เรียบร้อยโรงเรียนสิงห์บลู หลังจากเชลซีบุกไปเชือดเวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1–0 ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 36 ของฤดูกาล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ลอยลำคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่ 5
มีเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จของเชลซีในฤดูกาลนี้ให้เขียนถึงมากมาย ในบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ เชลซีถือว่าเป็นทีมน้องใหม่ จุดเริ่มต้นมาจากการเข้ามาซื้อทีมของโรมัน อับราโมวิช ช่วงแรกทำตัวเป็นเจ้าบุญทุ่ม ซื้อนักเตะฝีเท้าดีราคาแพงมาร่วมทีมอย่างต่อเนื่อง
ประสบความสำเร็จครั้งแรกในฤดูกาล 2004-05 ภายใต้การคุมทีมของโจเซ มูรินโญ ผมยังจำบรรยากาศช่วงนั้นได้ ผู้คนในวงการมองว่า เชลซียังห่างไกลจากการเป็นสุดยอดทีมเมืองผู้ดี ใช้เงินซื้อความสำเร็จ
แต่หลังจากนั้นมูรินโญนำทีมเบิลแชมป์ได้อีกในฤดูกาลถัดมา ก่อนที่คาร์โล อันเชลอตติ จะนำเชลซีคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ในปี 2009-10
ต่อด้วยมูรินโญ 2014-15 และล่าสุดอันโตนิโอ คอนเต 2016-17
นาทีนี้เชลซีกลายเป็นทีมแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกไปแล้ว ในรอบ 12 ปีหลังสุด เชลซีกวาดแชมป์ได้ถึง 5 สมัย เท่ากับแมนฯยู
เชลซีดิ่งเหวผิดคาดในฤดูกาลที่แล้ว ไม่มีใครคาดคิดว่า จะกลับมาเป็นแชมป์ได้ทันที แม้กระทั่งเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็เคยให้สัมภาษณ์ช่วงต้นซีซั่นกาชื่อเชลซีออกจากสารบบทีมลุ้นแชมป์
การซื้อขายนักเตะของเชลซีทำได้สมดุลมากขึ้น ไม่ได้สักแต่ซื้อเหมือนในอดีต ขายนักเตะออกไปได้ราคาดีหลายคน โดยเฉพาะการผ่องถ่ายผู้เล่นไปจีนทั้งรามิเรสและออสการ์
เลือกซื้อนักเตะที่เข้ามาแล้วไม่ต้องเสียเวลาปรับตัว ทั้งดาวิด ลุยซ์ ที่กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง และเอ็นโกโล ก็องเต นักเตะประวัติศาสตร์ได้แชมป์ 2 ปีซ้อนกับเลสเตอร์ และเชลซี
ผลงานของก็องเตที่วิ่งไปทั่วสนาม เสียบสกัด เปิดบอลเปลี่ยนจากรับเป็นรุก ทำให้เขาได้รับเลือกให้เป็นนักเตะแห่งปี 2 สถาบันหลักในอังกฤษ ทั้งพีเอฟเอที่โหวตโดยเพื่อนร่วมอาชีพ และรางวัลจากสมาคมนักข่าวสายฟุตบอล
...
ต้องยกให้เครดิตกุนซืออันโตนิโอ คอนเต ที่เข้ามาคุมทีมปีแรกก็เป็นแชมป์เลย จุดเปลี่ยนของฤดูกาล คือ การปรับระบบการเล่นเป็น 3-4-3 ต่อมาทีมในพรีเมียร์ลีกสลับมาใช้ระบบนี้กันมากมาย
ความสำเร็จของคอนเต ลึกๆแล้วคงทำให้มูรินโญเจ็บปวดไม่น้อย เขาถูกปลดจากเชลซี คอนเตมาคว้าแชมป์ การปฏิบัติกับนักเตะออกสื่อก็แตกต่างกัน คอนเตไม่เคยตำหนิลูกทีมให้เสียความรู้สึก และมูรินโญมีเงินซื้อนักเตะค่าตัวสถิติโลก แต่แมนฯยูก็ฟอร์มฝืดในพรีเมียร์ลีก ส่อแววชวดท็อปโฟร์ ต้องไปลุ้นแชมป์ยูโรปาลีกแทน
นอกจากคอนเตแล้ว นักเตะทั้งทีมเล่นได้ดีขึ้นผิดหูผิดตาจากปีก่อน ช่วยกันปิดสกอร์ได้ทุกตำแหน่ง ขนาดแกรี เคฮิลล์ เล่นเซ็นเตอร์ยังทำประตูสำคัญให้เชลซีบ่อยครั้ง หรือมิชชี บาตชัวยี ที่ไม่ค่อยได้ลงสนาม ยังยิงประตูชัยให้ทีมคว้าแชมป์ได้
เหลืออีก 2 นัด ถ้าเชลซีชนะวัตฟอร์ดและซันเดอร์แลนด์ พวกเขาจะทำสถิติเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ชนะ 30 นัดต่อฤดูกาล ทีมสุดท้ายที่ทำได้ย้อนกลับไปในดิวิชั่น 1 ที่เป็นลีกสูงสุด คือ ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 1978-79 แต่ยุคนั้นเตะกัน 42 นัด เทียบกับปัจจุบันเตะ 38 นัด
เชลซียังไม่จบภารกิจ ได้ลุ้นถ้วยเอฟเอคัพ อีก 1 รายการ มีโอกาสจบด้วยดับเบิลแชมป์อย่างเท่ และเป็นที่น่าสังเกตว่า 2 ปีหลังสุด ทั้งเลสเตอร์และเชลซี ล้วนมาจากฝีมือของโค้ชชาวอิตาเลียนล้วนๆ.
โต้ บ้านแหลม