ขบวนการขนแรงงานเถื่อนข้ามชาติขยายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เพราะคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมากและฝังตัวอยู่นาน จนมีเครือข่ายเข้มแข็ง คุมโซนและแบ่งหน้าที่ทำงานกันเป็นทีม
กลายเป็น “มาเฟียข้ามชาติ”
พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. ได้รับการประสานจาก นายตุน ตุน อู เจ้าหน้าที่สมาคมชาวเนปาล–พม่า หลังญาติเหยื่อชาวพม่าร้องขอความช่วยเหลือว่า นายจอ โท หนุ่มชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองมาหางานทำในไทย แต่ถูกนายหน้ากักขังเรียกค่าไถ่ตัวแลกอิสรภาพ
ทีมสืบสวน บก.ปคม.นำโดย พ.ต.อ.คมกฤช สุขไทย ผกก.1 และ พ.ต.ท.พีรภัทร์ ปรมพุฒิ สว.กก.1 วางแผนล่อติดต่อผู้ต้องหาให้นำเหยื่อออกมาเพื่อแลกกับเงินค่าไถ่
จนจับกุม นายวันดี พรมโฮม ชาวโคราชได้ที่ปากซอยปรีดี พนมยงค์ 6 รับสารภาพมีนายหน้าชาวพม่าติดต่อให้ไปรับนายจอ โท เพื่อไปส่งทำงานที่ซอยสุขุมวิท 71 ตกลงค้าจ้างกัน 8,500 บาท
แต่นายจอ โท แรงงานชาวพม่าอ้างว่า จ่ายเงินทั้งหมดให้กับนายหน้าไปแล้ว...
จึงเกิดความขัดแย้งถูกนายวันดี พรมโฮม จับขังไว้ในบ้านเช่า แล้วขู่บังคับให้ติดต่อญาตินำเงินมาแลกกับอิสรภาพ!
คดีนี้ดูเผินๆเป็นคดีธรรมดา แต่เมื่อขยายผลลงไปลึกๆ สอบถามเหยื่อแรงงานที่หลบหนีเข้าเมืองเดินทางจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เข้ามาทางแนวชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย
พบว่าทำเป็นขบวนการมีนายหน้าแก๊งเป็นชาวพม่า คอยนำทางติดต่อรถให้ไปส่งที่พักตามจังหวัดต่างๆในเขตปริมณฑลคิดค่าหัวคนละ 9,000 บาท
...
จากนั้นส่งแรงงานต่อไปให้อีกทีม ที่มีทั้งคนไทยและพม่ารับไปส่งทำงานตามออเดอร์ หรือบางครั้งเอเย่นต์จะเรียกรถแท็กซี่ให้ไปรับ
ส่วนนายหน้าชาวพม่ารายนี้คือ นายเปรม ไบ่ ตรวจสอบเส้นทางแล้วพบว่า ผันตัวมาจากการเป็นแรงงานหลบหนีเข้าเมืองธรรมดา เคยเป็นลูกค้าของขบวนการขนส่งแรงงานข้ามชาติเหมือนกัน
จนเริ่มมีความชำนาญ รู้เส้นทางเข้าออกเมืองไทยจนมีเพื่อนร่วมแก๊งมากกว่า 10 คน...
บ่งชี้ให้เห็นว่าขบวนการเถื่อนขยายเซลล์แตกหน่อออกเป็นวงกว้าง
หากไม่เร่งกำจัดเซลล์ที่แพร่ขยายพันธุ์ออกไป จะกลายเป็น “โรคระบาดเรื้อรัง” ไปทั่วสังคมไทย...
สหบาท