พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล

ขนาดมหาธีร์ โมฮัมหมัด ในวัย 92 ปี ยังชนะเลือกตั้ง กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้อีกครั้ง แล้ว “เสนาะ เทียนทอง” เจ้าพ่อวังน้ำเย็น อายุ 84 ปี จะทิ้งทวนปั้นนายกฯเมืองไทยอีกสักคน

ไม่ได้เชียวหรือ? ไหนๆก็ปั้นนายกฯมาหลายคนแล้ว ทั้ง พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นายบรรหาร ศิลปอาชา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายทักษิณ ชินวัตร จนใครต่อใครพากันแซวว่าถ้าป๋าเหนาะชูมือใคร คนนั้นก็จะได้เป็นนายกฯ

นี่ถ้าไม่ใช่ สมเด็จ ฮุน เซน นายกฯกัมพูชา ติดภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯไทย ก็คงไม่ยกเลิกกำหนดการไปเปิดด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ในวันศุกร์ที่ 18 พ.ค. ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่าป๋าเหนาะจะเกณฑ์ชาวบ้าน 5 หมื่นคนมาต้อนรับ (เหมือนเกทับขาใหญ่บุรีรัมย์ที่ระดมมา 3 หมื่นคน)

ผมเลยอดลุ้นดูฉากป๋าเหนาะชูมือบิ๊กตู่ หลังจากเพิ่งผิดหวังมาหมาดๆ ที่ไม่ได้เห็นซีนเนวินโผกอดเอวลุงตู่

จะว่าไปเรื่องดูด ส.ส.ถือเป็นปกติของการเมืองไทย มีมาทุกยุคสมัย แต่ละพรรคต้องจัดทัพเตรียมลงสนามเลือกตั้ง ยิ่งเป็น พรรคทหารที่ไม่มีต้นทุน ส.ส.ในมือ ก็ยิ่งต้องดูดมาจากพรรคอื่น

เพียงแต่มันน่าเกลียดตรงที่บิ๊กตู่เป็นผู้นำรัฐประหาร อ้างว่าจะมาปฏิรูปการเมืองใหม่ ขายฝันวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เคยด่าเคยดูถูกนักการเมืองสารพัด แต่แล้ววันนี้บิ๊กตู่ก็กลืนน้ำลายตัวเอง ทำการเมืองแบบเดิมๆ ใช้ยุทธศาสตร์เลือกตั้งแบบเก่า แถมกลุ่มก๊วนการเมืองที่ไปดูดมา ชาวบ้านร้องยี้ทั้งนั้น ถามหาผลงานที่ทำคุณประโยชน์ให้แผ่นดินก็คงไม่มีใครนึกออก

ไม่รู้บิ๊กตู่ปฏิรูปอีท่าไหนถึงได้กลายเป็นแบบนี้ หนำซ้ำยังพูดออดอ้อนว่าทำงานเหนื่อยแต่กลับได้เงินเดือนน้อยกว่าผู้นำคนอื่นในอาเซียน ทั้งๆที่นายกฯไทยได้เงินเดือน 125,590 บาท อยู่อันดับ 5 ของอาเซียน โดยมีนายกฯสิงคโปร์เงินเดือนสูงสุด ประมาณ 5.8 ล้านบาท ตามด้วยประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ 244,000 บาท นายกฯมาเลเซีย 184,000 บาท และอันดับ 4 ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย 143,000 บาท

...

แต่ถ้าเอา เงินเดือนของหัวหน้า คสช. ซึ่งเท่ากับของนายกฯเข้าไปคิดรวมด้วย บิ๊กตู่จะมีเงินเดือน 251,180 บาท กลายเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนทันที ผมไม่มีเกณฑ์อะไรมาชี้วัดว่าท่านทำงานคุ้มค่าเงินเดือนหรือเปล่า แต่อยากขอว่าเวลาจะพูดอะไรควรตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน

พูดถึงอาการปากไวแล้วทำให้นึกถึง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล พอเกิดเหตุการณ์หรือมีประเด็นทางการเมืองทีไร โฆษกไก่อูจะมีความฉับไวอย่างมากในการโยนบาปใส่นักการเมือง ด้วยความสามารถพิเศษด้านนี้ บวกกับเป็นหน่วยหน้าที่ออกมารับแรงปะทะแทนบิ๊กตู่ ก็เลยได้รับปูนบำเหน็จให้เป็น รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งก็คงไม่ได้เสียสละทำงานให้ฟรีๆหรอก รับเงินเดือนสองทางเหมือนกัน

มีเรื่องงานของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ผมอยากท้วงติงไว้ตรงนี้คือ กรณีที่มีการเสนอเรื่องให้ คสช.พิจารณาออกคำสั่งเปิดทางให้โทรทัศน์ช่องเอ็นบีที หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่าช่อง 11 มีโฆษณาได้ ก็หวังว่าหัวหน้า คสช.จะพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่าผลีผลามอนุมัติเพื่อตกรางวัลให้ใครเป็นอันขาด แทนที่จะปฏิรูปช่อง 11 เดี๋ยวจะยิ่งเละไปใหญ่

บทบาทหน้าที่ของกรมประชาสัมพันธ์คือ การเสนอข่าวสารของรัฐบาลไปสู่ประชาชน เนื้อหาสาระที่เสนอออกไปต้อง แม่นยำ และเชื่อถือได้ เพราะเป็นข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ การที่ช่อง 11 ไม่มีโฆษณาทำให้รัฐบาลสามารถ กำหนดทิศทางและเนื้อหาได้โดยไม่ผิดเพี้ยน แต่ถ้าเปิดให้มีโฆษณาเมื่อไหร่ ก็จะถูกเอกชนแทรกแซงรายการได้ และอาจมี เรื่องผลประโยชน์ เข้ามาเกี่ยวข้อง

พล.ท.สรรเสริญนั่งรักษาการมาแล้ว 1 ปีครึ่ง หากยังไม่เข้าใจบริบทตรงนี้ก็ควรพิจารณาตัวเองซะเถอะ กรมประชาสัมพันธ์ยังมีลูกหม้ออีกหลายคนที่เหมาะสมจะขึ้นมาเป็นอธิบดี และสามารถบริหารช่อง 11 ให้ดีได้โดยไม่ต้องง้อโฆษณาจากเอกชน.

ลมกรด