ประทับตราให้การรับรองเป็นที่เรียบร้อย

ตามฉากล่าสุดที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติเห็นชอบ พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามที่ ครม.เสนอมา

แต่ใช้มาตรา 44 ผ่อนผันบทลงโทษปรับนายจ้าง 400,000-800,000 บาท หากไม่ นำแรงงานต่างด้าวไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายออกไปอีก 6 เดือน

บรรเทาความโกลาหล กรณีแรงงานต่างด้าวนับหมื่นคนแห่หนีกลับประเทศ เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตการทำงาน

ปมร้อนที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ต้องรีบเคลียร์ช็อตเสียวไส้ ก่อนลุกลามไปเขย่าภาวะเศรษฐกิจสั่นคลอน

อุ้มภาคธุรกิจไม่ให้หงายท้องจากการออกกฎหมายโดยไม่ผ่านการพิจารณาจากสภาให้รอบคอบ

ท็อปบูตยังเสียรูปมวยต่อเนื่อง ต้องคอยกลับลำแก้กฎหมายที่ออกไปแล้ว

ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในสังคมอยู่เป็นระยะๆ

ซ้ำรอยการห้ามนั่งท้ายรถกระบะช่วงก่อนสงกรานต์

โดยเฉพาะกรณีล่าสุดเรื่อง พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ที่ยังไม่รู้ว่า จะมีช็อตต้องตามแก้ไขอีกกี่จุด หลังจากมีเสียงท้วงติงหนาหูจากภาคธุรกิจ นักวิชาการ แม้กระทั่งคนในแม่น้ำร่วมสายอย่าง สนช.

กระทุ้งให้ทบทวนแก้ไขกติกาหลายเรื่อง อาทิ กรณีบทลงโทษที่รุนแรงเกินเหตุ และขั้นตอนขอใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวที่มีความยุ่งยาก ซับซ้อนหลายขั้นตอน

ส่อเค้าต้องปรับจูนแก้อีกหลายจุด ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน

สะท้อนอาการโลเลในการทำงานที่กลับไปกลับมาได้ตลอด

ในภาวการณ์ที่รัฐบาลยังต้องเผชิญแรงเสียดทานอีกหลายด่านในช่วงรอยต่อสู่โรดแม็ปเลือกตั้งปลายปี 2561 ที่ยังมีด่านอันตรายรอให้ “ปลดล็อก” อีกเพียบ

...

แต่ละเรื่องล้วนเป็นเดิมพันสำคัญรัฐบาล ทั้งการปฏิรูปตำรวจที่ดึง “บิ๊กสร้าง” พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ สังคายนาวงการผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

ยังต้องลุ้นกันยาวๆ จะเจอลูกฮึดจากฝั่งสีกากีตอบโต้ที่ถูกพลังสีเขียวข้ามห้วยมาควบคุมการปฏิรูปตำรวจหรือไม่

หรือกรณีปัญหาร่างกฎหมายลูกที่ยังฝุ่นตลบ เปิดศึกงัดข้อมั่วกันไปหมดระหว่าง สนช. กรธ. และ กกต.

อย่างที่เห็นๆ ปม ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ส่อเค้าปะทุหนัก กกต.แบไต๋เตรียมอาวุธลับยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ

ดิ้นสู้ทุกวิถีทาง ไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างให้ถูก “เซ็ตซีโร่” ง่ายๆ

และยังตั้งท่าแฉลบไปเอาคืน สนช. จ่อตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน 90 สนช. ถือครองหุ้นสัมปทานรัฐโดยมิชอบ แก้เผ็ดที่เมินเสียงทักท้วงประเด็นเซ็ตซีโร่

พร้อมดับเครื่องชนเครือข่ายแม่น้ำ 5 สาย แนวโน้มวุ่นวายอีนุงตุงนัง ไม่รู้ได้ข้อยุติเมื่อใด

ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองก็ตั้งเค้าวุ่นวายไม่แพ้กัน ฝั่งกรธ.ยื่นเรื่องให้ตั้ง กมธ.ร่วม ทบทวนเนื้อหาระบบไพรมารีโหวต

ที่เข้าข่ายขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ

สารพัดแรงกระเพื่อมรอปะทุทุกเวลา โรดแม็ปเลือกตั้ง

ยังต้องลุ้นถึงนาทีสุดท้ายว่า จะได้เข้าคูหาหย่อนบัตรหรือไม่

ตามรูปการณ์มีปัญหาให้ผู้นำ คสช.รอเคลียร์อีกเพียบ

ยังไม่นับรวมกรณีจุกจิก “ไอ้พวกช่างฟ้อง” ตามคำนิยามของ “บิ๊กตู่” ที่ยื่นฟ้องดะทั้งศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตีความ พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และ พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ

เจอเหลี่ยมชวนหงุดหงิดของนักเลือกตั้ง สร้างความยุ่งยากให้มีช็อตแก้ไขอยู่ตลอด

ปมอันตรายรุมล้อม สุ่มเสี่ยงถูกเจาะยางได้ทุกโอกาส

ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าวัดตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญและสถานการณ์ปัจจุบัน มันก็ชัดเจนว่า เปิดทางสะดวก ล็อกคำตอบสุดท้ายให้ “ลุงตู่” นั่งเก้าอี้ผู้นำอีกสมัย เหลือแค่การประคองความเชื่อมั่น

ไปให้ถึงด่านเลือกตั้ง

แต่หากยังพลาดท่าออกลูกโฉ่งฉ่าง เสียรังวัดอยู่บ่อยๆ

ก็สะเทือนเครดิตต่อวีซ่ารอบสองได้เช่นกัน.

ทีมข่าวการเมือง