ตอนที่ 1
ณ ร้านอาหารซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุสังหารหมู่ เจ้าหน้าที่กำลังยกศพของหนึ่งในเหยื่อสังหารเดินผ่านหน้าปราบ นายตำรวจหนุ่มไฟแรงเรียกให้เขาหยุดก่อน แล้วเปิดผ้าคลุมศพดูถึงได้เห็นว่าเป็นเฮียไถ่
“มันคือเฮียไถ่ครับ ขาใหญ่เรื่องเหล้าปลอมกับบ่อนวิ่ง อยู่ในอิทธิพลของป๋าเสริฐครับ”
“เช็กให้ละเอียดว่ามีความเชื่อมโยงหรือขัดแย้งกับใครอีกบ้าง”
เจ้าหน้าที่รับคำแข็งขัน ก่อนจะเคลื่อนศพออกไป ผู้หมวดที่เพิ่งจะตรวจสถานที่เกิดเหตุเสร็จเดินเข้ามาหาปราบพร้อมกับยื่นซองใส่หลักฐานเป็นพลาสติกใสให้ รายงานว่าพบแบงก์กงเต๊กบนตัวเฮียไถ่
“พยานว่าอย่างไรบ้างหมวด”
“ทุกคนพูดตรงกันครับว่ามีผู้ร้ายเพียงคนเดียว ผมว่าไอ้นี่มันไม่ธรรมดา คนเดียวแต่จัดการคนเป็นฝูงได้”
ปราบเห็นด้วยกับผู้หมวด มองแบงก์กงเต๊กในมือด้วยสีหน้าเคร่งเครียด...
ตี๋ซารอการกลับมาของจางเหาอย่างใจจดจ่อ ครั้นเห็นเขาเข้ามาพร้อมกับเป้สัมภาระในมือ คว้ามาเปิดดูเจอปืนที่ก่อเหตุ ก็ต่อว่าว่าทำอะไรลงไป ตนบอกแล้วไม่ใช่หรือไม่ให้ยุ่งเรื่องนี้ เพ่ยเดินเกาะกำแพงเข้ามาได้ยินพอดี รีบหลบมุมแอบฟัง ตี๋ซาเดินไปหยิบเงินก้อนหนึ่งโยนให้จางเหาบอกให้ไปจากที่นี่
ชายหนุ่มทรุดนั่งกับพื้นขอโทษที่ขัดคำสั่ง ตนแค่อยากจะทำอะไรให้ท่านเป็นครั้งสุดท้าย แม้จะโกรธแค่ไหนแต่ความรักและความห่วงใยที่มีต่อลูกบุญธรรมมีมากกว่า
“ถ้าลื้ออยากจะตอบแทนบุญคุณอั๊วล่ะก็ จงดูแลอาเพ่ยแล้วมีชีวิตที่ดีซะ ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้” ตี๋ซาตบไหล่จางเหาที่ยังอึ้งไม่หายที่ท่านไม่เอาเรื่อง
เพ่ยซึ่งแอบฟังอยู่ตื้นตันใจกับความเมตตาที่ตี๋ซามีให้ ท่านยังขอให้จางเหารับปากไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่ากลับมาที่นี่อีก ชายหนุ่มนิ่งไปอึดใจหนึ่งจึงยอมรับปาก...
ทางฝ่ายหลิวเดินไปส่งแม่ถึงหน้าเรือนเล็ก แต่ท่านเห็นว่าเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว ก็เลยบอกให้เธอส่งแค่นี้พอ ให้ไปนอนพักผ่อนจะดีกว่า ถ้าอาติยะฟื้น
เมื่อไหร่ท่านจะช่วยพูดกับตี๋ซุ้งให้เอง เธอขอโทษแม่ด้วยที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องราวทั้งหมด
“คิดมากน่า ผู้หญิงเราลองถ้ารู้สึกว่าใช่ต่อให้ข้างหน้า เป็นหุบเหวหรือกองไฟ เราก็ยินดีจะฝ่าไปไม่ใช่เหรอ”
“ขอบคุณค่ะม้า” หลิวยิ้มให้แม่ก่อนจะเดินแยกไป ไม่ทันเห็นตี๋ซุ้งยืนมองทั้งคู่อยู่อีกมุมหนึ่ง
ooooooo
ที่ห้องไหว้บรรพบุรุษบ้านธรรมกุล ตี๋ซุ้งบ่นกับเต็งล้อเสียงเครียด ไม่เข้าใจจริงๆทำไมตี๋ซาถึงได้เลือกวิธีนี้ เต็งล้อรู้นิสัยเขาดีที่ต้องทำแบบนี้เพราะเป็นคนยึดติดกับศักดิ์ศรีโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“แม้ว่าจะเป็นวิธีนำความยุ่งยากมาสู่ตัวเองน่ะเหรอ”
“เฮียซาได้เลือกแล้วครับนาย” เต็งล้อพูดไม่ทันขาดคำ เหมยเปิดประตูห้องเข้ามาจะขอคุยกับตี๋ซุ้งเป็นการส่วนตัว เต็งล้อรู้งานเดินเลี่ยงออกมา เหมยรอจน
คนสนิทของสามีปิดประตูห้องเรียบร้อย จึงบอกตี๋ซุ้งอย่างไม่อ้อมค้อมว่าตนเองต้องการให้หลิวคบหากับอาติยะ ตี๋ซุ้งของขึ้นทันที
“ลื้อจะให้อั๊วยกอาหลิวให้กับไอ้ผู้ชายที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้างั้นเหรอ”
เหมยเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะสามารถดูแลหลิวได้และที่สำคัญเด็กสองคนนี้รักกัน ก่อนที่สองผัวเมียจะทะเลาะกันใหญ่โตมีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เต็งล้อเข้ามารายงานว่าป๋าเสริฐมา
“อั๊วไม่อยากพูดเรื่องอาหลิวกับผู้ชายคนนั้นอีก” ตี๋ซุ้งเสียงกร้าวใส่เหมย แล้วเดินนำเต็งล้อออกไป...
ฝ่ายหลิวไม่พอใจพ่อมากที่สั่งให้ผิงกับฮัวขังตัวเองไว้ในห้องห้ามไปไหน ทั้งทุบประตูทั้งตะโกนให้สองสาวเปิดประตูให้ตนออกไป แต่ไม่เป็นผล ทั้งคู่กลัวนายท่านมากเกินกว่าจะทำตามที่เธอสั่ง...
ครู่ต่อมา ตี๋ซุ้งเชิญป๋าเสริฐไปที่ห้องทำงานเพื่อจะได้คุยกันเป็นการส่วนตัว พวกลิ่วล้อของแขกผู้มาเยือนจัดแจงจะตาม แต่ป๋าเสริฐยกมือห้ามไว้ สั่งให้รอที่นี่ตนไปครู่เดียวเท่านั้น แล้วเดินตามตี๋ซุ้งกับเต็งล้อไป
อีกมุมหนึ่งบนตึกใหญ่ เหมยจะมาหาลูกที่ห้องกลับพบว่าลูกถูกฮัวกับผิงล็อกประตูขังไว้ในห้องตามคำสั่งของนายท่านก็ไม่พอใจสั่งให้เปิดประตู หลิวซึ่งอยู่ในห้องได้ยินเสียงแม่ก็ดีใจร้องบอกให้ช่วยตนด้วย
“หลิว เป็นยังไงบ้างลูก อาป๊าทำอะไรลื้อหรือเปล่า”
“เปล่าม้า...ม้าช่วยหลิวด้วย” หลิวว่าพลางมองไปที่ระเบียงห้องก่อนจะนึกแผนบางอย่างขึ้นมาได้ กว่าฮัวกับผิงจะยอมไขกุญแจให้เหมยเข้าไปในห้อง หลิวปีนระเบียงหนีไปเรียบร้อยแล้ว สองสาวถึงกับหน้าถอดสี...
ขณะที่ฮัวกับผิงออกตามหาหลิวกันจ้าละหวั่น เต็งล้อที่อยู่คุยกับป๋าเสริฐพร้อมกับตี๋ซุ้งรีบออกตัวว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าเฮียไถ่ ป๋าเสริฐทุบโต๊ะปังตวาดลั่น ถ้าไม่ใช่พวกเขาแล้วจะเป็นใคร ตี๋ซุ้งย้อนถามเสียงกร้าวเช่นกันว่า
“แล้วทำไมป๋าถึงคิดว่าเป็นฝีมือพวกเรา...เพราะป๋ารู้ว่าเฮียไถ่เป็นคนสั่งให้คนมายิงเมียกับลูกผมใช่ไหม”
ป๋าเสริฐไม่สนใจเรื่องนั้น แต่สนใจแค่ว่าเงินที่ตัวเองได้จากเฮียไถ่ทุกเดือนจะหดหายไป ดังนั้นตี๋ซุ้งจะต้องเป็นคนจ่ายเงินส่วนนี้แทนและต้องเอาคนที่ฆ่าเฮียไถ่มาให้ตนด้วย และต้องให้คำตอบก่อนเที่ยงพรุ่งนี้
“ผมให้คำตอบป๋าตอนนี้ได้เลย...ผมจะไม่จ่ายอะไรทั้งนั้น”
“ก็ดี ฉันจะได้เอาเรื่องนี้ไปบอกท่าน พวกแกก็จะไร้ที่ซุกหัวอีกต่อไป” ป๋าเสริฐยิ้มยียวนออกไป...
คำพูดของป๋าเสริฐทำให้ตี๋ซุ้งครุ่นคิดหนัก เต็งล้อเตือนหากเรื่องนี้ถึงหูท่านจริงๆ อาจจะทำให้เราเสียหายกว่าที่คิดก็ได้ ตี๋ซุ้งคิดไม่ตกจะทำอย่างไรดี ถ้าส่งตี๋ซาไปให้พวกมันก็เท่ากับส่งให้ไปตาย
“แต่นั่นคือทางเดียวที่เราจะสูญเสียน้อยที่สุด”
ตี๋ซุ้งยังไม่ทันจะพูดอะไรเพิ่มเติม ฮัวเข้ามารายงานว่าคุณหนูหนีไปแล้ว เต็งล้อเสียงเขียวใส่แล้วจะยืนเฉยอยู่ทำไม ไปบอกคนของเราให้กระจายกำลังกันตามหา ฮัวรับคำ ขยับจะไปแต่ตี๋ซุ้งร้องห้ามไว้
“ไม่ต้องฮัว บอกทุกคนให้ไปรอที่โรงพยาบาล”...
เป็นอย่างที่ตี๋ซุ้งคาดไว้ไม่มีผิด หลิวหนีไปหาอาติยะที่โรงพยาบาล แต่กลับพบข่าวร้ายว่าเขาตายแล้ว เธอโวยวายใส่หมอที่เดินเข้ามากับฮัวว่าเป็นไปได้อย่างไร เมื่อวานหมอยังบอกว่าไม่โดนจุดสำคัญแล้วเขาจะตายได้อย่างไร ฮัวขอร้องให้เธอเชื่อที่หมอพูด นอกจากหลิวจะไม่เชื่อ ยังคาดคั้นให้หมอพูดความจริง ฮัวเห็นท่าไม่ดีเข้ามาจับตัวเธอไว้แล้วใช้ผ้าชุบยาสลบโปะหน้า อึดใจเธอหมดสติ...
ขณะที่หลิวถูกนำตัวกลับบ้านธรรมกุล จางเหาขับรถพาเพ่ยมาถึงบ้านริมทะเล เธอลงจากรถได้ยินเสียงคลื่นกับลมทะเลที่พัดเข้ามาปะทะใบหน้าถึงกับฉีกยิ้มมีความสุข พลอยทำให้จางเหาสุขใจไปด้วย
ooooooo
ตี๋ซุ้งยังคิดไม่ตกเรื่องตี๋ซา เต็งล้อเข้าใจหัวอกนายท่านดีที่ต้องคิดหนักเพราะเคยผ่านอะไรมากมายกับตี๋ซากว่าจะมาถึงวันนี้ แต่ถ้าท่านไม่ทำ ท่านอาจจะไม่มีวันข้างหน้าอีก ตี๋ซุ้งถอนใจหนักใจ
“ถ้าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอั๊ว เฮียจะทำยังไง”
เต็งล้อตอบโดยไม่ต้องคิดว่าทำในสิ่งที่ต้องทำ จังหวะนั้นสมุนเข้ามารายงานว่าคุณหนูกลับมาแล้ว
ตี๋ซุ้งรีบลงไปข้างล่างโดยมีเต็งล้อกับสมุนตามมาติดๆ...
ที่ห้องโถงของบ้านธรรมกุล หลิวที่นอนสลบไสลอยู่บนโซฟาค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้น ตี๋ซุ้งปรี่เข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงว่าเป็นอย่างไรบ้าง เธอพยายามจะลุกขึ้นแต่ฤทธิ์ยาสลบที่ยังค้างอยู่ทำให้ทรุดลงไปนอนอีกครั้ง ผิงกับฮัวรีบเข้าไปประคอง เธอปัดมือทั้งคู่ออก ถามพ่อเสียงเขียวว่าเอาอาติยะไปไว้ไหน
“หมอบอกว่าเขาตายแล้ว”
“ไม่จริง...เมื่อวานหมอยังบอกกับหลิวว่าอาร์ตี้ปลอดภัยอยู่เลย แล้วอยู่ๆอาร์ตี้จะ...ป๊าทำอาร์ตี้ใช่ไหม...ป๊าส่งคนไปฆ่าเขาใช่ไหม ทำไม...ทำไม” หลิวระเบิดอารมณ์ใส่พ่อตัวเอง ตี๋ซุ้งปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรเขา และเราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก มันจบแล้ว หลิวรับไม่ได้วิ่งหนีเข้าห้อง
ล็อกประตู คว้ามือถือขึ้นมาโทร.หาชายคนรัก มีเพียงข้อความที่บอกว่าหมายเลขนี้ไม่สามารถติดต่อได้ เธอถึงกับทรุดลงนั่งแปะกับพื้นร้องไห้โฮ...
ด้านเต็งล้อรอคำตอบเรื่องข้อเสนอของป๋าเสริฐตั้งแต่บ่ายยันค่ำก็ยังไม่ได้รับความกระจ่าง จึงตัดสินใจเข้าไปถามตี๋ซุ้งว่าจะเอาอย่างไร เขามีคำตอบในใจอยู่แล้ว บอกให้เต็งล้อไปสั่งคนรถให้เตรียมรถไว้
“จะไปไหนเหรอนาย” เต็งล้อมองนายท่านอย่างรอคำตอบ...
ในเวลาต่อมา ตี๋ซุ้งแวะไปรับตี๋ซาที่บ้านมาดูงิ้วที่ศาลเจ้าด้วยกันโดยมีเต็งล้อตามติดเช่นเคย ตี๋ซุ้งต้องการจะคุยกับตี๋ซาเป็นการส่วนตัว เต็งล้อจึงต้องเดินเลี่ยงออกมา เมื่อได้อยู่กันตามลำพัง ตี๋ซุ้งไม่รอช้าถามว่าเป็นฝีมือเขาใช่ไหม ตี๋ซารู้ทันทีว่าหมายถึงเรื่องเฮียไถ่ ยอมรับหน้าตาเฉยว่าใช่ แล้วตี๋ซุ้งจะฆ่าเขาหรือเปล่า
ทั้งสองคนมัวแต่คุยกันไม่เห็นมือปืนซุ่มยิงกำลังเล็งปืนมาจากยอดตึกไม่ห่างกันนัก เขาได้รับคำสั่งจากเต็งล้อให้ซุ่มยิงตี๋ซาแต่ต้องรอสัญญาณจากเต็งล้อก่อน
เขามองผ่านกล้องส่องทางไกลที่ปืนดูอากัปกิริยาของผู้บงการเขม็ง เต็งล้อเองก็จับจ้องไปที่สองพี่น้องร่วมสาบานไม่วางตาเช่นกัน ตี๋ซุ้งย้อนถามตี๋ซาว่าจำตอนที่เขาจับมือตนเอาไว้ขณะที่ตนกำลังจะตกสะพานได้ไหม เขาจับมือตนไว้ไม่ยอมปล่อยจนเอ็นมือขวาของเขาขาด
“ทำให้ลื้อยิงปืนไม่ได้อีก อั๊วถามว่าทำไมลื้อไม่ปล่อยมือ ลื้อตอบว่าเพราะอั๊วเป็นพี่ลื้อ...ที่ลื้อถามว่าอั๊วจะฆ่าลื้อไหม อั๊วบอกเลยว่าไม่ เพราะลื้อเป็นน้องอั๊ว” ตี๋ซุ้งว่าแล้วตบไหล่ตี๋ซาเบาๆ เต็งล้อเห็นดังนั้นก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่ส่งสัญญาณใดๆ มือปืนซุ่มยิงเห็นเช่นนั้นก็ลุกขึ้นถอดปืนเก็บลงกล่องเท่ากับสิ้นสุดภารกิจ...
จากนั้นไม่นาน ตี๋ซาเดินออกมาจากโรงงิ้วอย่างสบายใจ สมุนที่รออารักขาอยู่รีบไปเปิดประตูรถให้ เขากำลังอารมณ์ดีจึงบอกให้พวกสมุนกลับกันไปก่อนเขาอยากเดินคิดอะไรสักหน่อย สมุนพยายามทักท้วงแต่ไม่เป็นผล ตี๋ซาเดินออกไปอย่างสบายอารมณ์ โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าชะตากำลังจะขาด ครั้นเขาเดินมาถึงตรอกข้างโรงงิ้วที่ทั้งมืดและเปลี่ยว ชายปริศนาก้าวออกมาขวางทางพร้อมกับชักปืนยิง ถูกลำตัวเขาอย่างจังเลือดทะลัก
ตี๋ซาเป็นนักสู้อยู่แล้ว พุ่งเข้าหามือปืนอย่างไม่เกรงกลัว มือปืนยิงซ้ำอีกสองนัดซ้อนก่อนที่เขาจะวิ่งมาถึงตัว แต่ก็ทำได้เพียงกระชากคอเสื้อมือปืนเข้ามามองด้วยความเจ็บใจ จากนั้นก็ล้มลงสิ้นใจ...
ข่าวการตายของตี๋ซารู้ถึงหูตี๋ซุ้งแทบจะในทันที เขาสั่งให้เต็งล้อพาไปยังที่เกิดเหตุก่อนที่ตำรวจจะมาพบศพ ครั้นมาถึงจุดหมาย ตี๋ซุ้งเข้าไปคุกเข่าข้างๆร่างไร้วิญญาณของตี๋ซา จับมือมากุมไว้กลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่ เต็งล้อเดินมาหยุดด้านหลังโดยที่กระดุมเสื้อเม็ดบนขาดหายไป เตือนให้ตี๋ซุ้งกลับได้แล้ว ตำรวจมากันแล้ว
“ลื้อหลับให้สบายเถอะ ทางนี้อั๊วจัดการเอง” ตี๋ซุ้งวางมือตี๋ซาลงแล้วเดินจากไป
ooooooo










