แม้พรรคก้าวไกลจะชนะการเลือกตั้ง ได้ สส.มากที่สุด แต่ต้องกลายเป็นฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพราะแพ้เกมการเมือง แต่ก็ยังขยันเสนอร่างกฎหมายเข้าสภา ด้วยความมุ่งมั่นจะเป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ ทั้งๆที่เป็นเสียงข้างน้อย โอกาสที่ร่าง พ.ร.บ.จะผ่านแทบจะไม่มี แต่อย่างน้อยก็เป็นข่าวพรรคก้าวไกลเสนอทั้งร่างกฎหมาย เกี่ยวกับการเปลี่ยนประเทศปฏิรูประบบภาษี ปฏิรูปที่ดิน เรื่องที่เป็นข่าวใหญ่ คือร่าง พ.ร.บ.แก่ผู้กระทำผิด อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งเป็นวันที่เริ่มมีการชุมนุมทางการเมือง และนำมาสู่รัฐประหาร 19 กันยายนนอกจากพรรคก้าวไกล ยังมีกลุ่มประชาชน เช่นโครงการอินเตอร์เน็ต เพื่อกฎหมายประชาชน หรือ “ไอลอว์” เสนอ “ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน” มาประกบ และพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล ก็อาจเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมด้วย มิฉะนั้นจะเสียชื่อพรรคแกนนำของรัฐบาลประชาธิปไตยร่างของพรรคก้าวไกลกับไอลอว์ มีทั้งที่ต่างกันและเหมือนกัน ที่ต่างกันคือ ร่างของไอลอว์ ไม่มีคณะกรรมการเป็นผู้ชี้ขาด จะนิรโทษกรรมให้คดีใดบ้าง แต่ระบุว่า เป็นคดีเกี่ยวกับคำสั่งของ คสช.คดีที่ขึ้นศาลทหาร คดี ม.112 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนที่เหมือนกันคือ นิรโทษคดี ม.112 และไม่ยอมยกโทษให้คดี ม.113เป้าหมายสำคัญของการให้นิรโทษแก่ผู้ที่ทำความผิดทางการเมือง อันสืบเนื่องมาจากการชุมนุม หรือความขัดแย้ง คือการยกโทษให้ ไม่ถือว่าเคยกระทำผิด เพื่อสร้างความปรองดอง ให้เลิกแล้วต่อกันไป แต่นิรโทษกรรมเป็นดาบสองคม ถ้าไม่ถูกต้องตามกาลเทศะ หรือไม่ชอบด้วยนิติธรรม อาจกลายเป็นผลร้ายดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อปี 2556 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เรียกว่า “ฉบับสุดซอย” หรือ “เหมาเข่ง” ถูกโจมตีว่า มีเป้าหมาย เพื่อล้างความผิดให้อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกศาลพิพากษา “ทุจริต” หลายคดี ให้เดินทางกลับประเทศอย่างสง่างามแต่กลับนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงยิ่งขึ้น จนนำมาสู่รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ทำให้สังคมขัดแย้งนับสิบปี คราวนี้ก็ต้องกระทำด้วยความรอบคอบ เพราะบางกลุ่มคัดค้านการนิรโทษ ให้ผู้ทำผิด ม.112 อ้างว่าล้มล้างการปกครอง แต่บางกลุ่มคัดค้านนิรโทษให้ผู้ทำผิด ม.113 ผู้ฉีกรัฐธรรมนูญและล้มรัฐบาลตัวจริง.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม