ตอนที่ 11
“อันที่จริงสิ่งที่กูต้องการคือชีวิตไอ้กัลป์เพื่อนรักมึง แต่ดูๆแล้วน้ำหน้าอย่างมึงคงลงมือไม่สำเร็จ เอาอย่างนี้ดีไหม...กูจะให้โจทย์ง่ายกว่านั้นสำหรับมึง...กูอยากได้คมแฝกแสงอัคคีของไอ้กัลป์”
องอาจนิ่งไปเพราะลังเลและแสนก็รู้ดี “ไม่เอาน่า องอาจ น้องสาวมึงถึงจะเพี้ยนแต่ก็สวยไม่เบา ถ้าพวกลูกน้องกูมันเกิดอดใจไม่ไหวแล้วทำอะไรชั่วๆขึ้นมา
มีหวังคงได้เป็นบ้าจนกู่ไม่กลับแน่”
แสนขู่ก่อนสำทับทิ้งท้าย
“รุ่งสางวันพรุ่งนี้กูจะรอคำตอบที่โกดังไร่ราชสีห์ ถ้าไม่เห็นคมแฝกแสงอัคคี...น้องสาวมึงมีหวัง...”
ooooooo
นอกจากจะขู่ให้องอาจขโมยคมแฝกแสงอัคคีของกัลป์ แสนยังส่งหมวดนิตย์ไปสืบประวัติองอาจด้วยเพราะเห็นนามสกุลของดวงใจจากแฟ้มประวัติแล้วพบว่าไม่ใช่นามสกุลชาตินักรบ
องอาจยังไม่รู้ตัวว่าจะถูกแฉ แบกหน้าเครียดๆกลับไปหาพวกกัลป์ที่ป่านอกเมืองพลและตัดสินใจทำตามข้อแลกเปลี่ยนของแสน แต่กระนั้นเพื่อไถ่ถอนโทษเขาจึงมอบมีดไสยดำซึ่งได้มาตอนปะทะกับรังสีให้กัลป์ไว้ป้องกันตัว
กัลป์เอะใจท่าทางแปลกๆขององอาจ “ของมีอาถรรพณ์แบบนี้ มันคงไม่เหมาะกับฉันหรอก”
“แต่บางทีนายอาจต้องใช้...นายรับไว้เถอะ”
หมวดนิตย์รับเงินสินบนก้อนโตจากแสนไปค้นประวัติขององอาจในห้องเอกสารศาลากลางจนพบว่ามีเอกสารลับสุดยอดสองชุดซึ่งทำให้เขาตาโต ตำรวจหนุ่มกังฉินไม่รอช้าต่อสายถึงแสนทันที
“ไอ้องอาจมันตุ๋นพวกเราซะเปื่อย มันไม่ได้เป็นคนฉายหนังขายยาอย่างที่เราเห็นแต่มันเป็นสายทางการ...
ผมจะบอกให้นะว่าไอ้หมอนี่ไม่ใช่สายข่าวธรรมดา
แต่มันเป็นถึงปลัดปราบปรามคนใหม่ของเมืองพล!”
แสนผงะ หมวดนิตย์รู้ดีเหยียดยิิ้มเป็นต่อ “อย่าเพิ่งรีบตกใจนายแสน ผมยังมีข้อมูลสำคัญจะบอกให้รู้ เอกสารที่ผมเจอในนี้มีสองชุด ชุดแรกเป็นของไอ้องอาจ ส่วนอีกชุดนึง...เอ...เป็นของใครน้า นายแสนต้องคาดไม่ถึงแน่ๆ”
น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ของหมวดนิตย์ทำให้แสนใจไม่ดี คาดคั้นให้บอกตอนนี้แต่อีกฝ่ายไม่ยอม “ใจเย็น...
ผมบอกแน่แต่เงินค่าจ้างที่ตกลงผมขอเพิ่มเป็นสองเท่า เอ...ไม่สิ ขอเป็นสามเท่าดีกว่า ไม่ทราบว่านายแสนจะขัดข้องรึเปล่า”
“ได้คืบจะเอาศอก ทำแบบนี้มันไม่สวยเลยนะหมวด”
“ก็แล้วแต่จะคิด นายแสนเตรียมเงินให้พร้อมก็แล้วกัน อีกสักครู่ผมจะไปเยี่ยม”
หมวดนิตย์ลำพองใจมากแต่ไม่ทันก้าวออกจากศาลากลางก็เจอกับใครบางคน...
“เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ กรุณาปรานีต่อประชาชน อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ไม่มักมากในลาภผล มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ดำรงตนในยุติธรรม กระทำการด้วยปัญญา รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต...หมวดไม่เคยได้ยินบ้างหรือไง”
เพลิงในคราบอินทรีย์นั่นเองที่ปะติดปะต่อเรื่องราวจากคำสั่งของแสนที่ให้มาเอาเอกสาร
“นายแสนให้มารับเอกสารสิท่า รู้สึกว่ามึงจะมาสายไปหน่อยนะ”
“ใช่...มาสายไปก้าวนึง”
“เอกสารอยู่นี่แต่กูยังไม่ได้อ่าน มารับไปสิ”










