ตอนที่ 5
วันนี้ ศรันย์ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เตรียมชุดให้ดนุดลออกโชว์ตัว พอแต่งตัวเสร็จโหน่งก็เข้ามาบอกว่างานวันนี้โดนเทอีกแล้ว ดนุดลหน้าเสียบ่นว่าโดนยกเลิกงาน ไม่มีงานมาเป็นอาทิตย์แล้ว
โหน่งปลอบว่าไม่เป็นไรยังมีงานอื่น ศรันย์ให้กำลังใจว่าจะได้มีเวลาฟิตร่างกายให้พร้อมรับงานที่ใหญ่กว่า ถือโอกาสไปโมหน้าด้วยเลย ดนุดลทำเข้มแข็งบอกว่าตนโอเคจะได้ไปเที่ยวกับแฟนบ้าง แต่ที่แท้เจ็บปวดและทุ่มเทเวลาไปออกกำลังกายที่ห้อง วิ่งๆๆจนเหงื่อท่วมหน้า แต่ที่แท้บนใบหน้าเขามีทั้งเหงื่อและน้ำตา
บุญสิตาทำความสะอาดอยู่แถวนั้น แอบมองดนุดลด้วยความสงสารและเห็นใจ
ในภาวะที่บริษัทจะอยู่หรือขายนี้ ดารานางแบบหลายคนก็คิดจะย้ายสังกัด แต่ดนุดลมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะอยู่กับบริษัทเพราะมาร์คเป็นคนปั้นตนขึ้นมา ถึงตนอยากจะได้งานแต่จะไม่ยอมโดนใครว่าอกตัญญูเด็ดขาด
เวลาเดียวกันนั้น กันต์ก็กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า
“ตอนนี้ผมโทร.ไปยกเลิกสัญญากับที่เกาหลีเรียบร้อย...นี่ผมยอมถอนตัวเพื่อบริษัทคุณเลยนะ...คุณเตรียมติดต่อไปที่เกาหลีได้เลย...แล้วยังไงผมจะติดต่อกลับไป”
พอวางสายกันต์ก็ตามโหน่งเข้ามาสั่งงาน พักใหญ่ โหน่งก็ประกาศแก่ทุกคนว่าพรุ่งนี้กันต์จะพาทุกคนในออฟฟิศไปเลี้ยงข้าว เห็นว่ามีเรื่องสำคัญจะประกาศทุกคน ต่างคาดเดาไปต่างๆนานาว่าจะเป็นเรื่องอะไร
ณฤทธิ์คุยกับบุญสิตาสงสัยว่ากันต์มีแผนอะไร ตนต้องรีบหาทางเข้าร่างเธอเพื่อไปงานพรุ่งนี้ เผื่อกันต์คิดทำอะไรชั่วๆ ตนจะได้ขวางทัน บุญสิตาติงว่าชั่วโมงต้องมนต์สี่ชั่วโมงของเขาหมดไปแล้ว ให้รีบหาเป้าหมายใหม่ แค่ช่วยคนที่ไม่อยากอยู่บนโลกก็เข้าร่างได้แล้วไม่ใช่หรือ
“แล้วฉันจะไปหาคนที่มีความทุกข์จากที่ไหนล่ะ” ณฤทธิ์หนักใจ
บุญสิตาจึงพาไปหาแนนซี่ซึ่งคงได้ฟังคนที่มีความทุกข์กระทั่งอยากตายมากมาย แต่พอปรึกษาแนนซี่ ที่ยึดมั่นซื่อสัตย์ต่อจรรยาบรรณวิชาชีพก็ปฏิเสธบอกว่านั่นเป็นความลับของลูกค้า ณฤทธิ์มืดแปดด้านเลยถาม เธอสองคนไม่อยากตายบ้างหรือ สองสาวทำหน้าสยองตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่! ไม่!!
ooooooo
รุ่งขึ้นกันต์จัดเลี้ยงที่ร้านอาหารในโรงแรม ทุกคน ที่เข้าประชุมต่างคาดเดากันไปต่างๆนานาว่ากันต์จะประกาศอะไร พอกันต์มา ทุกคนบอกกันอย่างตื่นเต้นว่าพี่กันต์มาแล้วและต่างเงียบกริบคอยฟัง
“ทุกคนฟังทางนี้...” กันต์ประกาศด้วยมาดผู้บริหารว่า หลังจากเสียมาร์คไป อะไรๆในบริษัทก็เปลี่ยนไป งานก็ลด พูดอย่างปรารถนาดีว่า “ในฐานะที่ผมเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทและถ้าบริษัทเรายังไม่มีอะไรดีขึ้น ผมอาจจะขายหุ้นบริษัทเร็วๆนี้” เห็นทุกคนตกใจก็พูดดักว่า “ผมเองก็ไม่อยากปิดทุกคน เพื่อปิดกั้นโอกาสหรอกนะ เมธเองก็คงไม่อยากปิดพนักงานเหมือนกันใช่ไหมว่าสถานการณ์บริษัทเราเป็นยังไง”
พุฒิเมธไม่พอใจจะค้านแต่พอนึกถึงคำพูดของสมบัติที่ว่า “จะเก็บเรื่องราวของมาร์คไว้ในความทรงจำและจะทิ้งทุกอย่างของมาร์ค” ก็เปลี่ยนใจไม่พูด เจนนี่กับศรันย์กระซิบถามว่าเขาดูแลบริษัทแทนคุณพ่ออยู่ไม่ใช่หรือ ปล่อยเขาพร่ำอยู่ได้ยังไง พุฒิเมธตอบว่า
“เขาก็พูดถูก และถ้ามันเป็นความต้องการของคนที่ถือหุ้น เราจะไปทำอะไรได้”
เมื่อพูดจบกันต์บอกว่าที่เรียกมาวันนี้ก็เพื่อจะบอกให้ทุกคนเตรียมใจหางานเอาไว้เนิ่นๆ เพราะถ้าเกิดสถานการณ์ที่ว่า พวกเขาจะได้มีทางออกกัน วิญญาณ ณฤทธิ์ฟังอยู่ตลอดเวลา แต่เขานิ่งไม่โวยวายจนบุญสิตาแปลกใจ แล้วจู่ๆเขาก็ออกจากห้องประชุมไปเลย บุญสิตา ตามไปถามว่าจะยอมเขาง่ายๆอย่างนี้หรือ อยากจะค้านอะไรไหม ให้ตนพูดแทนก็ได้
“ไม่ต้องหรอก บางทีกันต์อาจจะทำถูกแล้วก็ได้ ฉันพยายามรั้งบริษัทไว้โดยที่ไม่คิดถึงเด็กๆ ปากท้องของพนักงานในบริษัทเลย ทุกคนมีภาระ มีค่าใช้จ่าย ฉันเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตัวเอง ทั้งที่ฉันไม่มีแม้แต่ร่างจะไปช่วยทำอะไรได้เลย...ถึงเวลาแล้ว ที่ฉันต้องยอมรับความจริงว่าบริษัทไม่มีฉันแล้ว อะไรมันก็เปลี่ยนไป”
“คุณมาร์ค...แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป”
“ตอนนี้ก็คงแล้วแต่ทุกคน ใครสมัครใจจะอยู่ จะไป ก็แล้วแต่เถอะ...ฉันขออยู่คนเดียวสักพักนะ”
พูดจบณฤทธิ์ก็หายตัวไปเลย บุญสิตาได้แต่เห็นใจและสงสารเขามาก
ooooooo
ดนุดลตามออกมาต่อว่ากันต์ว่าปิดบริษัทอย่างนี้โปรเจกต์ของตนจะว่ายังไง กันต์บอกว่าก็ต้องยกเลิกทั้งหมด ดนุดลผิดหวังโวยวาย กันต์บอกว่าเอาเวลาที่โวยวายนี้ไปหางานใหม่ดีกว่า
ระหว่างนั้น แพตตี้คนรักของดนุดลโทร.มา เขาดีใจมากบอกว่าตนกำลังอยากเจอมีหลายเรื่องอยากเล่าให้ฟัง แต่ที่แท้แพตตี้โทร.มาเพื่อจะบอกเลิกเขาเพราะยามที่เธอต้องการเขา เขากลับไม่มีเวลาให้เพราะมุ่งมั่นแต่จะเป็นซุปตาร์ เวลานี้ตนมีคนที่มีเวลาให้แล้วจึงมาบอกเลิก
ดนุดลเสียใจมาก เสียทั้งงานเสียทั้งคนรัก หมดหวังในชีวิตจนคิดว่าตัวเองไร้ค่าจะฆ่าตัวตาย
ฝ่ายกันต์เมื่อประกาศขายบริษัทกับพนักงานแล้วก็ไปหาซาร่าที่แอบคบกันอยู่ ซาร่าคาดว่าดนุดลคงเสียใจกว่าเพื่อน กันต์บอกว่าอย่างน้อยก็ทำให้พนักงานเสียขวัญ แต่แปลกที่เมธไม่โวยวายอะไรตนเลย
ซาร่ากลัวว่ากันต์ขายบริษัทแล้วตนจะตกงาน กันต์หอมแก้มเธอถามว่า
“จะกลัวอะไร คุณเป็นเมียผมก็ต้องได้ส่วนแบ่งอยู่แล้ว”
ณฤทธิ์รู้ความจริงถึงกับอึ้ง พึมพำแค้น “ทำไมแกถึงเลวขนาดนี้ คอยดู ฉันจะแก้แค้นแก ไอ้ชั่ว!”
ฝ่ายดนุดลหมดหวังในชีวิตขึ้นไปที่ดาดฟ้าโรงแรมหมายฆ่าตัวตาย ณฤทธิ์ตามขึ้นไปปลอบแต่ช่วยอะไรไม่ได้จึงลงมาบอกบุญสิตาให้ไปช่วยดนุดลที่กำลังจะฆ่าตัวตาย ทั้งบุญสิตา พุฒิเมธ เจนนี่และจัสตินต่างพากันวิ่งขึ้นไปที่ดาดฟ้าเพื่อช่วยดนุดล
บุญสิตาพยายามหว่านล้อมดนุดลให้คิดถึงคนที่ตัวเองรักและรักเขา เล่าบทเรียนของตัวเองให้ฟัง ทั้งเรื่องถูกคนรักทิ้งและชีวิตที่ถูกแม่เลี้ยงกับลูกสับโขกจิกหัวใจตลอดมา ดนุดลฟังแล้วสงบลงบ้าง บอกเขาว่า
“ลงมาเถอะดล ความตายมันน่ากลัวกว่าที่ดลคิดนะ ดลตายไป ดลจะไม่ได้อยู่กับคนที่รักอีกเลยนะ ดลจะไม่สามารถทำอะไรหลายๆอย่างได้อีกแล้วนะ...คิดถึงพ่อแม่ที่กำลังรออยู่ที่บ้าน คิดถึงแฟนคลับดลสิ กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงมาจนโต กว่าดลจะดังขนาดนี้ มันใช้เวลาขนาดไหน ไม่เสียดายหรือ”
ดนุดลฟังแล้วร้องไห้ “พ่อ...แม่...เอฟซีวีไอพีของผม” เมื่อบุญสิตาเห็นดนุดลเริ่มใจอ่อนก็เรียกให้กลับเข้ามาเถอะ พลางทำเนียนออกไปดึงมือดนุดลเข้ามา แต่โดยไม่คาดคิดดนุดลเสียการทรงตัวกำลังจะร่วงลงไป
บุญสิตาคว้าไว้ พุฒิเมธเข้ามาช่วยดึงดนุดลเข้ามาได้ ดนุดลกลัวตายร้อง “ผมยังไม่อยากตาย”
นาทีที่ดนุดลรักชีวิตไม่อยากตายนั้น วิญญาณณฤทธิ์ก็หลุดจากร่างบุญสิตาทันที
“ถ้าคนที่ฉันกำลังช่วยเหลือพ้นขีดอันตรายหายจากการซึมเศร้า รักชีวิต อยากมีชีวิต ฉันจะไม่สามารถ เข้าร่างได้เหรอ” ณฤทธิ์ฉุกคิดแต่วิญญาณเขาออกจากร่างบุญสิตาไปแล้ว ทำให้บุญสิตาโงนเงนจะตกตึก
พุฒิเมธคว้าร่างบุญสิตาไว้ทันแต่ทำให้ทั้งสองตกตึกไปพร้อมกัน
ดนุดล ศรันย์ จัสตินหันไปมองสองร่างที่ร่วงดิ่งลงจากตึก ทุกคนช็อก!
ooooooo
แต่ที่แท้ทั้งสองตกลงมาที่ถุงลมของหน่วยกู้ภัยรองรับอยู่ เมื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลทั้งสองจึงปลอดภัย แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ที่พุฒิเมธช่วยชีวิตบุญสิตาไว้ทำให้มีความรู้สึกดี และเมื่อสบตากันก็เกิดอาการเขิน
จัสตินกับดนุดลไปเยี่ยมพุฒิเมธกับบุญสิตาที่โรงพยาบาล ดนุดลร้องไห้เสียใจที่ตนเป็นต้นเหตุ นอกจากตัวเองจะกลัวตายขึ้นมาแล้วยังกลัวพุฒิเมธกับบุญสิตาจะตายด้วย
“ไม่ต้องร้อง ทุกคนปลอดภัยแล้ว” เมื่อพุฒิเมธขับรถไปส่งดนุดลที่หน้าบ้าน เขาบอกว่ามีอะไรให้โทร.หาตน อย่าเครียด บุญสิตาก็บอกอย่าคิดมาก จัสตินบอกว่าถ้าเดือดร้อนเรื่องเงินตนช่วยได้นะ
ศรันย์บอกพุฒิเมธว่าไม่ต้องห่วง พวกตนจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าดนุดลจะหลับ จัสตินก็บอกให้เขาไปส่งซินเถอะ แต่พอพุฒิเมธกับซินไปแล้ว ศรันย์ถามจัสตินงงๆว่า
“ยัยซินมันรู้เรื่องของพวกเราได้ยังไง”
ทั้งสองคิดถึงที่บุญสิตาหว่านล้อมดนุดลโดยยกตัวอย่างว่า “อย่างจัสติน มีคนรัก แต่ก็มีพวกแอนตี้แฟนตามมา จะทำอะไรก็ทำไม่ได้ ไม่มีชีวิตส่วนตัวแถมยังมีความลับบางอย่างที่ต้องปกปิดกับมวลมหาประชาชนอีก”
ศรันย์ จัสตินสงสัยว่า “นางรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นพญานกฟินิกซ์”
“ใช่ มันรู้ความลับของฉันด้วยนะแก” จัสตินหลุด พอเห็นดนุดลมองอยู่ก็แอ๊บแมนทันที
ระหว่างนั่งรถไปด้วยกัน พุฒิเมธถามบุญสิตาว่าเธอคงรักแฟนเก่ามากสินะ
“ตอนนั้นก็รักนะคะ แต่ตอนนี้ฉันลืมไปหมดแล้ว ล่ะค่ะ”
“ผู้ชายเลวๆแบบนั้น ดีแล้วล่ะที่ออกไปจากชีวิตคุณ”
“แล้วทำไมอยู่ๆถึงถามเรื่องนี้คะ เดี๋ยวนะ ทำไมทุกคนพูดกับฉันแปลกๆ ดูเหมือนสงสารฉัน เห็นใจฉัน... เกิดอะไรขึ้นคะ”
“นี่จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” พุฒิเมธมองหน้าแปลกใจ
ooooooo
กลับถึงห้องกลางดึก พอบุญสิตาเปิดประตูเข้าไปก็ตะโกนหาณฤทธิ์
“ไม่ต้องหลบเลย ออกมาซะดีๆ ฉันรู้ว่าคุณซ่อนอยู่...
ทำผิดก็ต้องยอมรับสิ ออกมาสารภาพความผิดซะดีๆ” ภายในห้องเงียบกริบ “ฉันให้คุณยืมร่าง แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คุณเอาชีวิตฉันไปตีแผ่ในที่สาธารณะแบบนี้ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
“ฉันขอโทษ” ณฤทธิ์ค่อยๆปรากฏตัวอย่างรู้สึกผิด
“ที่สำคัญคุณทำผิดกฎข้อแรก ห้ามทำให้ร่างกายฉันได้รับอันตรายหรือเกิดการสูญเสียไม่ว่าจะด้วยกรณีใดๆทั้งสิ้น”
ณฤทธิ์แก้ตัวว่าวันนี้เป็นเหตุสุดวิสัย ตนทำไปเพราะอยากช่วยดนุดล เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินกฎใดๆไม่สามารถบังคับใช้ได้ ที่สำคัญเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย บุญสิตาบอกว่าตนก็เกือบตาย เขาไม่ควรออกจากร่างตนในสภาพเสี่ยงๆแบบนี้
“ฉันก็ไม่ได้อยากออกซะหน่อย แต่ตอนนั้นดลคงคิดได้ ฉันก็เลยหลุดออกมาเอง ตอนนั้นฉันเองก็เสียใจ ตกใจไม่แพ้เธอหรอก กลัวเธอจะเป็นอะไร”
บุญสิตาบอกว่าตนไม่เป็นไรและเข้าใจ ณฤทธิ์ยิ้มโล่งใจ อ้อนว่าดีกันแล้วนะ อดหยอกไม่ได้ว่า นึกว่าจะได้เธอมาอยู่เป็นเพื่อนซะแล้ว โดนตวัดตามองขวับก็รีบเปลี่ยนเรื่องถามว่า ดลเป็นยังไงบ้าง
“ร่างกายโอเค แต่จิตใจไม่น่าจะโอเท่าไหร่”ณฤทธิ์พูดอย่างเข้าใจและเห็นใจว่า งานนี้เป็นความฝันของดล เขาคงผิดหวังมากจริงๆ “ดลยังดีที่มีความฝัน ฉันสิ ตั้งแต่เกิดมาจนตอนนี้ฉันยังไม่มีความฝัน ไม่มีเป้าหมายอะไรเลย”
ณฤทธิ์บอกว่าเธออาจจะมีแต่ไม่รู้ตัวก็ได้ บุญสิตาสนใจถามว่าจริงหรือ?
“ตอนนี้เธอยังนึกไม่ออกไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะหาความฝันให้เธอเอง เธอต้องหัดฝัน ทำในสิ่งที่เธอชอบ เธอจะได้มีเป้าหมายในชีวิต ไม่ใช่ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อยทำเพื่อคนอื่น ให้คนอื่นเขาโขกสับแบบนี้ เข้าใจไหม”










