ตอนที่ 18
หมอเอกดึงอาริสาไม่ออกจึงลุกขึ้นพยายามดันรถที่ทับขาเธอ แต่ไม่เป็นผลใดๆ ป้องกุลเข้ามาเห็นสภาพอาริสาแล้วแทบร้องไห้
“ริสาอย่าเป็นอะไรนะ ริสาตื่นสิ”
“รถทับขาอยู่ ต้องยกรถขึ้น”
ป้องกุลผละจากอาริสามาช่วยหมอเอกดันรถจนมันเริ่มขยับ
“หมอดึงริสาออกมา”
หมอเอกทำตามที่ป้องกุลร้องบอกแต่ยังดึงไม่ออก อาริสามีสติลืมตามองหมอเอกกับป้องกุลพร้อมส่งเสียง
“หมอ...ป้อง...ลูก!!”
อาริสาห่วงลูกในท้อง ป้องกุลมองเห็นเลือดที่ไหลตามขาอาริสาก็ยิ่งใจเสีย พยายามใช้แรงดันรถสุดพลังและบอกหมอเอกให้ดึงตัวอาริสาออกมา
ไม่ว่าหมอจะพยายามดึงร่างอาริสายังไงก็ยังออกไม่ได้ เสียงเธอร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ ทั้งหมอเอกและป้องกุลบอกเธอให้อดทน
“ริสา อดทนหน่อยนะ”
“ทนอีกนิดนะริสา ไม่ต้องกลัว ผมไม่ให้ริสากับลูกเป็นอะไรทั้งนั้น”
แล้วสองคนก็ช่วยกันดึงอาริสาออกมาจนได้เพราะป้องกุลใช้ขาสอดเข้าไปช่วยงัด แต่น้ำมันก็ยังไหลออกจากถังไม่หยุด หมอเอกอุ้มอาริสาออกจากตรงนั้นเล็กน้อย แต่ป้องกุลออกไม่ได้โดนรถทับขา
อาริสาปลอดภัยแล้วแต่กลายเป็นป้องกุลยังติดอยู่ที่รถแทนเธอ เขาพยายามดึงและดันตัวเองออกจากรถแต่ไม่สำเร็จ ซ้ำร้ายน้ำมันเริ่มไหลนองเข้ามาถึงตัวเขาแล้ว!
ooooooo
เกศิรินอยู่ห่างออกไป เธอเริ่มรู้สึกตัวพร้อมๆ กับมีหน่วยกู้ภัยเข้ามาปฐมพยาบาล เกศิรินลืมตามองไปเห็นหมอเอกกับอาริสาที่ปลอดภัยแล้ว แต่ไม่เห็นป้องกุลก็ตะโกนเรียกเสียงหลง
“ป้อง! ทำไมยังไม่ออกมา ป้อง!”
หมอเอกตกใจมากมองน้ำมันข้างรถและเห็นประกายไฟด้านหน้ารถติด เกศิรินเห็นเช่นเดียวกันพยายามจะลุกขึ้นแต่ยังเจ็บซี่โครงจนลุกไม่ไหว
หมอเอกผละจากอาริสาเข้าไปช่วยป้องกุล อาริสารู้เห็นตลอดมองไปที่ป้องกุลด้วยความเป็นห่วงสุดหัวใจ
“ป้อง...ออกมา”
ป้องกุลได้ยินเสียงอาริสาก็ตะโกนตอบ “ริสาไม่ต้องห่วง ริสานอนเฉยๆ”
“ใครก็ได้ เอาที่งัดมาเร็ว” หมอเอกร้องบอก
ขณะนั้นน้ำมันรถที่ไหลตามพื้นใกล้จะถึงจุดที่มีประกายไฟแล้ว...หมอเอกพยายามงัดรถเพื่อรีบดึงตัวป้องกุลออกมาแต่ไม่สำเร็จ อาริสาทนไม่ไหวตะเกียกตะกายไปข้างรถจับมือป้องกุลฉุดดึงเท่าที่แรงจะมี
“ป้องออกมาเร็ว”
“เอาถังดับเพลิงมาเร็ว” เจ้าหน้าที่กู้ภัยร้องบอกเพื่อนร่วมทีมที่มาด้วยกัน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งวิ่งไปหาถังดับเพลิงในรถอย่างรีบร้อน ป้องกุลมองน้ำมันที่ไหลใกล้ถึงไฟแล้วรู้ว่ารถต้องระเบิดแน่จึงพูดกับอาริสาที่จับมือตนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ออกไปริสา ไม่ต้องห่วงผม”
“ไม่! เธอต้องออกมาด้วยกัน”
“ริสาออกไป” หมอเอกเข้ามารั้งอาริสา ป้องกุลรีบบอกหมอทันที
“หมอ...ถ้าไม่อยากให้ริสาเป็นอะไร พาริสาออกไป”
“ไม่! เราต้องไปด้วยกัน”
อาริสาไม่ยอมปล่อยมือ ป้องกุลจำต้องปลดมือตัวเองออกแล้วจับมืออาริสาส่งให้หมอเอกพร้อมเอ่ยฝากฝัง
“หมอ...คุณเคยบอกว่าถ้าผมดูแลริสากับลูกไม่ได้ คุณจะรับเขาสองคนคืน ผมดูแลริสากับลูกไม่ได้อีกแล้ว”
“ไม่นะป้อง...” อาริสาพูดเสียงสั่นน้ำตาคลอ
“ขอให้คุณทำตามคำพูดด้วย”
เกศิรินเห็นไฟเริ่มลุกโชนตามพื้นก็ตะโกนเรียกป้องกุลลั่นไปหมดและพยายามจะลุกไปหาแต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุดรั้งไว้
“ปล่อย ฉันจะไปช่วยลูก...ป้อง!!!”
“ผมรักแม่นะครับ” ป้องกุลร้องบอกแม่...ก่อนพูดกับหมอเอกและอาริสาว่าตนฝากแม่ด้วย
ป้องกุลพูดจบก็ตัดสินใจผลักทั้งหมอเอกและอาริสาออกห่างจากรถ...อาริสาล้มอยู่ในอ้อมกอดของหมอเอกที่ใช้ตัวเองปกป้องเธอไม่ให้ล้มกระแทกพื้น
เกศิรินกรีดร้องและดิ้นรนจะเข้าไปหาลูกชายแต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่ยินยอมเพราะเสี่ยงอันตรายเกินไป หมอเอกเองก็ไม่นิ่งนอนใจตั้งท่าจะวิ่งเข้าไปช่วยป้องกุลแต่ถูกพวกหน่วยกู้ภัยและตำรวจวิ่งเข้ามาจับตัวดึงให้ออกห่างจากรถที่ไฟกำลังไหม้อย่างเร็วโดยที่ถังดับเพลิงก็ช่วยไม่ได้แล้ว
อีกไม่กี่อึดใจไฟลุกท่วมรถและระเบิดดังสนั่น ทุกคนประสานเสียงเรียกป้องกุลเป็นครั้งสุดท้าย!!
“ป้อง!!!”
“ป้องกุล!!!”
“ไม่!!...ป้องอย่าทิ้งแม่...ป้อง!!!!”
ooooooo
เช้าวันถัดมาที่โรงพยาบาล...อาริสานอนหลับรักษาตัวอยู่บนเตียงผู้ป่วยโดยมีหมอเอกจับเจ่าเฝ้ามองเธอด้วยความเป็นห่วง มือข้างหนึ่งของเขาเอื้อมมาลูบศีรษะของเธออย่างอ่อนโยน
อาริสาค่อยๆลืมตามองคนที่ลูบศีรษะตน แต่สายตาเธอพร่ามัวเพราะยังปรับเลนส์ตาไม่ได้ ภาพคนที่ยืนข้างเตียงนั้นคล้ายป้องกุล อาริสามองด้วยความดีใจคิดว่าป้องกุลไม่ตายจากเหตุการณ์รถระเบิดเมื่อวาน
“ป้อง!!!”
เสียงเธอเรียกออกไป...แต่แล้วต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงหมอเอกดังขึ้นมา
“ริสา...”
อาริสามองคนที่ยืนข้างเตียงและลูบศีรษะตนใหม่อีกครั้งเต็มๆตา...เขาคือหมอเอกไม่ใช่ป้องกุลอย่างที่เข้าใจในตอนแรก
สภาพอาริสามีรอยฟกช้ำตามใบหน้าและตามร่างกายเพียงเล็กน้อย เธอชะงักมองหมอเอกแล้วกวาดตามองรอบห้องอย่างมีความหวังว่าจะเห็นป้องกุล ...แต่ก็ไม่เห็น
หมอเอกยิ้มเศร้าพลางลูบศีรษะอาริสาอีกครั้งอย่างห่วงใย...เพียงแค่นี้อาริสาก็สีหน้าหม่นหมองลงทันใด แววตาเศร้าสลด รู้สึกจุกอก...เจ็บปวดหัวใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป










