ตอนที่ 14
หลิวมาถึงหน้าห้องพักฟื้นของแม่พร้อมด้วย
อาติยะ ตรัยฌานและลูกน้องอีกหนึ่งคน เห็นเต็งล้อเดินวนไปวนมาสีหน้าไม่สู้ดีนักก็ใจคอไม่ดีเปิดประตูห้องจะเข้าไปหาแม่เจอหมอกับพยาบาลกำลังปั๊มหัวใจยื้อชีวิตแม่อยู่ก็ตกใจ พยาบาลหันมาเห็นรีบไล่เธอออกมาแล้วปิดประตูตามหลัง หลิวหันมาตวาดเต็งล้อว่าเกิดอะไรขึ้น
“ตอนอั๊วมาถึงก็เห็นอาซ้อเพ้อเรียกแต่ชื่อนายเล็ก แล้วอยู่ดีๆอาซ้อก็ช็อกไป”
อาติยะเห็นหลิวสีหน้าไม่ดีนัก เข้ามาโอบไหล่อย่างปลอบใจ ระหว่างนั้นมีเสียงมือถือของเต็งล้อดังขึ้น เขาเห็นเป็นเบอร์ของท่านชาติชายรีบรับสาย บอกว่าตอนนี้ยังไม่สะดวกจะคุย ท่านชาติชายไม่สนใจโวยวายใส่ตอนนี้ปราบรู้แล้วว่าทั้งหมดเป็นฝีมือเต็งล้อ
“อั๊วอยู่ที่โรงพยาบาล มีอะไรเดี๋ยวค่อยคุย” เต็งล้อ ตัดบท ท่านชาติชายร้อนใจไม่ยอมวางสายจะขอคุยให้รู้เรื่องก่อน อยู่โรงพยาบาลไหนให้บอกมาจะได้ไปหา เต็งล้อไม่ยอมบอก ขอตัวแค่นี้ก่อนแล้ววางสายไปเลย จังหวะนั้นจ่าเข้ามารายงานท่านชาติชายว่าพบตำแหน่งของเค.วองแล้ว ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลกับหลิว ท่านถึงกับชะงักหรือเป็นโรงพยาบาลเดียวกับที่เต็งล้ออยู่...
ฝ่ายเต็งล้อเก็บมือถือเรียบร้อยเหลือบเห็น
อาติยะมองเหล่อยู่ ทำเป็นถามว่ามีอะไรหรือเปล่า ประมุข 14Kไม่ตอบได้แต่มองเหยียดๆทำให้เขารู้ว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล แต่ยังไม่ทันจะว่าอะไร หมอกับพยาบาลทยอยออกมาจากห้องเหมยเสียก่อน หลิวปรี่เข้าไปถามว่าแม่ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง หมอเชิญเธอไปคุยทางโน้นแล้วเดินนำออกไป เต็งล้อจะตามไปฟังด้วยแต่ตรัยฌานขวางไว้
“ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับแปะเต็งหน่อย” อาติยะเสียงกร้าว เต็งล้อรู้ทันทีว่ามีปัญหา แต่ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรเพราะคนของอาติยะอยู่เต็มไปหมด...
เมื่อมาถึงห้องตรวจโรค หมอบอกให้หลิวทำใจไว้หน่อย ตอนนี้อาการคนป่วยไม่ดีเลย พร้อมจะไปได้ทุกเมื่อ และนี่อาจจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของเธอแล้ว หลิวถึงกับปล่อยโฮไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้...
เมื่อถูกอาติยะกับพวก 5 คนหิ้วปีกมาถึงมุม
ปลอดคน เต็งล้อทำเป็นโวยวาย แม้อาติยะจะเป็นถึงประมุขของ 14K แต่จะทำอะไรก็ควรให้เกียรติกันบ้าง เขาโพล่งขึ้นทันทีเรื่องอะไรจะต้องให้เกียรติคนที่คิดจะฆ่าเขาด้วย แล้วเฉลยว่าเขารู้เรื่องที่เต็งล้อฆ่าแปะคู จงใจทิ้งเข็มกลัดขององค์การเพื่อให้จางเหาเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนทำหมดแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่เต็งล้อวางไว้ แต่มาพลาดตรงที่จางเหาไม่ได้ฆ่าเขา
“ตอนแรกก็คิดว่าไอ้จางเหามันจะจัดการแกได้ก่อนที่นายน้อยจะรู้ตัวว่าเข็มกลัดหาย แต่ก็ดีแล้ว ทีนี้จะเอาอย่างไร” เต็งล้อมองอาติยะโดยไม่มีความเกรงกลัวแม้แต่น้อย อาติยะติดที่ต้องกลับไปดูแลหลิว ไว้เสร็จธุระเมื่อไหร่ ตนจะพาเธอไปตัดสินโทษเขาเอง แล้วสั่งให้ตรัยฌานเอาตัวไป จางเหาที่เฝ้าดูมาตั้งแต่แรกมองตามเต็งล้อที่ถูกลูกน้องของอาติยะ 3 คนคุมตัวไป รอจังหวะจะชิงตัวเขาเพื่อล้างแค้นให้ทุกคน
ooooooo
ระหว่างที่ถูกตรัยฌานกับลูกน้องอีกสองคนคุมตัวมาที่ลานจอดรถ เต็งล้อพยายามจะใช้เงินซื้อตัวทั้งสามคนมาเป็นพวกตัวเองถึงคนละห้าล้านบาท ตรัยฌานเห็นลูกน้องเริ่มเขวตัดสินใจใช้ด้ามปืนฟาดเต็งล้อล้มฟุบ
“เอากุญแจรถมา ไอ้บ้านี่ฉันจัดการเอง พวกแกรีบกลับไปคุ้มครองเค.วอง อย่าไว้ใจใครเด็ดขาด แล้วถ้ามีอะไรผิดปกติ รีบโทร.มารายงานฉัน” สั่งเสร็จ ตรัยฌานมองเต็งล้อที่นอนแน่นิ่งด้วยแววตาแข็งกร้าว...
ทางด้านหลิวเห็นแม่ขยับตัวจะตื่น รีบเช็ดน้ำตาเข้าไปนั่งข้างเตียง เหมยเห็นตาแดงช้ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักของลูกถามว่าเป็นอะไร เธอโกหกว่าดีใจที่เห็นแม่ฟื้น เหมยเล่าให้ฟังว่าเมื่อครู่นี้ฝันเห็นตี๋เล็ก อีกไม่นานท่านก็จะได้ไปดูแลเขาแล้ว หลิวขอร้องแม่อย่าพูดเป็นลางแบบนี้ เหมยรู้ตัวดีว่าอยู่ได้อีกไม่นาน คงถึงเวลาที่ท่านจะต้องชดใช้ความผิดที่ทำต่อตี๋ซุ้ง แล้วบอกความลับว่าตี๋เล็กไม่ใช่ลูกของตี๋ซุ้ง
พลันความจำเรื่องนี้ผุดขึ้นมาในหัวของหลิวว่าแม่เคยบอกเรื่องนี้แล้ว เธอยังนำเรื่องนี้ไปถามเต็งล้อ
อีกด้วยว่าตี๋เล็กเป็นลูกใคร เขาอ้างว่าให้สัญญากับนายท่านไว้จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แต่เธอไม่ต้องเป็นกังวลเขาฆ่าคนที่ย่ำยีเหมยไปแล้ว เสียงร้องไห้
ของแม่ทำให้หลิวตื่นจากภวังค์ พยายามพูดปลอบใจท่าน
“แต่เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว ม้าอย่าคิดมากเลยนะแล้วอีกอย่างไอ้คนที่มันทำกับม้าก็ตายไปแล้ว”
“ไม่ใช่ มันยังไม่ตาย” เหมยโวยลั่น หลิวตกใจทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้...
ตรัยฌานไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมเต็งล้อจึงหลงกลเข้าไปจะเขย่าตัว เขาพลิกตัวกลับตวัดมีดใส่คอเลือดกระฉูด ตวัดมีดอีกครั้งตรัยฌานก็ตายจมกองเลือด จากนั้นเขาเอามีดเปื้อนเลือดเช็ดกับเสื้อของเหยื่อแล้วถลกขากางเกงเพื่อจะเก็บมีดไว้ที่สายรัดข้อเท้า เผยให้เห็นรอยสักคำว่า “หยิ้ม” ชัดเจน จางเหาที่แอบดูอยู่เย็นวาบไปทั้งตัว ในที่สุดก็เจอฆาตกรรอยสักที่ตามหามานาน เต็งล้อเก็บ
มีดเสร็จหยิบปืนของตรัยฌานแล้วลุกออกไป
จางเหาขบกรามแน่น ความแค้นล้นอกแทบระเบิด รีบวิ่งตาม...
ในที่สุดความลับที่เก็บงำมานานก็ถูกเปิดเผย เหมย เล่าให้หลิวฟังว่าคนที่ย่ำยีตนจนตั้งท้องก็คือเต็งล้อ
ตอนนั้นตี๋ซุ้งไม่อยู่ ตนเพิ่งเอาหลิวที่ยังเป็นทารกวางลงในเปล เต็งล้อซึ่งเมามากเข้ามาในห้องและลงมือปลุกปล้ำ เหมยเล่าไปร้องไห้ไป ความเครียดทำให้อาการปวดหัวของหลิวกำเริบอีกครั้ง คราวนี้ความทรงจำเกี่ยวกับเต็งล้อที่เป็นคนทรยศประดังเข้ามาในสมอง เธอจำทุกอย่าง ได้หมดถึงกับกำมือแน่นด้วยความแค้น
เหมยเห็นลูกเงียบไปถามว่าเกลียดท่านไหม หลิวสงสารแม่จับใจโผกอดเอาไว้หวังจะให้ความทุกข์ของท่านถ่ายผ่านมาที่ตัวเอง พลางกระซิบบอกว่าไม่เคยจะโกรธจะเกลียดท่านแม้แต่น้อย เหมยอ่อนเพลียอย่างเห็น
ได้ชัด หลิวเป็นห่วงอาการป่วยของแม่ ขอร้องให้ท่านนอนพักอย่าเพิ่งคิดอะไรมาก เหมยเล่าให้เธอฟังอีกว่ารักกันกับตี๋ซุ้งมาตั้งแต่ยังไม่มีอะไร เขาเคยถามท่านตอนที่เรามีทุกอย่างแล้วว่าอยากได้อะไรมากที่สุด
“ม้าอยากกลับไปใช้ชีวิตเหมือนตอนที่ยังไม่
ยิ่งใหญ่ ไม่มีสมาคม ไม่มีอิทธิพลอะไร ม้าอยากกลับไปเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่มีความรักและมีความสุขที่ได้รัก อำนาจมันก็เหมือนดาบสองคม ยิ่งใช้ฟาดฟันห้ำหั่นมากเท่าไหร่ อีกคมมันก็พร้อมที่จะบาดทำร้าย
เราได้มากเท่าๆกัน สู้ไม่มีมันเลยยังจะดีเสียกว่า...อาหลิว อั๊วรักลื้อนะ อย่าแบกความทุกข์อยู่บนอำนาจที่มันไม่มีอยู่จริงอีกเลย” พูดได้แค่นั้นเหมยก็แน่นิ่งไป
แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่พอถึงเวลาที่แม่จากไป หลิวไม่อาจทำใจได้ ร้องไห้แทบจะขาดใจ...
เต็งล้อยังเดินไม่พ้นลานจอดรถมีเสียงจางเหาตะคอกจากด้านหลังว่าแกคือไอ้ฆาตกรรอยสัก เต็งล้อชะงัก หันมองตามเสียงเห็นจางเหาเล็งปืนมาที่ตัวเองพร้อมจะลั่นกระสุนได้ทุกเมื่อ เขายอมรับหน้าชื่นว่าเป็นความจริง จางเหายิ่งแค้นตะคอกถามว่าทำไมต้องฆ่าเพ่ยด้วย เขาได้รับคำสั่งจากนายท่านให้กวาดล้างคนบ้านตี๋ซา
“แล้วทำไมถึงไม่ฆ่าอั๊ว”
“เพราะลื้อเป็นมังกรไง มังกรเท่านั้นที่จะฆ่ามังกรอย่างตี๋ซุ้งได้”
จางเหาไม่เชื่อว่าเป็นความจริงเพราะหลังจากตี๋ซุ้งตาย เต็งล้อก็ยังไม่เลิกฆ่าคน เขาโทษว่าเป็นความผิดของจางเหาเองที่ส่งเก๊าเข้ามาสืบเรื่องของเขา จางเหาแค้นจัดที่เขาฆ่าทุกคนที่ตนเองรัก เต็งล้อเจ้าเล่ห์ทำทีเป็นมองข้ามไหล่จางเหาเหมือนมีใครเดินเข้ามา จางเหาหลงกลหันไปมอง เต็งล้อยกปืนในมือยิงเขาทันที
แม้จะโดดหนีแต่ก็ไม่พ้น คมกระสุนถูกแขนข้างซ้ายอย่างจัง จางเหายิงตอบโต้แต่ไม่โดนศัตรูเนื่องจากได้รับบาดเจ็บ
เต็งล้อวิ่งหนีไปตามทางโดยมีจางเหาไล่ล่าอย่างไม่ลดละ ทันใดนั้นมีรถคันหนึ่งบีบแตรพุ่งมาจอดตรงหน้าเต็งล้อ ท่านชาติชายเปิดประตูให้เขาขึ้นรถแล้วขับหนีไปอย่างรวดเร็ว จางเหายิงไล่หลังแต่ไม่ทัน พยายามมองทะเบียนก็ไม่เห็นเพราะรถดับไฟ เห็นแต่ด้านหลังมีหมวกนายตำรวจและเครื่องแบบแขวนอยู่ ได้แต่มองตามเจ็บใจ ตำรวจนายไหนกันแน่ที่ช่วยพาศัตรูหนีไปได้
ooooooo
อาติยะพยายามโทร.เข้ามือถือหลิวแต่เครื่องปิด ก็เลยตัดสินใจโทร.เข้าเบอร์บ้านธรรมกุล หลิวกำลังเศร้าใจกับการจากไปของแม่และตี๋เล็กที่เสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน จังหวะนั้นมีเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ฮัวรับสายพอรู้ว่าเป็นอาติยะก็เอาโทรศัพท์ไร้สายมายื่นให้เจ้านายซึ่งขอโทษเขาด้วยที่ปิดมือถือ
“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจคุณ เสียใจเรื่องแม่ของคุณด้วยนะครับ...ตอนนี้ยังไม่พบตัวเต็งล้อ แต่คุณไม่ต้องห่วงนะ ถ้าผมเจอผมจะจัดการมันเอง”
“ไม่...ถ้าเจอเขา ฉันอยากจะคุยกับเขาก่อน” หลิวเสียงกร้าว อาติยะอยากรู้ว่าเธอจะจัดการอย่างไรกับมัน เธอเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน มันอาจจะเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่เธอเคยทำมาก็ได้...
ที่ห้องประชุมของกองปราบปราม ปราบกำลังสรุปคดีเต็งล้ออยู่กับลูกน้องว่ายังไม่พบการเคลื่อนไหวของผู้ต้องหา แต่การที่ลูกน้องคนสนิทของเค.วองถูกฆ่า พวก 14Kคงไม่อยู่เฉยแน่ จังหวะนั้นจ่าเข้ามารายงานว่าได้ภาพวงจรปิดจากที่จอดรถโรงพยาบาลแล้ว แต่ไม่ได้อะไรมากนักเนื่องจากเป็นมุมอับจึงไม่เห็นทะเบียนรถ
“ลองหาภาพจากบริเวณใกล้เคียง ผมต้องการเลขทะเบียนรถคันนั้นเร็วที่สุด” ปราบสั่งเสียงเข้ม จ่ากับหมวดรีบไปทำตามคำสั่ง สารวัตรหนุ่มหนักใจ เกรงจะคว้าน้ำเหลวอีก ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเพื่อฮึดสู้อีกครั้ง รวบรวมแฟ้มเอกสารเกี่ยวกับคดีจะกลับไปทำงานต่อที่บ้าน ขณะเขาเดินมาที่รถ จางเหาโทร.มาบอกว่าคนที่พาเต็งล้อหนีเป็นตำรวจ ตนเห็นหมวกตำรวจอยู่ในรถของมัน ปราบขอหลักฐานไม่ใช่แค่คำพูด
“สารวัตรเลิกงี่เง่าสักที ผมรู้ว่าสารวัตรแค่ไม่อยากเชื่อเพราะกลัวว่าตัวเองจะรับไม่ได้ แต่ที่ผ่านมา
สารวัตรก็น่าจะเห็นแล้วว่าตำรวจกับโจรน่ะ...” จางเหายังพูดไม่ทันจบ ปราบสั่งให้พอได้แล้ว จางเหาแค่อยากให้เขาช่วยหาตัวมันให้เจอ มันคือฆาตกรที่ตนตามหา มันฆ่าทุกคนที่ตนรัก ปราบขอให้ปล่อยเรื่องนี้เป็นหน้าที่ตำรวจ
“ก็ขนาดตำรวจยังเป็นพวกเดียวกับโจร แล้วคิดว่าผมจะเชื่อใจใครได้อีก”
ปราบหาว่าจางเหาพูดเกินไป จางเหาสวนทันทีเกินหรือไม่เขาย่อมรู้แก่ใจดี แล้วเตือนให้เขาระวังตัวไว้หน่อย บางทีคนที่ช่วยเต็งล้ออาจจะอยู่ในหน่วยงานของเขาก็ได้ ส่วนเรื่องเต็งล้อถ้าตำรวจเจอมันก่อนตนก็ถือว่าโชคดีก็แล้วกัน แล้ววางสายอย่างมีอารมณ์ ปราบได้แต่ถอนใจเหนื่อยใจ...
ณ เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง ท่านชาติชายร้อนรนมากที่ปราบเริ่มสืบเรื่องราวใกล้ตัวเข้ามาทุกที บอกกับเต็งล้อว่าถ้าต้องการให้ช่วยต่อไปต้องจ่ายเงินมาให้ห้าสิบล้านบาท เต็งล้อตกใจจะเอาเงินมากขนาดนั้นไปทำอะไร
“ก็ไปจากที่นี่ไง ลื้อคิดว่าถ้าเรื่องที่อั๊วกับลื้อร่วมมือกันมันแดงขึ้นมาอั๊วจะอยู่ข้างนอกนี่ได้หรือไง อั๊วไม่ยอมตายในคุกแน่ เอาเงินมาให้อั๊วเร็วที่สุด” ท่านชาติชายตะคอกใส่หน้าเต็งล้ออย่างไม่ไว้หน้าซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ฝ่ายหลังเป็นอย่างยิ่ง...
ด้านอาติยะกลับถึงที่พักเจอใครบางคนนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก แม้จะมีเพียงไฟสลัวทำให้เห็นใบหน้าไม่ชัด แต่ประมุข 14K ก็รู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร อาติยะจะขอเลื่อนงานแต่งงานระหว่างตัวเองกับหลิวออกไปก่อน เธอยังเสียใจกับการตายของแม่ ก็เลยยังไม่อยากคุยเรื่องนี้ ชายคนนั้นไม่พอใจขว้างถ้วยชาในมือลงพื้น
“เดี๋ยวผมจะลองทำตามแผนดู” ถึงอาติยะจะไม่ได้กลัว แต่ชายคนนี้ทำให้เขาอึดใจอย่างบอกไม่ถูก
ooooooo










