สมาชิก

หงส์เหนือมังกร

ตอนที่ 1

วรชัย ธรรมกุล หรือตี๋ซุ้ง หัวหน้าสมาคมธรรมกุลแต่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างว่าเป็นเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการนักเลงเมืองไทยกับตี๋ซา น้องร่วมสาบานของเขาสั่งให้สมุนจับตัวนายไซ้ไปขังไว้ที่โกดังริมน้ำ เพื่อเค้นเอาความจริงว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น

นายไซ้ถูกตี๋ซาซ้อมสะบักสะบอมแต่ก็ไม่ยอมปริปากพูด ได้แต่บอกว่าตัวเองไม่ได้ทำ ตี๋ซาไม่พอใจที่เขาปากแข็ง คว้ามีดจะแทงปาก ตี๋ซุ้งร้องห้ามไว้ แล้วเดินเข้าไปหานายไซ้ซึ่งยังคงยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ได้เป็นคนทำ เจ้าพ่อใหญ่ยังไม่ทันจะพูดอะไร ตี๋ซาต่อยนายไซ้หน้าสะบัด

พลันตี๋ซุ้งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสี่ชั่วโมงก่อนหน้าขึ้นมาได้ ตอนนั้นเขากับตี๋ซาและนายไซ้ออกจากร้านอาหารจะไปที่รถของแต่ละคน แต่ยังเดินไม่ทันถึงไหน นายไซ้รับกล่องขนมจากมือลูกน้องตามไปยื่นให้

“ฝากขนมเปี๊ยะจากร้านกอกใจเจ๋าเหล่าให้อาซ้อด้วยนะครับ”

“ได้สิ ขอบใจมากนะ” ตี๋ซุ้งรับกล่องขนมส่งให้สมุนเอาไปใส่รถ แล้วขยับจะไปขึ้นรถ แต่ตี๋ซาเข้ามาชวนให้ไปนั่งรถคันใหม่ที่เซลขายรถเพิ่งเอามาให้ขับ หวังจะให้พี่ร่วมสาบานช่วยวิจารณ์รถให้หน่อย นายไซ้ออกอาการผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดจนตี๋ซาจับพิรุธได้ร้องทักว่าเป็นอะไร เขากลับวิ่งหนีไปหน้าตาเฉย ตี๋ซุ้งนึกถึงกล่องขนมขึ้นมาทันที แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร รถตัวเองเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

เสียงนายไซ้ที่ยังคร่ำครวญว่าตัวเองไม่รู้ไม่เห็นปลุกให้ตี๋ซุ้งตื่นจากภวังค์มองคนทรยศด้วยสายตาเย็นชา

“รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงได้ห้ามทุกคนไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยา เพราะเราไม่สามารถควบคุมมันได้จริงๆ มีแต่จะโดนมันควบคุมและครอบงำ”

“ผมไม่ได้ทำจริงๆนะเฮียซุ้ง ผมเชื่อเฮียมาตลอด เฮียก็รู้” นายไซ้แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ตี๋ซาไม่พอใจตะคอกใส่หน้า ยังจะกล้าพูดอีกหรือว่าไม่ได้ทำ ที่ตนกับเฮียซุ้งเกือบตายไม่ใช่เพราะแค้นที่เฮียห้ามไม่ให้เขาเอายาจากไอ้ป๋าเสริฐมาขายในพื้นที่ของเราหรือ นายไซ้กลัวจัดยกมือไหว้ปลกๆ ขอให้ไว้ชีวิต ตี๋ซาไม่สนใจหยิบปืนจากสมุนยิงใส่นายไซ้ตายสนิท

ooooooo

ใกล้รุ่ง ธรรมกุลหรือหลิวลูกสาวคนโตของตี๋ซุ้งกำลังแต่งตัวอยู่ในห้องพักของโรงแรมซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานวันเกิดตัวเอง วานให้ฮัวบอดี้การ์ดสาว โทร.หาเหมยผู้เป็นแม่หลายครั้งแต่ติดต่อไม่ได้ หลิวถอนใจเซ็ง

“อาม้าคงไม่มาแล้วล่ะ...ฮัว ช่วยหากระดาษกับปากกาให้หน่อยสิ ฉันจะเขียนโน้ตถึงอาม้าหน่อย” หลิวสั่งเสร็จ รอจนฮัวออกจากห้องไปสักพัก จัดแจงเปิดประตูออกไปดูลาดเลา ครั้นเห็นปลอดคนไม่มีสมุนของพ่ออยู่แถวนั้น จ้ำพรวดๆหนี ผิงวิ่งตามไปขอร้อง อย่าหนีไปไหนเลย สงสารตนด้วยเถิด

“แล้วผิงไม่สงสารฉันบ้างเหรอ ที่อยู่ดีๆงานวันเกิดตัวเองก็กลายเป็นงานสร้างภาพให้ใครก็ไม่รู้”

“ใครก็ไม่รู้ นั่นคือคุณพ่อของคุณหนูนะคะ”

หลิวได้ยินเสียงคนเดินรีบดึงผิงหลบไปทางบันไดหนีไฟได้ทันเวลาก่อนที่ฮัวกับสมุนอีกสองคนจะมาถึง ผิงพยายามขอร้องคุณหนูอย่าหนีอีกเลย คนของนายท่านมากมายขนาดนี้จะหนีไปได้อย่างไร หลิวมั่นใจหนีได้แน่ ถ้าเธอให้ความร่วมมือ ผิงถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก...

ที่ห้องจัดเลี้ยง แขกเหรื่อเริ่มทยอยมาร่วมงาน ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจที่มือไม่ค่อยจะสะอาดนักกับพวกนักการเมือง นอกจากนี้ยังมีชายฉกรรจ์ซึ่งเป็นผู้ติดตามของบรรดาแขกผู้มีเกียรติเดินป้วนเปี้ยนเต็มไปหมด บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึมครึมเพราะแขกแต่ละคนต่างเป็นผู้มีอิทธิพล...

บริเวณลานจอดรถหลังโรงแรม สมุนของตี๋ซุ้งจับตำรวจนอกเครื่องแบบที่แฝงตัวเข้ามาร่วมงานวันเกิดหลิวมาให้เต็งล้อคนสนิทของตี๋ซุ้งสอบสวน เขาถามสมุนเสียงเครียดว่าเช็กกับท้องที่หรือยัง สมุนเช็กแล้วไม่ใช่ตำรวจท้องที่ น่าจะเป็นหน่วยอื่น เต็งล้อเปิดถุงผ้าคลุมหัวพวกตำรวจออก

“ฝากไปบอกผู้บังคับบัญชาพวกคุณด้วยนะ ถ้าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับพวกเรา...เรายินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เหมือนที่ให้กับตำรวจท้องที่เป็นอย่างดี” พูดไม่ขาดคำ สมุนคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงานว่านายใหญ่มาถึงแล้ว เต็งล้อพยักหน้ารับรู้ แล้วหยิบซองอั่งเปาจากในกระเป๋าออกมา

“ขอบคุณที่แวะมา ช่วยรับไว้ด้วยมันเป็น ธรรมเนียม” เต็งล้อยัดซองใส่เสื้อตำรวจแล้วผละจากไป...

ทางด้านฮัวเดินตามหาเจ้านายสาวมาจนเจอหลังไวๆเลี้ยวเข้าไปในห้องน้ำ แต่พอตามเข้าไปกลับพบว่าไม่ใช่หลิวแต่เป็นพนักงานสาวของโรงแรมสวมชุดของเธออยู่ ฮัวโวยวายไปเอาชุดนี้มาจากไหน

“มีผู้หญิงคนหนึ่งขอแลกชุดฉัน...ฉันไม่ได้ขโมยมานะ” พนักงานแก้ตัวเป็นพัลวัน ฮัวปวดหัวตึบขึ้นมาทันที นี่หลิวแอบหนีไปอีกแล้วหรือ...

ฝ่ายหลิวในชุดพนักงานโรงแรมเร่งฝีเท้าเพื่อจะไปให้พ้นโรงแรมโดยเร็วที่สุด ผิงที่เดินตามหลังพยายามขอร้องไม่ให้ทำอย่างนี้ นี่เป็นงานวันเกิดของเธอเอง เธอไม่อยากอยู่ในงานที่มีแต่มาเฟีย ผิงสวนทันทีเธอเองก็เป็นลูกสาวมาเฟียไม่ใช่หรือ หลิวหันขวับมองเขม็ง ผิงนึกขึ้นได้ว่าพูดมากไปรีบขอโทษ

“แต่ว่าข้างนอกมันอันตรายนะคะ เห็นเขายิ่งลือกันอยู่ว่ามีคนจ้องจะทำร้ายนายท่านด้วย”

“ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันนี่”

ผิงเหนื่อยใจกับเจ้านายสาว แล้วนี่จะให้ตนบอกนายท่านว่าอย่างไร หลิวฝากให้ไปบอกท่านด้วยว่าเธอจะแวะไปหาเพื่อนแล้วเดินลิ่วออกไป แต่ต้องชะงักเมื่อเจอสมุนของพ่อยืนอยู่ที่ประตูทางออก สองคนรีบหลบแทบไม่ทัน หลิวนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมองหน้าผิงซึ่งส่ายหน้าดิก

“ไม่นะคะคุณหนู...ผิงโกหกทีไรโดนจับได้ทุกที”...

แม้จะปฏิเสธว่าโกหกไม่เก่ง แต่สุดท้ายผิงก็หลอกล่อสมุนของตี๋ซุ้งไปพ้นประตูทำให้หลิวหลบหนีไปได้

ooooooo

จากนั้นไม่นาน หลิวนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาลงที่หน้าตลาด แล้วตรงเข้าไปข้างในด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขที่จะได้เจอชายคนรัก ก็เลยไม่ทันสังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมยาเสพติดมองตามตาเป็นมัน

ครั้นหลิวเดินเลี้ยวหัวมุม มีวัยรุ่นสามคนมาดักรออยู่ เธอเห็นท่าไม่ดีถอยหลังกรูด แต่ต้องชะงักเมื่อวัยรุ่นหัวโจกเอามีดปลายแหลมมาจี้คอ สั่งห้ามส่งเสียงถ้าไม่อยากตาย และให้เอาของมีค่ามาให้หมด เธอรีบบอกว่าไม่มีเงิน หัวโจกหื่นกามลูบไล้สะโพกเธอเล่น หลิวฮึดฮัดปัดมือมันออก หัวโจกไม่พอใจตบผัวะ

“เดินไป อย่าเสียงดังนะ” หัวโจกเอามีดจี้เอวหลิว พลางใช้อีกมือหนึ่งดันหลังให้ออกเดิน

อีกมุมหนึ่งไม่ห่างกันนัก จางเหาซื้อผักสดกับผลไม้เสร็จก็ตรงกลับบ้าน เหลือบเห็นแดง เด็กชายที่คุ้นเคยกันนั่งหลับอยู่ เดินเข้าไปปลุก มานอนทำอะไรตรงนี้ แล้วพ่อของเขาไปไหน แดงส่ายหน้าไม่รู้เหมือนกัน พ่อสั่งให้รอตรงนี้ จางเหายังไม่ทันจะพูดอะไร มีเสียงพ่อของแดงร้องทักจากด้านหลังเสียก่อน ชายหนุ่มหันขวับ

“ผมกำลังจะไปตามพอดี”

“โทษที วันนี้คนงานลาก็เลยต้องเอาผักลงเอง...ไปไอ้แดง”

จางเหาหยิบส้มในถุงยื่นให้แดงเอาไปกิน รอจนสองพ่อลูกเดินเลี้ยวหัวมุมเขาจึงหันหลังจะไป เป็นจังหวะเดียวกับกลุ่มวัยรุ่นขี้ยาจี้ตัวหลิวเดินมาพอดี สองฝ่ายเกือบชนกัน จางเหามองทางหางตาเห็นมีดจี้เอวหญิงสาวอยู่ วัยรุ่นหัวโจกไม่พอใจตวาดแว้ด อยากตายหรือ จางเหาค้อมหัวให้

“โทษทีพี่ชาย” พูดจบจางเหาเดินแยกไปอีกทางหนึ่งทำเหมือนไม่อยากยุ่งด้วย หัวโจกดันหลังให้หลิวเดินต่อไป กระทั่งมาถึงมุมเปลี่ยวกลุ่มวัยรุ่นจัดแจงจะรุมโทรม เธอสู้สุดฤทธิ์แต่สู้แรงผู้ชายไม่ได้ถูกตบคว่ำลงไปกองกับพื้น วัยรุ่นสองคนช่วยกันกดแขนเธอไว้ หัวโจกเห็นสร้อยคอเธอโผล่ออกมาจากเสื้อกระชากเอาไป

“ไอ้บ้า เอาสร้อยฉันคืนมานะ” หลิวพูดไม่ทันจบ หัวโจกถูกจางเหาเอาไม้ฟาดจากด้านหลังหลับกลางอากาศ สร้อยในมือร่วงลงพื้น วัยรุ่นสามคนที่เหลือเข้ามารุมล้อมจะเล่นงาน จางเหาเห็นหลิวเป็นอิสระก็สั่งให้หนีไป เธอลังเลเนื่องจากเป็นห่วง เขาจึงต้องสั่งซ้ำให้หนีไปก่อน เธอถึงวิ่งปรู๊ดออกไป วัยรุ่นจะตาม แต่จางเหาขวางไว้ สองฝ่ายเปิดฉากต่อสู้กันด้วยมือเปล่า แรกๆจางเหาพอจะต้านพวกวัยรุ่นไว้ได้

ต่อสู้ได้พักเดียว จางเหาตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเนื่องจากวัยรุ่นมีมากกว่า โดนต่อยทรุดลงไปกอง พวกนั้นช่วยกันจับตัวไว้ หนึ่งในวัยรุ่นชักมีดขึ้นมาจะแทงเขา แต่หลิวกลับมาช่วยเอาไว้ทัน ใช้ไม้ฟาดหัววัยรุ่น ถือมีดทรุด จางเหาสบช่องจัดการวัยรุ่นที่จับตัวเขาไว้จนล้มกลิ้งล้มหงายแล้วดึงหลิวถอยมาตั้งหลัก พลางต่อว่า ว่าทำไมถึงไม่หนี เธออ้างขืนหนีคงมาช่วยเขาไม่ทัน จางเหาเห็นสามวัยรุ่นลุกขึ้นมาได้ ชวนเธอให้วิ่งหนี

หลิวเห็นสร้อยคอของตัวเองตกอยู่ วิ่งกลับไปคว้าไว้แล้วจึงวิ่งหนีโดยมีจางเหาวิ่งตาม พวกวัยรุ่นไล่ล่าทั้งคู่ไม่ลดละ แต่ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดสูงของจางเหาทำให้ทั้งคู่หนีรอดจากเงื้อมมือพวกวัยรุ่นไปได้ หลิวเห็นถุงใส่กับข้าวสดในมือเขาเสียหายก็ขอเบอร์โทร.เพื่อจะโอนเงินค่าข้าวของที่เสียหายให้ เขาไม่อยากได้เงิน อยากได้แค่คำขอบคุณก็พอ เงินได้มาแค่วันสองวันก็หมด

“แต่ความรู้สึกที่เรามอบให้กัน มันจะอยู่ในใจตลอดไป”

“ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้นะคะ” หลิวยิ้มให้อย่างจริงใจ จางเหาอาสาจะไปส่ง เธอขอบคุณเขาอีกครั้งสำหรับน้ำใจ แต่ไม่เป็นไร เดินผ่านศาลเจ้านี่ไปก็ถึงที่หมาย แล้ว ทั้งสองคนแยกจากกันด้วยมิตรภาพที่ดี

ooooooo

หงส์เหนือมังกร

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด