เมื่อวันก่อนผมมีโอกาสได้ไปร่วมงานแถลงข่าวโครงการ “KING POWER THAI POWER พลังคนไทย” ที่ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดขึ้น

หลังจากฟังรายละเอียดต่างๆ ที่ คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ ได้แจกแจงอย่างละเอียดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจแทนบรรดาเยาวชนทั่วประเทศที่ชื่นชอบในการเล่นฟุตบอล

นอกเหนือจากการทำกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมในโครงการ “KING POWER THAI POWER พลังคนไทย” ซึ่งเป็นโครงการใหม่ ประเดิมด้วยการสร้างโรดแม็ปด้านกีฬาฟุตบอล ทุ่มงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท สร้างสนามหญ้าเทียมให้กับ 100 โรงเรียนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และมอบลูกฟุตบอล 1 ล้านลูกให้กับเด็กๆแล้ว

ที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่ของคนไทยภายใต้การนำทัพของท่านประธานใหญ่ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ได้ทำโครงการเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลมามากมาย

อาทิ “ฟ็อกซ์ ฮันท์” (FOX HUNT) ตามล่าจิ้งจอกสายพันธุ์สยาม เป็นโครงการที่มอบทุนการศึกษาให้เยาวชนไทยไปศึกษาและฝึกทักษะด้านฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษถึง 2 ปี, “เลสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอล คลีนิก”, ฟุตบอล “คิงเพาเวอร์ คัพ”, โครงการฮีโร่สานฝันปันรัก เพื่อน้อง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เหล่านี้เป็นต้น

หากไม่ใช่คนที่ชอบกีฬาจริงๆคงไม่ทำถึงขนาดนี้

และผมก็รู้สึกยินดีมากขึ้นไปอีกเมื่อกลุ่ม บริษัท คิง เพาเวอร์ มองการณ์ไกลไปกว่านั้น ด้วยการสร้างเส้นทางให้นักเตะไทยก้าวไปสู่การเป็นนักเตะอาชีพในยุโรปได้ด้วย

อย่างที่ทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เข้าไปบริหารทีม “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ เพียงไม่กี่ปีก็สามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกที่ดีที่สุดของโลกได้สำเร็จ และล่าสุดก็ได้เข้าไปเทกโอเวอร์สโมสรโอเอช ลูเวิน (OH Leuven) สโมสรฟุตบอลในประเทศเบลเยียม

...

ซึ่งการเข้าไปเทกโอเวอร์สโมสรโอเอช ลูเวิน นั้นจะเป็นประตูบานใหญ่ที่เปิดโอกาสให้นักเตะไทยสามารถต่อยอดสู่การเป็นนักเตะอาชีพในลีกใหญ่ของยุโรปได้ (จริง)

ตรงนี้เรื่องธุรกิจก็คงต้องว่ากันไปในเรื่องของธุรกิจ แต่ผมเองต้องขอชื่นชมกลุ่ม คิง เพาเวอร์ มากๆในแง่ของการให้ความสำคัญในเรื่องของกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับเยาวชนของประเทศไทย ประเทศบ้านเกิด

เชื่อเหลือเกินว่าจากนี้โอกาสที่นักเตะไทยจะได้ไปค้าแข้งในทวีปยุโรปไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไป และแน่นอนคงไม่ใช่กะปริด กะปรอยน้อยนิดแบบชนิด 10 ปีจะมีซักคนด้วย

ผมคิดเช่นนั้น....

พาวเวอร์บอมบ์