สมาชิก

ชั่วโมงต้องมนต์

ตอนที่ 5

ที่ห้องนั่งเล่นบ้านณฤทธิ์ วรรณนากับแก้วตากำลังนั่งดูทีวีกันอยู่ เห็นพุฒิเมธเดินเข้ามาอย่างกะปลกกะเปลี้ย วรรณนากับแก้วตาถามว่าไปหมดแรงจากไหนมาสภาพอย่างกับไปรบมา

พุฒิเมธบอกว่าวันนี้ตนเสี่ยงชีวิต เกือบตายยิ่งกว่าออกรบอีก ถ้าน้ารู้ว่าตนเจออะไรมาบ้างแล้วจะอึ้ง วรรณนาถามว่ามีเรื่องอะไรหรือ

“วันนี้พี่กันต์ประกาศว่าอาจจะปิดบริษัท เด็กที่พี่มาร์คตั้งใจจะปั้นเลยผิดหวัง จะกระโดดตึกฆ่าตัวตายน่ะครับ” วรรณนาตกใจถามว่าแล้วเป็นยังไงบ้าง “ปลอดภัยดีครับ แต่เรื่องผิดหวัง สภาพจิตใจคงยังไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไหร่”

สมบัติยืนฟังเรื่องราวทั้งหมดรู้สึกสงสารเด็กและเป็นห่วงบริษัทของณฤทธิ์ขึ้นมา

เช้านี้ บุญสิตากับแนนซี่นั่งคุยกันที่ร้านโจ๊ก บุญสิตาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง แนนซี่บอกว่าถือว่าฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกัน ชมพุฒิเมธว่าใจถึงอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตช่วยเธอ ทั้งหล่อทั้งแมนฟูลออปชันอ่ะ

บุญสิตานึกถึงวินาทีความเป็นความตายขณะร่วงลงมาจากตึกกับพุฒิเมธ พอรู้ว่ารอดตายก็โผกอดเขาด้วยความดีใจ แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปแล้วก็นึกเขิน แนนซี่สะกิดถามว่าใจลอยไปถึงไหน ขวัญหายหรือ

“สรุปก็คือคุณมาร์คจะสามารถเข้าร่างเธอได้ก็ต่อเมื่อมีภารกิจว่าอยากจะช่วยชีวิตใคร พอคนคนนั้นอยากจะกลับมามีชีวิตมีกำลังใจอยากมีชีวิตอยู่บนโลกอีกก็เป็นอันว่าภารกิจสิ้นสุด คุณมาร์คก็จะไม่สามารถเข้าร่างเธอได้งั้นสิ”

“ใช่”

“งั้นเธอก็ไม่ต้องช่วยคนสิ คุณมาร์คจะได้ไม่ต้องเข้าร่างเธอ”

บุญสิตาถามว่าถ้าเธอเห็นคนกำลังจะตายต่อหน้าจะไม่ช่วยหรือ แล้วชวนไปเยี่ยมดนุดลกัน อยากไปให้กำลังใจเขา แต่เมื่อบุญสิตามาหาดนุดล วิญญาณณฤทธิ์ก็ตามมาด้วย ณฤทธิ์บอกว่าตนอยากให้ดนุดลหายซึมเศร้า แต่ตนก็ต้องหาเคสใหม่เพื่อจะได้เข้าร่างเธออีก พูดเหน็บว่าเธอใจดีนักก็ไปดูแล้วกัน ส่วนตนไปที่อื่นดีกว่า

แต่ขณะที่บุญสิตาจะเข้าบ้านดนุดลนั่นเอง พุฒิเมธก็ขับรถเข้ามาจอดเทียบ ต่างมองกันแปลกใจว่ามาทำอะไรที่นี่ หลังจากทักถามสุขภาพกายและใจกันแล้ว บุญสิตาบอกว่าวันนี้ตั้งใจมาชวนไปที่ที่หนึ่ง ถามดนุดลว่ามีเวลาไหม พุฒิเมธถามว่าจะไปไหนเดี๋ยวตนจะพาไปเอง

บุญสิตาพาทั้งสองไปที่บริษัทสายด่วนบำบัดทุกข์ให้ไปฟังความทุกข์ของผู้ที่โทร.เข้ามามีสารพัดทุกข์ เมื่อดนุดลได้ฟังความทุกข์ของคนอื่นมากมายแล้วทำให้เขามีสติขึ้น บุญสิตายังช่วยสรุปให้ว่า

“ดลยังเด็ก โตไปยังมีเรื่องอะไรอีกเยอะที่ต้องเรียนรู้ ปัญหาวันนี้อาจใหญ่สำหรับดล แต่เดี๋ยวพอดลผ่านไป ดลโตขึ้น ดลมองย้อนกลับมา ปัญหาพวกนั้นก็จะเล็กนิดเดียวเอง”

บุญสิตายังเอาน้ำผักในกระติกของตัวเองให้ดนุดลดื่มเพื่อเป็นการสอนอย่างเป็นรูปธรรมว่า คนที่ไม่เคยกินก็จะคิดว่ามันขม กินไม่ได้ทนไม่ไหว แต่ถ้าเรากินมันบ่อยๆเราก็จะชินไปเอง อีกหน่อยก็ไม่รู้สึกขมแล้ว เหมือนปัญหาของดลอีกหน่อยดลก็จะไม่เจ็บแล้ว”

“ไม่มีใครไม่เคยเจ็บปวด ไม่เคยผิดพลาดหรือล้มเหลวหรอก” พุฒิเมธเสริม “ดลต้องยอมรับความจริง

และเดินต่อไปให้ได้ คิดถึงคนที่มีความทุกข์มากกว่าเรา ถ้าคนอื่นอดทนและฟันฝ่าได้ ดลก็ต้องผ่านได้”

“ผมไม่มีทางทำแบบนั้นอีกแล้ว ตอนแรกผมอยากตายก็จริง แต่ตอนที่ผมกำลังจะตาย ผมรู้แล้วว่า ความรู้สึกกลัวตายมันเป็นยังไง ยิ่งตอนที่พวกพี่ตกลงไป ยิ่งทำให้ผมกลัว ถ้าคนที่ตกลงไปเป็นผม พ่อ แม่ คนที่รักผมจะรู้สึกยังไง”

“รู้แล้วก็ดี ต่อไปจะได้รักตัวเองมากๆ” พุฒิเมธย้ำ บุญสิตาสรุปว่า

“จำเอาไว้เป็นบทเรียนนะ คิดซะว่าตอนนี้เป็นชั่วโมงที่ดลจะต้องเรียนรู้ความเจ็บปวด ความผิดพลาด อาจจะทรมานนิดๆ เจ็บจี๊ดหน่อยๆ แต่มันจะทำให้เราสตรอง”

บุญสิตายิ้มให้กำลังใจ ดนุดลยิ้มรับ...เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเหมือนเห็นด้วยกับที่ทุกคนพูด

ดนุดลโทร.บอกแพตตี้ขณะออกมานั่งพักผ่อนกันที่สวนสาธารณะ ขอบคุณแพตตี้ที่ให้บทเรียนที่มีค่ากับตน บอกว่า “ต่อไปนี้ผมจะไม่พูดเดี๋ยว จะไม่ทำให้แฟนคนต่อไปต้องรอผมอีกแล้ว”

เวลาเดียวกันสมบัติก็โทร.บอกกันต์ว่าข้อเสนอของเขานั้นตนคิดและมีคำตอบแล้ว ถ้าเขามีเวลาก็อยากคุยเรื่องหุ้นบริษัทจะได้จัดการให้จบๆ เคลียร์กันให้เรียบร้อย กันต์ดีใจมากนัดเจอกันที่บริษัทเลย

พุฒิเมธส่งดนุดลยังไม่ทันออกพ้นบ้านก็ได้รับโทรศัพท์จากศรันย์ว่าสมบัติกำลังมาหากันต์ที่ออฟฟิศ กันต์เตรียมเอกสารขายหุ้นไว้ด้วย เร่งอย่างร้อนใจว่า “ตอนนี้มีแกคนเดียวที่พอจะห้ามพ่อได้ รีบมานะ”

ooooooo

สมบัติไปถึงออฟฟิศของณฤทธิ์เจอกันต์รออยู่แล้วพลางยื่นเอกสารให้บอกว่าเป็นรายละเอียดทั้งหมดของบริษัทที่คุณพ่ออยากได้พร้อมทั้งเอกสารขายหุ้น

เวลาผ่านไปท่ามกลางความร้อนใจของศรันย์ โหน่ง และเอ ที่รอพุฒิเมธความหวังเดียวที่จะยับยั้งการขายหุ้นบริษัทได้ พอเห็นเขามาและจะเข้าไปห้องรับรองที่กันต์กับสมบัติคุยกันอยู่ก็เจอสมบัติเดินออกมาพอดี ทุกคนใจหายสิ้นหวังนึกว่าสมบัติขายหุ้นแล้ว

“ทุกคนคงเข้าใจผิดแล้วล่ะ ที่มาวันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะขายหุ้น...แค่อยากจะรู้รายละเอียดบริษัทนี้เฉยๆ”

ความจริงในการเจรจากับกันต์คือ สมบัติอยากรู้รายละเอียดของบริษัทเพื่อที่จะได้มาบริหารงานต่อ

“จะไม่มีการขายหุ้นบริษัทให้ใคร ต่อไปนี้ฉันจะมาดูแลบริษัทนี้แทนมาร์ค และขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลบริษัทนี้ไปกับฉันด้วย”

ฟังคำยืนยันจากสมบัติแล้วทุกคนเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ศรันย์ดีใจจนเผลอกระโดดกอดสมบัติพอรู้สึกตัวก็รีบขอโทษ หันมองทุกคนที่ยิ้มแย้มดีใจก็ยิ้มกันไปมาอย่างมีความสุข

สมบัติมองไปรอบๆ เอ่ยกับทุกคนที่ยืนห้อมล้อมอยู่ว่า

“นี่เป็นสิ่งสุดท้ายและสิ่งเดียวที่มาร์คทิ้งไว้ให้ พ่ออยากจะรักษามันไว้...ตอนมีชีวิต มาร์คพยายามทำทุกทางเพื่อสร้างบริษัทนี้ มันเป็นความฝันสูงสุดของมาร์ค พ่อเลยอยากจะสานฝันสุดท้ายของมาร์คให้สำเร็จ ที่สำคัญพ่ออยากรู้อยากเข้าใจว่าทำไมมาร์คถึงทุ่มเททั้งชีวิตให้บริษัทนี้ เมธช่วยพ่อดูแลบริษัทของมาร์คด้วยนะ”

“ครับพ่อ ผมและทุกคนในบริษัทจะช่วยพ่อดูแลบริษัทของเฮียเองครับ” พุฒิเมธรับปากแทนทุกคน

สมบัติขอบคุณพุฒิเมธ วิญญาณณฤทธิ์เอ่ยขอบคุณพ่อและเมธอย่างซึ้งใจ

เพราะดนุดลเพิ่งฟื้นจากการบาดเจ็บทั้งกายและใจ ศรันย์จึงฝากบุญสิตาให้ช่วยดูแลเป็นพิเศษ เมื่อมีข่าวดีของบริษัทก็รีบไปบอก ให้กำลังใจว่า

“พี่มาร์คเคยบอกว่าดลเป็นเด็กที่มีของ ให้หาตัวเองให้เจอไวๆและใช้ความสามารถที่มี สักวันความฝัน ดลก็จะเป็นจริง...พี่มาร์คเชื่อในศักยภาพของดลถึงได้เลือกดลมา ถึงเวลาแล้วที่ดลจะต้องสู้ และพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็น พี่มาร์คกำลังดูดลอยู่นะ”

“ผมจะไม่ทำให้พี่มาร์คผิดหวังครับ” ดนุดลพูดเหมือนสาบานจากใจ

“งั้นก็รีบไปแต่งตัวไปฉลองกัน ทุกคนกำลังรอดลอยู่ที่ร้านแล้ว” เมื่อไปถึงร้านอาหารประจำ เธอบอกดนุดลว่า “วันนี้พี่รันเขาฉลองให้ดลโดยเฉพาะเลยนะ”

จัสตินบอกว่าฉลองให้บริษัทด้วย ศรันย์สมน้ำหน้ากันต์เยาะว่าคิดจะมาเอาบริษัทของมาร์คไปหรือฝัน

ไปเถอะ แล้วชวนทุกคนชนแก้วกัน ศรันย์ได้รับโทรศัพท์ดูหน้าจอแล้วตกใจนึกขึ้นได้ว่าลืมชวนเมธ ถามว่าตอนนี้อยู่ไหน รีบมาเลย พวกเรากำลังฉลองกัน

ooooooo

ชั่วโมงต้องมนต์

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด