ตอนที่ 2
ติสรณ์หรือเต้ย ชายหนุ่มเพื่อนสนิทวัยเด็กของนัทธมนรู้ข่าวดีของเธอ เช้าวันต่อมาเมื่อเธอชวนมาเลี้ยงกาแฟพร้อมกับถุงแป้ง เขาดีใจกับเพื่อนสาวแต่อดห่วงไม่ได้เพราะเธอกำลังเอาตัวไปเสี่ยงกับเรื่องในอดีต
นัทธมนไม่ยี่หระคำเตือนของเพื่อนหนุ่ม หมกมุ่นกับความเชื่อของตัวเองว่ากฤตย์ เจ้านายคนใหม่ ต้องเกี่ยวข้อง บางอย่างกับวรดาและอดีตชาติของเธอ
กฤตย์ก็สงสัยในตัวนัทธมนไม่ต่างกัน ท่าทางแปลกๆ ของเธอชวนให้เขาค้นหา การดึงเธอมาใกล้ตัวอาจทำให้เขาได้คำตอบว่าเพราะเหตุใดถึงมีความรู้สึกแบบนั้น แต่ก่อนถึงเวลานั้นภาพในอดีตก็หวนมาในหัวเขาทันทีที่เขา ย่างกรายเข้าสวนดอกไม้...สถานที่ในความทรงจำของเขากับวรดา...
ภาพอดีตเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อนกลับมาอีกครั้ง...กฤตย์ยังจำได้ว่าเขาพาตัวเองไปหาวรดาที่ริมรั้วบ้านประพจน์ หญิงสาวกำลังรดน้ำต้นไม้ เขาจึงถือโอกาสชวนเธอมาชม สวนที่บ้านตัวเอง
วรดาอึกๆอักๆก่อนปฏิเสธ “เอ่อ...คงไม่เหมาะมังคะ”
“ไม่เหมาะยังไง...เธอเป็นคนดูแลตกแต่งสวนสวยๆนี่ไม่ใช่เหรอ เผื่อจะได้ช่วยดูช่วยวิจารณ์สวนของ บ้านเราไง มาเถอะน่า...เธอเดินอ้อมไปหน้าบ้านนะ เดี๋ยวเราไปเปิดรั้วให้”
กฤตย์ตื๊อจนวรดายอมเข้ามาชมสวนสไตล์ยุโรปในบ้านเขา รอยยิ้มชอบใจของเธอตรึงใจเขาอย่างประหลาด เขาพาเธอชมสวนโดยรอบพร้อมคำอธิบายด้วยความภาคภูมิใจจนเธออดขำไม่ได้
“คุณกฤตย์ทำท่าเหมือนไกด์นำเที่ยวเลยนะคะ”
“งั้นไกด์คนนี้ขอถามผู้เชี่ยวชาญเรื่องสวนว่า ถ้าเรา อยากได้ไม้หอมของไทยมาลงบ้าง เธอพอช่วยแนะนำได้ไหม”
“ได้สิคะ...ต้นแก้วก็ดีค่ะ กลิ่นหอมหวาน ต้นก็ตัดแต่ง เป็นพุ่มเป็นทรงได้หรือถ้าต้นใหญ่ๆก็มีปีบกลิ่นหอมเย็นๆ”
“ใช่...ปีบนี่แหละเราชอบมาก กลิ่นหอม หวานเย็น... ที่เจอเธอครั้งแรกเธอเอามามัดเส้นผม วันนี้ไม่มีใช่ไหม”
พูดพลางส่งตาหวาน วรดาหน้าแดงด้วยความเขิน ก่อนเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง กฤตย์เลิกกระเซ้าพาเธอเดินไปทาง ที่ดินทิ้งร้าง ซึ่งเกื้อพ่อของเขาซื้อต่อจากประพจน์พ่อของเธอเมื่อหลายปีก่อน
“ที่ตรงนั้น...ฉันเคยได้ยินว่ามีหลุมหลบภัยเก่าด้วยนี่คะ”
“หือ...หลุมหลบภัยเก่าเหรอ พูดเป็นเล่น”
วรดาพยักหน้า พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มีจริงๆนะคะ... คุณพ่อเคยเล่าว่าสมัยสงครามคุณปู่เคยสั่งให้สร้างหลุม หลบภัยไว้ แต่พอสงครามสงบก็ปล่อยทิ้งร้าง ปิดตายเอาไว้เฉยๆ”
“เราอยู่นี่มาหลายปียังไม่เคยรู้เลยนะเนี่ย”
“คุณลุงเกื้อท่านคงลืมเล่ามังคะ เพราะท่านซื้อที่ ผืนนี้ไว้นานมากๆแล้ว”
“แล้วหลุมที่ว่านี่ใหญ่มากไหม...ข้างในเป็นยังไง”
“ไม่ทราบสิคะ ฉันเองก็ยังไม่เคยไปดูกับตาเหมือนกัน”
“ถ้างั้นลองไปดูกันเลยไหม...”










