สมาชิก

หงส์เหนือมังกร

ตอนที่ 13

ค่ำวันเดียวกัน หลิวไม่สบายใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แวะไปไหว้พระที่ศาลเจ้า เจอจางเหามาไหว้พระเช่นกัน หลังจากทักทายเธอเสร็จ เขาอดแดกดันไม่ได้ว่าตอนนี้เธอคงเข้าร่วมกับ 14Kได้โดยไม่มีปัญหา เพราะท่าทางหัวหน้า 14K ดูจะห่วงใยเธอเป็นพิเศษ เธอรู้ทันว่าเขาแคลงใจเรื่องอาติยะ

“อาติยะเขาคือรักแรกของฉัน ก่อนหน้านี้เขาหายไปเพราะถูกพ่อของฉันบีบบังคับ ฉันก็เพิ่งรู้ว่าเขาคือทายาท เค.วองก็ตอนที่เขากลับมา”

แม้จะเจ็บแปลบใจที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่จางเหาก็อดดีใจไปกับเธอไม่ได้ที่ได้พบกับอาติยะอีกครั้ง เธออยากจะบอกเขาว่าเธอไม่ได้รักอาติยะแล้ว แต่ไม่กล้าพูด จางเหาเตือนเธอให้ระวังตัวไว้ด้วย ยิ่งได้ เข้าร่วมกับ 14K เธอจะกลายเป็นหงส์ที่บินสูงเหนือมังกร

“คนที่ต้องการทำลายคุณก็จะยิ่งมาก ดูแลตัวเองด้วย” จางเหาพูดจบขยับจะไป หลิวเรียกเอาไว้ ตั้งใจจะบอกรักเขา แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยปาก เขาชิงพูดขึ้นเสียก่อน

“ยินดีด้วยนะที่คุณได้สมหวังกับรักครั้งแรกของคุณ” คำพูดตัดบัวไม่ให้เหลือเยื่อใยของจางเหาทำเอาหลิวพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้เขาเดินจากไป เธอมัวแต่สนใจจางเหาไม่ทันสังเกตเห็นอาติยะแอบฟังอยู่ตั้งแต่แรก หัวหน้าเค.วองเดินตามจางเหาจนทัน ดักคอว่าท่าทางเขากับหลิวจะไม่ใช่แค่คนรู้จักกันธรรมดาๆใช่ไหม จางเหาถามอย่างไม่อ้อมค้อมว่าอาติยะต้องการอะไรกันแน่

“ตั้งแต่ผมกลับมาเจอเธออีกครั้งผมรู้ว่าความทรงจำ เธอกลับมาหมดแล้ว แต่ผมรู้สึกว่าเธอไม่เหมือนเดิม”

“ความรักอยู่ที่ความรู้สึกไม่ใช่ความทรงจำ”

“นั่นแหละที่ผมกลัวเพราะผมรู้สึกว่าหลิวไม่ได้รักผมแล้ว แต่ถึงยังไงผมก็ยังต้องการความรักจากเธออยู่ ผมจะทำให้หลิวกลับมารักผมให้ได้ ผมไม่อยากให้คุณเจอเธออีก ผมไม่รู้ว่าระหว่างคุณกับหลิวจะมีความรู้สึกอะไรกัน แต่ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว และผมอยากเป็นผู้ชายคนเดียวที่อยู่ข้างเธอ”...

เหมยยังทำใจไม่ได้กับการตายของตี๋เล็ก ไม่ยอมแตะต้องอาหาร หลิวกลัวท่านจะล้มป่วยลงมือต้มขิงแล้วยกไปให้ถึงที่เรือนเล็กด้วยตัวเองแถมยังป้อนให้อีกต่างหาก ท่านถึงกับน้ำตาร่วง ขอโทษลูกด้วย ลูกมีงานล้นมือยังต้องมาคอยเป็นห่วงตนอีก หลิวขอร้องแม่อย่าพูดแบบนี้ เธอเป็นลูกย่อมต้องดูแลแม่อยู่แล้ว

“อาหลิว ชีวิตคนเรามันสั้นนักความรักเป็นสิ่งสำคัญ หลิวเหนื่อยมามากม้าอยากให้หลิวเจอกับคนดีๆอยากให้หลิวได้อยู่กับคนที่ทำให้หลิวมีความสุข” คำพูดของแม่ทำให้หลิวนึกถึงจางเหาขึ้นมาทันที...

ทางฝ่ายอาติยะกลัวจะต้องเสียหลิวให้จางเหา จึงบุกมาหาเธอถึงบ้านนัดให้ไปเจอกันวันพรุ่งนี้ มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย เธอเองก็มีเรื่องอยากจะคุยกับเขาเหมือนกันก็เลยรับนัดทันที

หลังจากนัดแนะหลิวได้เรียบร้อย อาติยะโทร.หาจางเหานัดให้มาเจอเขากับหลิว จางเหารู้เท่าทันว่าเขาต้องการจะให้ตัดขาดจากหลิวจึงรีบออกตัวหากตนพร้อมที่จะลาจากเธอ ตนจะไปหาเธอเอง อาติยะแค่อยากจะให้จางเหาไปยืนยันตัดขาดกับหลิวต่อหน้าเขา

“เรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วง ถ้าผมบอกว่าผมจะเลิกยุ่งกับเธอ คุณก็จะไม่เห็นผมอยู่ใกล้เธออีก”

“ดี เพราะผมไม่อยากให้เธอไขว้เขวก่อนที่ผมกับเธอจะแต่งงานกัน” อาติยะทิ้งท้ายให้จางเหาเจ็บปวดใจเล่น ก่อนจะวางสาย แม้จางเหาจะรู้ว่าตนเองกับหลิวไม่มีทางจะรักกันได้ แต่ก็ยังปวดใจที่ต้องตัดขาดจากผู้หญิงที่ตัวเองรักอย่างหมดหัวใจ...

ขณะที่อาติยะกำลังสะใจที่ได้ปั่นหัวจางเหา ตรัยฌานนำซองเอกสารมาให้ เขาเปิดดูเห็นรูปแอบถ่ายของตัวเองกับหลิว ทั้งตอนที่เธอไปประชุม 14K และตอนที่เขาไปเจอเธอที่บ้าน นั่นเท่ากับมีคนสะกดรอยตามเขากับเธอมาตลอด ตรัยฌานเชื่อว่าคนที่กล้าทำแบบนี้ได้ต้องไม่ธรรมดา แล้วหยิบรูปใบสุดท้ายให้ดูเป็นรูปอาติยะตอนไปหาหลิวที่บ้าน รูปนั้นมีรอยขีดฆ่าบ่งบอกถึงการข่มขู่เป็นทำนองไม่ต้องการให้เขาไปยุ่งเกี่ยวกับเธอ

“มันกล้ามาก ทั้งๆที่รู้ว่าคุณอาติยะเป็นใคร”

อาติยะสั่งให้ตรัยฌานหาตัวคนที่ทำแบบนี้ให้เจอ ตรัยฌานอยากรู้ว่าเขาจะเอาอย่างไรต่อไป อาติยะหาเกรงกลัวคำข่มขู่ไม่ ยืนกรานจะแต่งงานกับหลิวให้เร็วที่สุด

ooooooo

ปัญหาที่ประดังเข้ามาทำให้อาการปวดหัวของหลิวกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ภาพจดหมายของพ่อที่เขียนเตือนให้เธอระวังคนใกล้ตัวผุดขึ้นมาในสมอง อีกทั้งภาพเก๊าในสภาพเลือดทะลักตายในอ้อมแขนของเธอผุดตามมา

เสียงเรียกของเต็งล้อปลุกหลิวให้หลุดจากภาพความทรงจำ ที่ปรึกษาจอมเจ้าเล่ห์พอจะมองอาการของเธอออกว่าความทรงจำกำลังจะกลับมา แกล้งถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เธอส่ายหน้า

“เปล่า อั๊วแค่หน้ามืดนิดหน่อย แปะมีอะไร”

เต็งล้อกังวลใจเรื่องความสัมพันธ์ของหลิวกับอาติยะ เค.วอง ของกลุ่ม 14K เธอยังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ อยากจัดการงานศพของตี๋เล็กให้เรียบร้อยก่อน เขาเห็นดีด้วย เพราะเธอจะได้มีเวลาไตร่ตรอง เนื่องจากความสัมพันธ์ของเธอกับอาติยะอาจทำให้การเข้าร่วมกับ 14K ส่งผลร้ายมากกว่าผลดี หลิวดักคอที่พูดแบบนี้ เหมือนไม่อยากให้เธอเข้าร่วมกับ 14K เขายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง หากเค.วองไม่ใช่อาติยะย่อมเป็นผลดีกับเรา

“แต่เมื่อเป็นเขา สมาชิกคนอื่นๆจะคิดว่าการที่นายน้อยได้เป็นสมาชิกเป็นเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายน้อยกับคุณอาติยะ” ระหว่างที่พูดคุยกัน เต็งล้อลอบสังเกตอากัปกิริยาของหลิวอยู่ตลอด เธอรับปากจะไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ละเอียดที่สุดก่อนตัดสินใจ แล้วถามเขาว่าเรื่องของเฮียไฮ้จัดการไปถึงไหนแล้ว เขากำลังดำเนินการอยู่เธอไม่ต้องเป็นห่วง...

การดำเนินการที่ว่าของเต็งล้อก็คือใช้เงินซื้อตัวคุงใช้ให้เป่าหูเฮียไฮ้ว่ากำลังถูกพวกธรรมกุลตามล่าอยู่ และตอนนี้พวกมันสังหารผู้กำกับที่เป็นฝ่ายของเฮียไฮ้ไปแล้ว ทำให้เขาอยู่เมืองไทยต่อไปไม่ได้ตัดสินใจจะหนีข้ามชายแดนไปซ่อนตัวที่เขมร คุงใช้แกล้งบอกเส้นทางผิดทำให้คนขับรถแล่นมาถึงถนนเปลี่ยวแถมยังเป็นทางตันอีกต่างหาก ทันใดนั้นคุงใช้ชักปืนยิงคนขับรถตายคาที่ เฮียไฮ้รู้ทันทีว่าถูกหักหลังลงจากรถวิ่งหนี

คุงใช้ไล่ตามจนทันยิงใส่ขาก่อนจนเฮียไฮ้ล้มลงหนีต่อไม่ได้ แล้วตามมากระหน่ำยิงซ้ำอย่างเลือดเย็น

ooooooo

เช้าวันถัดมาคุงใช้พามือปืนคนสนิทของตัวเองไปพบกับเต็งล้อที่ศาลเจ้าด้วย กันเหนียวไว้ก่อนเผื่ออีกฝ่ายเล่นไม่ซื่อ เต็งล้อเห็นมือปืนเอาปืนเล็งมาที่ตัวเอง ถามคุงใช้ว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร ไม่อยากขึ้นเป็นใหญ่แทนเฮียไฮ้แล้วหรือ เขากลับย้อนถามว่าทำไมถึงไม่ฆ่าเขาทั้งที่เขาเป็นคนลงมือฆ่าตี๋เล็ก

“ที่นายเล็กตายเป็นเพราะคำสั่งของไอ้ไฮ้ คนที่สมควรตายก็ต้องเป็นมันไม่ใช่ลื้อ แล้วที่อั๊วไม่จัดการลื้อเพราะลื้อน่าจะรู้ทุกอย่างของไอ้ไฮ้ดี ลื้อยังมีประโยชน์กับอั๊วกับนายน้อยอั๊วได้อีกเยอะ” เต็งล้อหว่านล้อมจนคุงใช้เชื่อสนิทใจ พยักหน้าให้มือปืนลดปืนลง ยิ้มอย่างลำพอง ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ตนจะได้เป็นใหญ่สักที

“แต่ก่อนที่ลื้อจะขึ้นมาเป็นใหญ่ ลื้อก็ควรที่จะเรียนรู้อะไรไว้อย่าง...อย่าไว้ใจคนใกล้ตัว” เต็งล้อพูดไม่ทันขาดคำมือปืนลั่นกระสุนใส่คุงใช้ทรุดฮวบแล้วย่างสามขุมเข้าหา คุงใช้ถอยหนีจนติดผนัง ใกล้จะตายอยู่แล้วยังไม่วายด่าเต็งล้อว่าไม่มีศักดิ์ศรี เต็งล้อส่ายหน้าให้กับความโง่ของพวกหางแถวอย่างเขา คว้าปืนไปจากมือปืนยิงใส่คุงใช้สองนัดซ้อนตายสนิทแล้วขยับจะไป มือปืนทวงถามถึงเรื่องที่เราสองคนตกลงกันไว้

“เมื่อกี้ก็ได้ยินแล้วนี่ว่าไม่ควรไว้ใจใคร” พูดจบเต็งล้อยิงใส่มือปืนปังๆๆ ก่อนจะเดินจากไปอย่างสะใจระหว่างนั้นเขาโทร.นัดท่านชาติชายให้มาเจอกันที่ตึกร้าง เล่าเรื่องที่จัดการกับเฮียไฮ้ให้ฟัง ป่านนี้นายเล็กของตนคงจะพอใจ แล้วแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

“บทจะง่ายก็ง่ายดีเนอะ ไม่ทันไรแก๊งเฮียไฮ้ก็ปิดฉาก นี่ไงที่เขาว่าอำนาจไม่ได้มีอยู่จริง”

เต็งล้อสะดุดกับคำพูดของท่านชาติชายที่ว่าอำนาจไม่ได้มีอยู่จริง แต่ก็ไม่ติดใจสงสัยอะไรสั่งให้เขาไปเก็บกวาดสิ่งที่ตนเองทำไว้ที่ศาลเจ้าให้ด้วย

“ไม่มีปัญหา ว่าแต่ลื้อเถอะ รีบหาทางออกเรื่อง 14K ก็แล้วกัน”...

หลิวรู้จากเด็กรับใช้ที่ยกถาดใส่อาหารไปให้แม่ว่าท่านไม่ยอมเปิดประตูให้เอาอาหารเข้าไป รีบมาดูด้วย ความเป็นห่วง เป็นอย่างที่เด็กรับใช้ว่าประตูเข้าเรือนเล็กถูกล็อกจากข้างใน เธอไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่ยืนมองอยู่ตรงนั้น เต็งล้อจับตาดูหลิวอยู่ครู่หนึ่งก็เดินเลี่ยงออกมา ยังไม่ถึงตึกใหญ่เห็นรถของอาติยะแล่นมาจอด

เต็งล้อรีบเข้าไปต้อนรับ แล้วขอตัวจะไปตามนายน้อยมาให้ อาติยะเรียกตัวไว้จะขอคุยด้วย จากนี้เป็นต้นไปเขาจะให้ตรัยฌานมาเป็นคนอารักขาหลิว

เต็งล้อใจคอไม่ดีคิดว่าเขาสงสัยตนเองเข้าให้แล้ว

“ไม่เห็นมีเหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้น ตอนนี้นายน้อยก็ไม่ได้มีศัตรูที่ไหนแล้ว ยิ่งมีเค.วองแห่งองค์การ 14K อยู่ด้วย น่าจะไม่มีใครกล้าคิดร้ายกับนายน้อยได้อีก”

อาติยะก็คิดอย่างนั้น แต่มันกลับมีใครบางคนที่กล้าท้าทายเขา เต็งล้อไม่อยากให้เขาเข้ามาวุ่นวายเกรงจะฆ่าหลิวไม่ถนัด จึงบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ทางนี้ดูแลนายน้อยเองได้ อาติยะยืนกรานจะให้คนของเขามาดูแลหลิวเนื่องจากไม่อยากให้เธอเป็นอะไรจนกว่างานแต่งงานของเราสองคนจะมีขึ้น เต็งล้อตกใจ แต่ต้องเก็บอาการไว้ จังหวะนั้นหลิวกลับมาจากเรือนเล็กเห็นอาติยะคุยอยู่กับเต็งล้อนิ่วหน้าแปลกใจ

“อาร์ตี้...คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”

หัวหน้า 14Kชะงักไปเล็กน้อยที่หลิวลืมนัด แต่ก็ไม่ต่อว่าอะไร ได้แต่บอกว่าคิดถึงอยากเจอก็เลยมาหา เธอไม่ได้ยินดียินร้ายด้วย แต่ต้องต้อนรับเขาตามมารยาท ชวนให้เข้าไปคุยกันในบ้าน ระหว่างหลิวเดินนำอาติยะเข้ามาในบ้าน อดท้อใจในโชคชะตาไม่ได้ ทีคนอยากให้คิดถึงอย่างจางเหากลับพยายามหนีหน้า ส่วนคนไม่อยากเจอกลับเทียวไล้เทียวขื่อเช้าถึงเย็นถึง อาติยะเห็นสีหน้าเศร้าๆของเธอถามด้วยความเป็นห่วง

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า หรือว่าคุณไม่อยากไปกินข้าวกับผมคืนนี้”

หลิวเพิ่งนึกได้ว่ามีนัดกับอาติยะคืนนี้ ขอโทษเขาด้วยที่ลืมไปเนื่องจากมีหลายเรื่องให้ต้องคิด ไหนจะเรื่องงานศพตี๋เล็ก ไหนจะเรื่องแม่ป่วย ก็เลยไม่รู้ว่าควรจะไปกินข้าวกับเขาหรือเปล่า อาติยะไม่ถือโทษโกรธอะไรเธอ เข้าใจดีว่าเธอเจอแต่เรื่องหนักๆ แล้วคว้ามือเธอไปกุมไว้ จากนี้ไปเธอจะไม่ต้องสู้คนเดียวอีกแล้ว หลิวงงเขาหมายความว่าอย่างไร อาติยะขออุบไว้ก่อน แล้วคืนนี้จะเฉลยให้ฟัง

ooooooo

ปราบยังไม่ยอมรามือเอาเอกสารที่จะให้สืบสวนการตายของตี๋เล็กมาให้ท่านชาติชายเซ็นอนุมัติ ทีแรกท่านไม่ยอมเซ็น แต่ทนเขาตื๊อไม่ไหวจำใจเซ็นให้โดยกำชับว่าตอนนี้คดีอยู่ในมือคนอื่น เขาคงรู้ดีว่าเราไม่ควรเข้าไปยุ่งมากนัก ปราบรับคำหยิบเอกสารที่ท่านเซ็นให้เดินออกไป อึดใจ เต็งล้อโทร.หาท่านชาติชาย

“เราต้องรีบจัดการแล้ว ตอนนี้เค.วองหัวหน้าองค์การ 14K กำลังคิดจะแต่งงานกับเธอ”

 ท่านชาติชายไม่เห็นด้วยที่จะฆ่าใครตอนนี้เพราะเรื่องตี๋เล็กยังไม่เคลียร์ ไหนจะเรื่องแก๊งเฮียไฮ้ที่ถูกกวาดล้างอีก แล้วถ้าหัวหน้า 14K ตายไปอีกคน เราอาจโดนเพ่งเล็งจากทั้งตำรวจและพวกมาเฟีย เต็งล้อไม่ได้จะให้จัดการกับอาติยะ แต่เป็นคนอื่น ท่านชาติชายแปลกใจแล้วจะให้ตนจัดการใคร เต็งล้อได้แต่นิ่งเงียบ...

ทันทีที่ได้รับแจ้งว่าพบเฮียไฮ้เป็นศพถูกยิงตายอยู่นอกเมือง ปราบรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบจ่ารอท่าอยู่ก่อนแล้วพร้อมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ่ารายงานว่าชาวบ้านแถวนี้เป็นคนพบศพ บางคนได้ยินเสียงปืนหลายนัดตั้งแต่เมื่อคืนแต่ไม่มีใครกล้าออกมาดู ส่วนในรถพบอีกศพหนึ่งเป็นคนขับรถถูกยิงระยะเผาขน ปราบแปลกใจคุงใช้หายไปไหน จ่ายังไม่ทันจะแจ้งว่าคุงใช้ถูกพบเป็นศพอยู่อีกที่หนึ่ง ปราบเดินไปดูที่รถเสียก่อน

หลังจากตรวจที่เกิดเหตุทั้งหมดแล้ว ปราบสรุปว่ามือสังหารน่าจะเป็นคุงใช้ สั่งให้จ่าตั้งด่านสกัดจับทุกจุดที่จะออกนอกเมือง จ่าสงสัยจะให้ตั้งด่านสกัดจับใคร ปราบเสียงเขียวใส่ให้สกัดจับคุงใช้คนสนิทของเฮียไฮ้

“แต่คุงใช้ตายแล้วนะครับ” คำตอบของจ่าทำเอาปราบถึงกับใบ้กิน

จ่าขอโทษนายที่บอกเรื่องนี้ช้าไปหน่อย ปราบอยากรู้ว่าได้เบาะแสบ้างไหมว่าใครฆ่าคุงใช้ จ่าส่ายหน้า ยังไม่ทราบแน่ชัดแต่คาดว่าน่าจะเป็นการหักหลังกันเองในแก๊ง ปราบเตือนอย่าเพิ่งด่วนสรุป ลองมองความเป็นไปได้ทางอื่นด้วย จ่าตั้งข้อสังเกตหรือจะเป็นฝีมือพวกธรรมกุล ปราบสนใจขึ้นมาทันที ทำไมถึงคิดอย่างนั้น

“ก็ในสมาพันธ์การค้าไทยจีน เสี้ยนหนามเดียวที่เหลืออยู่ของพวกธรรมกุลก็คือพวกเฮียไฮ้ ยิ่งตอนนี้ยังมีพวก 14K มาคุ้มหัวอีก ไม่ใช่พวกเค้าแล้วจะเป็นใคร” คำพูดของจ่าทำให้ปราบคิดคล้อยตาม...

ทางด้านหลิวครุ่นคิดหนักที่อาติยะทำเหมือนจะขอเธอแต่งงาน ไม่รู้จะปรึกษาใครเรื่องนี้ จึงลองถามฮัวว่าถ้าตี๋ซุ้งยังอยู่แล้วรู้ว่าอาติยะคือเค.วอง ฮัวคิดว่าท่านจะยังอยากรวมธรรมกุลเข้ากับ 14K ไหม ฮัวมั่นใจว่านายท่านต้องเข้าร่วมเพราะเป็นความต้องการของท่านมาตลอด แปลกใจว่าเธอถามเรื่องนี้กับตนทำไม

หลิวแค่อยากรู้ว่าถ้าเธอปฏิเสธความรักจากอาติยะ ธรรมกุลจะเป็นอย่างไร ฮัวอดถามไม่ได้ว่าเธอไม่ได้รักอาติยะแล้วหรือ เธอเปรียบเทียบความรักกับการเล่นหมากรุก ถ้าเล่นหมากรุกแล้วถึงทางตันก็แค่ยอมแพ้แล้วเริ่มเล่นใหม่ แต่กับความรักมันไม่เหมือนกัน ตอนที่รักอยู่จะสั่งให้เลิกรักก็คงไม่ได้ แต่เมื่อไม่รักจะสั่งให้เริ่มใหม่ได้อย่างไร ฮัวขอให้เธอสบายใจได้ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไรพวกเราจะอยู่ข้างเธอเสมอ

“ชีวิตคนเรามันสั้น การทำตามหัวใจคือความสุขที่แท้จริงค่ะ” คำแนะนำของฮัวทำให้หลิวมีกำลังใจขึ้น ตั้งใจมั่นว่าคืนนี้จะปฏิเสธทุกคำขอจากอาติยะ

ooooooo

หงส์เหนือมังกร

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด