นานมาแล้ว...ภายในบ้านครอบครัว “เลเมย์” ชานเมืองเมลโรส ตอนเหนือของเมือง บอสตัน รัฐแมสซาชูเสตต์ ในสหรัฐฯ คำพูดซ้ำๆ ที่ได้ยินครั้งแล้วครั้งเล่าจากลูก ซึ่งเริ่มส่งสัญญาณให้เห็นว่าป่วยซึมเศร้าขึ้นทุกวันๆ

“มันผิด หนูไม่ใช่ผู้หญิง หนูเป็นผู้ชาย”

ทั้ง “มิมิ” กับ “โจ” ลาเมย์ สองสามีภรรยาเห็นสมควรแล้วว่า ลูกคนนี้ต้องเปลี่ยนจากชื่อ “มีอา” เป็น “จาค็อบ” อย่างถูกต้องตามกฎหมายเสียทีก็ตอนอายุ 4 ขวบ จากที่มีลูกสาวอีก 2 คน อายุ 8 และ 4 ขวบ กับ “มีอา” ซึ่งปัจจุบันอายุ 7 ขวบ

“จาค็อบ” (ภาพล่างซ้าย) เสมือนเป็นตัวแทนของอีกหลายร้อยครอบครัวชาวอเมริกันที่มีบุตรหลาน “ข้ามเพศ” และยังเป็นที่ถกเถียงทั่วประเทศ นับแต่ทั่นผู้นำโดนัลด์ ทรัมป์ จุดประเด็นเลิกนโยบายการเข้าห้องน้ำตามเพศสภาพ

ครอบครัวนี้จึงกลายเป็น “เส้นชีวิต” ให้ครอบครัวอื่นได้ผ่านพ้นจุดที่บางบ้านอาจ “ทำใจลำบาก” เพราะขนาด “มิมิ” ก็ยอมรับว่า ระหว่างทางของการเปิดใจ ก็มีห้วงของความยากเข็ญและเนื้อแท้ของความทุกข์ใจ “มันคือหวานอมขมกลืน คือมีความยินดีที่ได้เห็นลูกของเราได้รับการเติมเต็ม กลับมามีความสุข ได้ยินเสียงหัวเราะและรอยยิ้มอีกครั้ง แต่ก็พ่วงความกังวลก้อนมหึมากับคนที่ไม่หวังดี พร้อมๆ กับความรู้สึกสูญเสียไปด้วย แบบว่า...คนที่อาจไม่ใช่อย่างที่คุณเคยคิดว่าเป็น แต่เค้ายังอยู่ในใจของคุณ”

แต่ก่อนช่วงที่ “จาค็อบ” ซึมเศร้า ไม่คิดแม้แต่อยากจะตื่นนอนขึ้นมา ทั้งคู่จึงรู้สึกว่านี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง ทั้งที่ “มิมิ” ถูกเลี้ยงมาในชุมชนยิวออร์ทอดอกซ์ สายเคร่ง แต่ถอนตัวออกมาตอนโต ถือว่าความเป็น “กบฏ” ในตัวเธอ ช่วยลูกตัวเองไม่น้อย

...

เช่นเดียวกับ “โจ” ที่บอกว่า ไม่มีใครคนไหนอยากเห็นลูกตัวเองต่างกับคนอื่น และเป็นหนทางที่ท้าทายมากในอนาคต หากไม่ยอมรับให้ลูกคนนี้ใช้ชีวิตเป็นเด็กผู้ชาย ก็เสี่ยงว่าจะเติบโตมาด้วยความอายและเกิดสภาวะทางจิต ซึ่งอาจส่งผลไปถึงการฆ่าตัวตาย

ความคิดทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณการศึกษาและสิ่งแวดล้อมรอบข้างของคนทั้งสอง โดยเฉพาะในรัฐแมสซาชูเสตต์ หนึ่งในหลายรัฐที่หัวก้าวหน้า และเป็นรัฐแรกที่ให้มี ก.ม.สมรสเกย์...

ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ