ก็เข้าใจได้ว่า สื่อกระแสหลักอย่างโทรทัศน์จำเป็นต้องพึ่งพาโซเชียลมีเดียตามสถานการณ์ปัจจุบัน!!

เพราะสื่อสังคมออนไลน์มีขนาดใหญ่โตมาก ทั้งรวดเร็วจนสื่อกระแสหลักตามติดไม่ทัน

แต่ในโซเชียลมีเดียก็มีทั้ง “ดี” และ “เลว” จำแนกแทบไม่หวาดไม่ไหว

กรณี “นายกฯลุงตู่” ตำหนิสื่อโซเชียล ก็มาจากเหตุผลด้านร้ายที่ถูกนำมาขยายความจนเกินจริง ทำร้ายสังคมไทยในขณะนี้!!

และก็ในด้านร้ายของสื่อโซเชียลนี่แหละที่สื่อกระแสหลักนำมาเป็น “จุดขาย” ของตัวเอง

อย่างผลกระทบจากคดีสะเทือนขวัญ “ฆ่าหั่นศพ” ที่จังหวัดขอนแก่น ก็มาจากด้านลบของโซเชียลออนไลน์ แล้วสื่อหลักนำไปเป็นประเด็นขายข่าว

สื่อหลักเสียศูนย์ เพราะตามดมก้นสื่อโซเชียลโดยไม่แยกแยะว่าอะไรถูก อะไรผิด และอะไรที่เกินขอบเขตของการนำเสนอข่าวสาร

หรืออย่างกรณีคลิปความรุนแรงจากกล้องวงจรปิดที่ถูกเพจดังทั้งหลายนำเสนอ ทั้งเหตุยิง-แทง หรือสารพัดอาวุธที่ใช้เข่นฆ่ากันโดยไม่มีการเซ็นเซอร์

สื่อโทรทัศน์ก็หยิบมาขายข่าวอย่างบ้าคลั่ง มีให้เห็นกันทุกวัน...วันละหลายเวลา

เมืองไทยจึงกลายเป็นสังคมรุนแรง แพร่กระจายโดยฟรีทีวี!!

แม้จะพรางภาพหรือเบลอภาพ นั่นก็ไม่ได้ทำให้ดูดีขึ้น นอกจากตอกย้ำให้เห็นว่า สื่อหลักมิได้ใคร่ครวญและพิจารณาให้เกิดความเหมาะสมก่อนนำออกอากาศ??

บางครั้งเสนอคลิปโหดร้ายซ้ำไปมาหลายรอบ จนคนดูต้องส่งข้อความเอสเอ็มเอสไปเตือนทางสถานี

ขอให้หยุดเสนอคลิปดังกล่าว...ก็เคยมีมาแล้ว

ไม่ต่างจากกรณีศึกษา เหตุการณ์ชายคนหนึ่งไลฟ์สดยิงตัวตายผ่านสื่อโซเชียล ก็ยังมีสื่อทีวี (บางช่อง) นำเหตุการณ์สลดใจนี้มาแพร่ภาพออกอากาศ

...

สื่อพยายามเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสาร ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีในโลกประชาธิปไตย

แต่สื่อก็ต้องรักษาจรรยาบรรณ ทั้งหน้าที่และความรับผิดชอบให้สมบูรณ์!!

‘‘แจ๋วริมจอ’’