ตอนที่ 6
คืนเดียวกันภายในหมู่บ้านมอญ อูซานมาปรากฏตัวท่ามกลางความสนุกสนานของชาวบ้านที่มาเที่ยวงานวัด เขาพยายามอดทนต่อคำพูดสามหาวของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่วางก้ามโชว์สาวๆ แต่นานเข้าก็ทนไม่ได้กลายร่างเป็นเสือฉีกร่างวัยรุ่นและชาวบ้านนับสิบต่อหน้าจ่าชัยกับเพื่อนตำรวจอีกสองคน
ผู้กองกำพลเพิ่งมาสมทบหลังจากได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุร้าย จ่าชัยรายงานหน้าเศร้าว่า
“มันแย่มากเลยผู้กอง ผมอยู่ตรงนี้เห็นทุกอย่างพยายามห้าม พยายามช่วยแต่ทุกคนไม่ฟัง เลยต้องลงเอยแบบนี้”
“ไม่เป็นไรจ่า อย่าโทษตัวเองเลย จ่าทำดีที่สุดแล้ว”
“ผมไม่พาตำรวจหรือชาวบ้านไล่ตามล่ามันไปนะครับ ถ้าตามไปก็ได้ตายเพิ่มกันอีก ผู้กองก็รู้ว่ามันคือตัวอะไร”
“ผมเข้าใจ จ่าทำถูกแล้ว” กำพลตบไหล่จ่าชัยเบาๆ พลางเหลียวมองชาวบ้านหลายคนที่ร้องไห้ขวัญหนีดีฝ่อด้วยความสงสาร...
ฝ่ายดอนกับพวกไอ้แคล้วที่ยิงกันอุตลุด บัดนี้ดอนบอกให้หยุดเพราะเชลยผู้หญิงสองคนหนีไปแล้ว แคล้วจึงสั่งไอ้น้อยกับไอ้ยักษ์ให้หยุดยิง
“แต่มันยิงไอ้แหลมตายนะพี่”
“เอาเถอะๆ ตอนนี้ทุกคนใจเย็นกันก่อน เดี๋ยวคุยกัน”
น้อยกับยักษ์ไม่ค่อยพอใจดอน หากแต่เกรงใจลูกพี่แคล้วจึงยอมเก็บปืน ส่วนดาวรู้สึกตัวก็รีบกลับมารวมกลุ่มพี่ชายที่กำลังหงุดหงิดหัวเสีย
“ยังไงล่ะทีนี้ เพราะแกคนเดียว ตอนนี้เรื่องมันวุ่นวายไปหมด”
“ถือว่าหยวนกันเถอะนะ พี่ดอนก็ยิงคนของฉันตายไปคนนึง”
“แกต้องหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ข้า”
“พี่จะเอายังไงว่ามา”
ดาวชิงพูดเสียเองว่า “ก็ทำตามที่คุยกัน แกตามไปเอาตัวผู้หญิงมาให้ได้ อย่าปล่อยให้หลุดเข้าไปสังขละ จนกว่าฉันกับพี่ดอนจะมีคำสั่งใหม่”
“ก็ได้ งั้นพวกข้าจะไปตามจับพวกมันกลับมาให้ได้”
“แล้วศพไอ้แหลมล่ะพี่ จะทำยังไง”
“ศพไอ้หมอนี่เดี๋ยวข้ากับน้องสาวจะจัดการให้เอง พวกเอ็งรีบตามสองคนนั้นให้ได้ก่อน”
แคล้วตกลงโดยดี ตรวจเช็กอาวุธปืนแล้วพาลูกน้องสองคนออกไป ส่วนพิมพ์สายกับซาเงที่คลำทางหนีไปในความมืดเริ่มหวาดกลัว แต่ซาเงก็ปลอบและให้กำลังใจเจ้านายว่า
“เราต้องรอดสิคุณหนู ไม่ต้องกลัวนะ ซาเงอยู่กับป่ามาทั้งชีวิต ซาเงจะพาคุณหนูกลับสังขละเอง”
“เราจะกลับกันยังไง ป่ามันมืดมาก กลางคืนด้วย อาวุธเราก็ไม่มี อันตรายรอบด้านเลย”
“ก่อนอื่นคืนนี้เราต้องหาที่ซ่อนตัวกันก่อน พอสว่างแล้วค่อยหาทางกลับบ้านกัน”
พิมพ์สายพยักหน้ายอมให้ซาเงจูงมือเดินต่อไป
ooooooo










