หลังจากดีเอสไอบุกอายัดรถหรูตามโชว์รูมหลายแห่งในเครือบริษัทนิชคาร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวหาว่าแจ้งราคารถอันเป็นเท็จ ทำให้เสียภาษีต่ำกว่าความเป็นจริง แถมยังตรวจพบรถที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษจอดขายอยู่ที่โชว์รูมบริษัท เอสทีที ออร์โต้คาร์ จำกัด 7 คันจนเป็นข่าวฮือฮา
มุมนึงสำหรับคนที่ไม่มีปัญญาซื้อรถสปอร์ตซุปเปอร์คาร์ หรือรถหรูหราราคาหลายสิบล้านบาทคงไม่กระไร...
แต่ในความเป็นจริง ต้องถือว่ากลุ่มคนที่ซื้อรถจากเครือข่ายเหล่านี้ เป็น “ผู้เสียหาย” เพราะหลายคนซื้อรถมาในราคาตลาด ที่ศูนย์รถ เกรย์มาร์เก็ตหลาย 10 แห่ง นำเข้ามาขายโกยเงินในเมืองไทย
เรียกว่าผู้ซื้อรถไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการจ่ายภาษีมาก...ภาษีน้อย...ของบริษัทผู้นำเข้าเลย
เวลาไปซื้อก็ไปเลือกเอาตามโชว์รูมที่ตกแต่งอย่างหรูหรา โฆษณาขายกันเอิกเกริกเปิดเผย...
ตอนนี้กำลังหวั่นว่ารถที่ซื้อมาจะถูกยึดไปดำเนินคดี เท่ากับเสียเงินฟรี...จ่ายเงินไม่ได้รถ!
วันก่อนที่ดีเอสไอออกแถลงการณ์ 5 ข้อ ตอบโต้ นายภาณุศักดิ์ เดชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” ที่ประกาศจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากดีเอสไอ 50 ล้านบาท
มีส่วนของผู้ที่หลงซื้อรถที่เล่นแร่แปรธาตุเสียภาษีต่ำกว่าความเป็นจริงอยู่ด้วย...“สำหรับผู้บริโภคและผู้เสียหายที่ถูกบุคคล หรือคณะบุคคลหลอกลวงให้ซื้อรถยนต์โดยมิชอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษตระหนักถึงปัญหานี้มาก จึงหารือร่วมกับกรมศุลกากรแล้วเห็นว่า สำหรับผู้เสียหาย หรือเจ้าของ หรือผู้ซึ่งมีสิทธิเรียกร้อง ที่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการทำผิดของผู้นำเข้า จะอนุญาตให้รับรถยนต์ของกลางคืนไปดูแลรักษา หรือใช้ประโยชน์โดยไม่มีประกัน หรือมีประกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 85/1 โดยเร็ว”
...
เห็นแถลงการณ์แล้ว ผู้ซื้อรถจากบริษัทที่ถูกดำเนินคดีคงใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง?
พ.ต.อ.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ยังยืนยันว่า ดีเอสไอ ถือว่าผู้ที่ซื้อรถจากบริษัทเหล่านี้เป็น “เหยื่อ” เช่นกัน กำลังปรึกษาหารือกับกรมศุลกากรอยู่ว่า จะหาวิธียังไงช่วยเหลือผู้ที่หลงเชื่อซื้อรถไป
หลังจากนี้จะทำหนังสือส่งไปให้ผู้ครอบครอง นำรถมาตรวจเลขเครื่องเลขแชสซีก่อน แล้วจะปล่อยให้นำรถกลับไปดูแล ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกยึดรถไว้เลย...
แต่ถ้าเป็นรถที่ขโมยจากประเทศอังกฤษคงช่วยไม่ไหว ต้องตรวจยึดไว้เพื่อส่งคืนประเทศอังกฤษ!
ตอนนี้คงใจชื้นขึ้นมาบ้าง...แต่ต้องลุ้นกันต่อว่า ใครซื้อรถเลี่ยงภาษี ใครซื้อรถขโมย!?!
สหบาท