ตอนที่ 9
“ความต้องการของอั๊วกับความต้องการของนายท่านไม่เหมือนกัน ถ้าถามอั๊ว อั๊วก็ไม่อยากให้นายน้อยคบกับพวกตำรวจสักเท่าไหร่ เพราะถึงอย่างไร มาเฟียกับตำรวจก็ไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้”
“อั๊วจะไปหาอาม้า แปะช่วยดูหน่อยแล้วกันว่าจากนี้ไปอั๊วควรทำอะไร”
เต็งล้อรับคำ มองตามหลิวที่เดินออกไปด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ จากนั้นไม่นาน หลิวไปหาแม่ที่เรือนเล็ก ถามท่านไม่ดีใจกับเธอหรือที่ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกสมาพันธ์ ท่านจะดีใจได้อย่างไรในเมื่อมันเป็นหนทางที่แม่ทุกคนไม่อยากให้ลูกเดิน หลิวเองก็ไม่ได้อยากจะเดินทางนี้ แต่มันเป็นหน้าที่ของคนที่เป็นหัวหน้าธรรมกุล
“แล้วสิ่งแรกที่หลิวอยากจะทำคืออะไร”
หลิวจะยกตำแหน่งหัวหน้าสมาคมธรรมกุลให้กับตี๋เล็ก เหมยคัดค้านหัวชนฝาว่าไม่ได้ หลิวทำตามที่แม่ต้องการไม่ได้ เพราะตั้งใจมั่นแล้วว่าจะชดใช้ทุกอย่างให้ตี๋เล็ก
ooooooo
ธานินทร์อยู่ในตึกร้าง กำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคน พร้อมกับโยนเอกสารหลักฐานเอาผิดหลิว ที่ตัวเองแอบขโมยลงไปในกองไฟ ปลายสายแจ้งว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องบอกหลิวให้รับรู้
“ได้ เดี๋ยวผมจัดการให้เอง” ธานินทร์วางสายแล้วโทร.นัดให้หลิวมาพบถ้าอยากรู้ว่าใครคือคนใกล้ตัวที่เธอควรระวัง หลิวตอบตกลงทันที จะให้ไปเจอที่ไหนเมื่อไหร่บอกมาได้เลย...
จางเหาส่องกล้องดูความเคลื่อนไหวของหลิวอยู่บนตึกร้าง เห็นเธอคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่หน้าเรือนเล็ก โดยมีผิงซุ่มมองเธอจากอีกมุมหนึ่งไม่ห่างนัก แผนการบางอย่างผุดขึ้นมาในสมองของเขาทันที...
ทางด้านหลิวร้อนใจจะไปพบกับตำรวจปริศนานายนั้นตามนัดขึ้นรถขับออกมาเพียงลำพังไม่มีคนคุ้มกันเพราะต้องการเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ระหว่างที่เธอชะลอรถจะเลี้ยวออกจากบ้าน จางเหาเข้ามาขวางไว้ สมุนที่เฝ้าระวังอยู่หน้าประตู
รั้วชักปืนจะยิง แต่เขาไวกว่ายิงใส่เสียก่อน แล้วเปิดประตูรถข้างที่หลิวนั่งสั่งให้ขยับไป เธอมองปืนในมือเขาก่อนจะทำตามสั่ง ถามว่าจะพาไปไหน เขารับรองไม่พาไปฆ่าก็แล้วกัน
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ปล่อยฉันซะเพราะฉันมีเรื่องสำคัญ”
“ผมก็มีเรื่องสำคัญเหมือนกัน” พูดจบจางเหาขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว...
ท่านชาติชายรู้เรื่องที่หลักฐานการในการขอศาลอนุมัติหมายจับหลิวหายไปอย่างไร้ร่องรอย ฟันธงว่าต้องเป็นฝีมือธานินทร์ ชวนปราบบุกไปที่ห้องทำงานของเขาเพื่อจะเอาเรื่อง เจอเขากำลังสั่งหน้าห้องว่าจะออกไปธุระข้างนอก ท่านชาติ
ชายดักคอธุระที่ว่าเกี่ยวกับหลิวหรือเปล่า ธานินทร์ทำไก๋ไม่รู้ว่าท่านพูดเรื่องอะไร
“งั้นถามตรงๆเลยแล้วกัน ผู้กำกับมายุ่งกับหลักฐานที่จะจับกุมตัว น.ส.ใกล้รุ่งทำไม”
ธานินทร์เตือนพูดแบบนี้ทำให้ตนเสียหายอาจถูกฟ้องหมิ่นประมาทได้ ในเมื่อผู้ร้ายปากแข็งไม่รับสารภาพแถมไม่มีหลักฐานชัดเจนจะเอาผิดได้ ท่านชาติชายกับปราบจำต้องปล่อยธานินทร์ไป ระหว่างนั้นจ่าเข้ามารายงานว่าหลิวถูกลักพาตัวไปจากบ้าน ทั้งปราบ ท่านชาติชายและธานินทร์พากันตกใจ...
ระหว่างที่ฮัว ผิงและเต็งล้อรอข่าวคืบหน้าการหายตัวไปของหลิว อยู่ๆผิงก็โพล่งขึ้นว่านายน้อยหายไปแบบนี้ ตำแหน่งนายกสมาพันธ์ควรต้องมีคนทำงานต่อ เต็งล้อพยักหน้าเห็นด้วย
“ตามธรรมเนียม ต้องส่งต่อให้คนในตระกูลรักษาการ ซึ่งก็คือนายเล็ก”
เหมยมาทันได้ยินพอดีก็เสียงกร้าวใส่ว่าไม่ได้ ใครจะว่าอย่างไรแต่ตนไม่เห็นด้วยที่จะส่งต่อตำแหน่งนี้ให้ตี๋เล็ก ยิ่งเธอรู้ว่ายังไม่มีข่าวคืบหน้าการหายตัวไปของลูกสาวคนโตก็ยิ่งไม่พอใจ ต่อว่าเต็งล้อแทนที่จะออกไปตามหาหลิวกลับมาพูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง แล้วแบบนี้เมื่อไหร่หลิวถึงจะได้กลับมา
“เพราะแบบนี้อั๊วถึงต้องให้นายเล็กขึ้นรักษาการ เรายังคาดคะเนอะไรไม่ได้” คำพูดของเต็งล้อทำให้เหมย ไม่พอใจที่เขาพยายามผลักดันตี๋เล็กไม่เลิก ก็เลยสั่งห้ามใคร ทำอะไรทั้งนั้นจนกว่าจะตามตัวหลิวเจอ
ooooooo
คนที่บ้านธรรมกุลหาตัวกันให้ควั่ก พยายามขอร้องให้จางเหาปล่อยเธอไปเจอกับตำรวจที่คอยช่วยเหลือพ่อของเธอ แต่เขาไม่สนใจ จังหวะนั้นธานินทร์ เป็นห่วงหลิวก็เลยโทร.เข้ามือถือ จางเหาสั่งไม่ให้เธอรับสายถ้าอยากรู้ความจริงเรื่องคนใกล้ตัว หลิวยืนยันจะรับสายให้ได้ เขาตัดรำคาญคว้ามือถือเธอโยนทิ้งออกนอกรถ
หลิวฉุนขาดทำแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่ เขากลับบอกว่ายังไม่ถึงเวลาที่เธอต้องรู้ ระหว่างนั้นท้องเจ้ากรรมของหลิวส่งเสียงประท้วงเนื่องจากยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า จางเหาจึงแวะร้านอาหารข้างทางหาข้าวกิน โชคไม่ดีเจอวัยรุ่นขาโจ๋เข้ามาก้อร่อก้อติกหลิว จางเหาไม่พอใจจะเอาเรื่อง เธอไม่อยากมีปัญหาชวนเขาไปนั่งที่อื่น หัวโจกขาโจ๋คว้ามือเธอไว้ ชวนให้นั่งตรงนี้ไม่ต้องไปไหน
เป็นจังหวะเดียวกันกับข่าวในทีวี มีภาพปราบกำลังให้สัมภาษณ์เรื่องที่หลิวเจ้าแม่มาเฟียคนใหม่ถูกลักพาตัว แถมยังมีรูปเธอปรากฏหราอยู่หน้าจอ หลิวสะกิดให้จางเหาดู พวกวัยรุ่นมองตามสายตาเธอเห็นชัดเจนว่าคนในทีวีคือคนคนเดียวกับที่อยู่ตรงหน้าตัวเองถึงกับหน้าเสีย
“ถ้ารู้ว่าฉันเป็นใครแล้วก็ปล่อยมือซะ” หลิวไม่ต้องบอกซ้ำ หัวโจกรีบปล่อยมือแทบไม่ทัน จางเหาเห็นท่าไม่ดีคว้ามือเธอจ้ำพรวดๆออกจากร้าน อดกินข้าว ไปโดยปริยาย...
ให้สัมภาษณ์นักข่าวเสร็จ ปราบเดินอย่างเหนื่อยใจกลับมาที่ห้องทำงาน เจอจ่าซึ่งรับหน้าที่สอบปากคำสมุนบ้านธรรมกุลถามว่าได้เรื่องอะไรบ้างไหม ได้ความว่าคนร้ายที่ลักพาตัวหลิวไปคือจางเหานั่นเอง...
ผ่านไปพักใหญ่ จางเหาขับรถมาจอดที่ริมชายหาดแห่งหนึ่ง แล้วพาหลิวเดินเท้าต่อ ด้วยไม่อยากให้ตำรวจตามมาเจอรถที่ใช้หลบหนี เดินเท้าได้ไม่นานหลิวเริ่มเหนื่อยอ่อนเนื่องจากไม่ได้กินอะไรทำท่าจะเป็นลม
จางเหาต้องประคองเอาไว้ ต่างชะงักเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายใกล้แค่คืบ ตาสบตากันนิ่งงัน จางเหาตั้งสติได้รีบผละออกห่าง ปล่อยให้เธอเดินเอง แต่คอยระวังหลังให้เท่านั้น...
ตี๋เล็กกลับเข้าบ้านพร้อมกับรุจี เห็นแม่นั่งหน้าเครียดก็เดาได้ทันทีว่ายังไม่มีข่าวคืบหน้าเรื่องหลิว หันไปเล่นงานเต็งล้อที่ทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน เขาชี้แจงว่าส่งคนของเราออกตามหาแล้ว คาดว่าอีกไม่นานคงเจอ รุจีปากเสียได้โล่ บอกตี๋เล็กว่าจะต้องเดือดร้อนทำไม ถ้าไม่เจอพี่สาวของเขาก็น่าจะดีไม่ใช่หรือ เขาจะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าแทนเธอ เหมยตวาดแว้ดจะไม่มีใครขึ้นแทนตำแหน่งหลิวทั้งนั้น ตี๋เล็กของขึ้นทันที
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะม้า เล็กว่ารุจีพูดก็ถูก ถ้าเจ้ไม่กลับมา เล็กก็จำเป็นต้องขึ้นแทนเจ้”
หัวเด็ดตีนขาดเหมยจะไม่มีวันยอมให้ตี๋เล็กขึ้นเป็นหัวหน้าธรรมกุลไม่ว่าหลิวจะกลับมาหรือไม่ เขาฟิวส์ขาดที่แม่คอยขัดขวางเดินหัวเสียออกไป รุจีเห็นสายตาที่เหมยมองมาอย่างไม่เป็นมิตรรีบเดินตามตี๋เล็กไป เต็งล้อช่วยแก้ตัวกับเหมยแทนว่าตี๋เล็กแค่เป็นห่วงนายน้อยแต่แสดงออกไม่เป็น
“พอเถอะ หยุดพูดสักที คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าเฮียกำลังคิดอะไรอยู่” ว่าแล้วเหมยลุกหนีกลับเรือนเล็ก
ooooooo
จางเหาพาหลิวมาถึงที่พักริมหาดแห่งหนึ่ง ห้องพักเป็นบังกะโลแยกกันเป็นสัดเป็นส่วนจึงเข้าไปติดต่อขอเปิดห้องพัก เมื่อเข้ามาถึงห้องพักกลับพบว่ามีเป็นห้องพักเตียงเดียว เขาถึงกับอึกอัก ก่อนจะบอกให้เธอไปอาบน้ำให้หายเหนื่อย เขาจะไปหาอะไร มาให้กิน หลิวพยักหน้ารับคำเดินเข้าห้องน้ำ
ในเวลาต่อมา ขณะจางเหากำลังเลือกซื้อข้าวของเครื่องใช้อยู่ในร้านขายของ ตำรวจสองนายขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าร้านเพื่อซื้อน้ำดื่ม เขารีบหลบมุมแอบฟัง ได้ความว่าตำรวจเจอรถที่เขาขับมาจอดทิ้งไว้แล้ว และคิดว่าเขาน่าจะยังไปไหนไม่ไกลเพราะใกล้มืดแล้ว ซื้อน้ำเสร็จทั้งคู่พากันขี่มอเตอร์ไซค์ต่อไป จางเหาโผล่หน้ามาดู ก่อนจะเดินหนีไปคนละด้านกับที่ตำรวจไป...
ด้านหลิวออกจากห้องน้ำ ไม่เห็นจางเหาอยู่ในห้องรีบวิ่งไปเปิดประตูแต่มันถูกล็อกจากด้านนอกเปิดไม่ออก ตัดสินใจปีนหน้าต่างหนีเพราะเห็นว่าไม่สูงนัก โชคไม่เข้าข้าง จางเหากลับมาเจอเสียก่อน เธอถึงกับเซ็ง
หลังกินข้าวกล่องเสร็จ จางเหาบอกให้หลิวนอนพักผ่อนได้เลย เธอเห็นมีเตียงเดียวอาสาจะนอนข้างล่างเอง เขากระเซ้ากลัวเขาจะขึ้นไปนอนด้วยหรือ แล้วคว้าหมอนออกจากห้อง...
แม้จะเหนื่อยมาทั้งวัน แต่หลิวกลับนอนไม่หลับ ลุกออกมาที่ระเบียงหน้าบ้านพัก เห็นจางเหานั่งใจลอย ร้องทักว่าคิดอะไรอยู่ หรือกลัวเธอจะหนีอีกก็เลยต้องมานั่งเฝ้า
“เปล่า ผมนึกถึงตอนที่ผมพาคุณไปโรงเจ โดยที่ผมยังไม่รู้ว่าคุณคือใคร”
“ถ้าตอนนั้นเรารู้สถานะที่แท้จริงของกันและกัน เรื่องมันคงไม่ต้องเป็นแบบนี้”
“แต่ผมว่าเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะอย่างน้อยผมก็เคยได้รู้จักคุณในฐานะผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง” จางเหา ยิ้มให้หลิวแล้วต่างแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เป็นจังหวะเดียวกับมีดาวตกพุ่งพาดผ่าน เขาทักว่าไม่อธิษฐานอะไรหรือ เธอไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จะมีก็แค่ในหนังเท่านั้น
“ถ้าคำอธิษฐานเป็นจริงได้ คุณอยากจะขออะไร”
“ฉันจะขอให้เราสองคนไม่มีความแค้นใดๆต่อกัน”...










