเถื่อนห้าคนเดินไปข้างหน้าอย่างชำนาญยิ่ง แต่ตงป๋อเสวี่ยอิงกลับแอบรู้สึกได้ถึงภัยคุกคามอันน่ากลัว

ราวกับในภูเขาใหญ่ข้างหน้ามีสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่น่ากลัวแอบซุ่มอยู่

      ตั้งแต่บรรลุถึงเขตแดนปรมาจารย์วิถีหอกยาวเป็นต้นมา เขาก็เกิดความเข้าใจถ่องแท้ สัมผัสฟ้าดินและธรรมชาติได้อย่างน่าพิศวงขึ้นเรื่อยๆ  อย่างเช่นปกติแล้วสามารถสัมผัสถึงสัตว์มารได้ล่วงหน้า หรือแม้กระทั่งหลุมพรางของเหล่าโจรก็สามารถพบได้ล่วงหน้าเช่นกัน

      “เรื่องอะไรกันเนี่ย ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกถึงกลิ่นอายอะไร แต่ก็ขวัญผวาอย่างระงับไม่ได้” ตงป๋อเสวี่ยอิงรู้สึกใจสั่น จู่ๆ ก็หยุดเดินแล้วเอื้อมมือไปรั้งท่านอาจงเอาไว้

      เขามองไปยังภูเขาใหญ่ตรงหน้า บนแผ่นผามีตะไคร่ขึ้นอยู่

      “เสวี่ยอิง เป็นอะไรไป” จงหลิงงุนงง

“ท่าไม่ค่อยดีเอาเสียเลย ข้ารู้สึกไม่ดีเอามากๆ” ตงป๋อเสวี่ยอิงลดเสียงต่ำ “ไปเร็ว รีบไปเร็ว”

      จงหลิงหน้าถอดสี เขาไม่ได้สงสัยเลยแม้แต่น้อย

      สวบๆ

      ทั้งสองรีบหันกายกลับไปอย่างรวดเร็ว

      “ใต้เท้าเจ้าแดนขอรับ ทางทะลุเข้าไปยังลาดเขานั้นเร้นลับมาก ซ่อนอยู่หลังกองหินรกๆ นี่แหละ ท่านเจ้า…เอ๋ คนล่ะ” เมื่อโจรเถื่อนทั้งห้าหันกลับมาก็พบว่า ตงป๋อเสวี่ยอิงและจงหลิงที่เดิมเดินตามอยู่ข้างหลังนั้นหายตัวไปไม่เห็นเงาแล้ว

“ไปแล้วหรือ เจ้าแดนหนุ่มน้อยแห่งแดนอินทรีหิมะนั่นไปแล้วหรือ”

      “พี่ชายทั้งหลาย กองมีดโค้งจบเห่แล้ว รีบไปหาของมีค่าสักหน่อยแล้วหนีเอาชีวิตรอดกันเถอะ”

      โจรเถื่อนเหล่านี้ล้วนแต่หัวใสนัก พวกมันค่อยๆ เข้าไปในรังซ่องสุมทีละคน

      ฟิ้ว…

      แผ่นผาเหนือภูเขาใหญ่ที่ยืนหยัดผ่านคืนวันอันไร้ที่สิ้นสุดนั้นปรากฏใบหน้าใหญ่มหึมา คิ้ว ตาและปากที่สร้างขึ้นจากศิลาล้วนมีกลิ่นอายสูงส่ง นัยน์ตาทั้งสองของมันมองไปยังตงป๋อเสวี่ยอิงและจงหลิงที่อยู่ไกลออกไปหลายลี้แล้ว

      ใบหน้าใหญ่มหึมามีสีหน้าสงสัย “เอ๊ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะสัมผัสถึงการมีอยู่ของข้าได้ด้วย หนุ่มน้อยคนหนึ่งก็ร้ายกาจถึงเพียงนี้ บางทีเบื้องหลังอาจมีผู้แกร่งกล้าในมวลมนุษย์อยู่ก็เป็นได้”

      “ต้องเปลี่ยนที่เฝ้าดูมวลมนุษย์เสียแล้ว”

      ใบหน้าใหญ่มหึมาบนแผ่นผาหายไปอย่างรวดเร็ว แผ่นผากลับมาเป็นปกติ

      โครม

      ลึกลงไปใต้พื้นดิน สิ่งมีชีวิตใหญ่ยักษ์ออกจากที่นี่ไปอย่างเงียบเชียบแล้วย้ายไปที่อื่น

  ……

      ณ ที่ตั้งค่ายนอกหุบเขาทำลายล้าง

      ตงป๋อเสวี่ยอิงและจงหลิงวิ่งออกนอกหุบเขาทำลายล้างด้วยความเร็วสูงสุดจนมาถึงที่ตั้งค่าย

      “ในที่สุดก็ออกมาได้แล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงหันไปมองข้างหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยังคงใจสั่นเช่นเดิม

อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด