เร่งรัฐบาลกำจัดจุดอ่อน คอลัมน์ หมายหตุประเทศไทย

สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ จุดแข็งจุดอ่อนของรัฐบาล พบว่า จุดอ่อนของรัฐบาลบิ๊กตู่ มีดังนี้ อันดับ 1 เศรษฐกิจตกต่ำ ร้อยละ 74.04 อันดับ 2 การจำกัดสิทธิเสรีภาพ ร้อยละ 70.27 อันดับ 3 การใช้งบประมาณจำนวนมากซื้อเรือดำน้ำ ร้อยละ 63.59 เพราะไทยยังอยู่ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี อยากให้ช่วยเหลือประชาชนก่อน

รัฐบาลก็คงรู้ดี จึงเปิดให้ ลงทะเบียนคนจนรอบ 2 เพื่อหาทางช่วยเหลือ เพราะ กำลังซื้อของรากหญ้า ถือเป็นพลังสำคัญในการ กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศทั้งระบบ โดยไม่ต้องไปพึ่งเศรษฐีที่หนีการเมืองไทยไปลงทุนในต่างประเทศ

ผลการลงทะเบียนคนจนรอบ 2 ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน คุณกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า มียอดรวม 10.8 ล้านคนแล้ว เมื่อปิดการลงทะเบียนในวันที่ 15 พฤษภาคม คาดว่าจะมีผู้มาลงทะเบียน 14 ล้านคน ก็เป็นตัวเลขที่รัฐบาลคาดไว้ 14–15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 22 ของประชากร 67 ล้านคน

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้ให้นโยบายช่วยเหลือคนจนที่มาลงทะเบียนว่า ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะช่วยเหลือให้คนกลุ่มนี้สามารถดำรงชีพต่อไปได้ เช่น มีรายได้ 27,000 บาทต่อปี รัฐบาลจะเพิ่มให้อีก 3,000 บาท เป็นต้น ส่วนผู้มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อปี ก็มอบให้กระทรวงการคลังไปหาวิธีช่วยเหลือด้านสวัสดิการที่จำเป็น อาจแตกต่างระหว่างคนกรุงและต่างจังหวัด

คุณอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีคลัง บอกว่า รัฐบาลต้องการลดจำนวนผู้มีรายได้น้อยให้ต่ำลงทุกปี จึงมีมาตรการช่วยเหลือให้คนจนมีงานทำ เช่น การฝึกทักษะด้านช่างต่างๆ ช่างปูน ช่างซ่อมประปา กับ บริษัท โฮมโปร คนที่ผ่านการฝึกฝนก็จะมีรายได้พิเศษในอนาคตมากขึ้น ผมก็เห็นด้วยว่าเป็นวิธีการที่ดี ทุกวันนี้บริษัทก่อสร้างไทยขาดแคลนช่างทุกด้านอย่างมาก แถมค่าตัวยังแพงลิ่ว

...

คุณอภิศักดิ์ บอกว่า เมื่อได้ตัวเลขคนจนแล้ว ก็จะผลักดันเรื่องสวัสดิการของรัฐให้ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ขณะนี้มีงบอยู่แล้ว 30,000 ล้านบาท กำลังหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อตัดงบส่วนอื่นมาช่วยเหลือผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปีเพิ่มเติม

ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี คาดว่าจะมีประมาณ 4 ล้านคน รัฐบาลจะช่วยลดภาระด้านปัจจัย 4 เช่น รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ส่วนลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา การซื้ออาหาร เสื้อผ้า ผ่านร้านประชารัฐ และช่วยหางานทำเพิ่มรายได้ ส่วนผู้มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อปี รัฐบาลก็จะมอบสวัสดิการด้านปัจจัย 4 เช่นกัน

การช่วยเหลือคนจน ด้วยการ ให้สวัสดิการฟรี ทุกรัฐบาลทำมานานแล้ว แต่ไม่ได้ช่วยให้คนจนหายจน เพราะไม่มีรายได้ถาวรช่วยเหลือตัวเอง ผมจึงเห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดของรัฐมนตรีอภิศักดิ์ ที่จับมือกับโฮมโปร ฝึกทักษะด้านช่างให้กับคนจน เพื่อให้มีอาชีพเพิ่มรายได้ แทนที่จะรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเดียว ซึ่งไม่ได้ช่วยให้หายจน

ทุกวันนี้ ไทยขาดแคลนแรงงานช่างต่างๆ จำนวนมาก ยิ่งเป็น บริษัทก่อสร้างขนาดกลางขนาดเล็ก ก็ยิ่ง ขาดแคลนช่างก่อสร้าง จนกลายเป็นปัญหาของธุรกิจ ต้องไปแสวงหาแรงงานต่างชาติมาฝึกเป็นช่างไปวันๆ ทำให้คุณภาพการก่อสร้างต่างๆต่ำกว่ามาตรฐาน การสร้างงานให้คนจนด้วยการฝึกเป็นช่าง รัฐบาลจึงมาถูกทางแล้ว

ทุกวันนี้เมืองไทยเราขาดแคลนช่างมากมาย ช่างปูน ช่างกระเบื้อง ช่างปูพื้น ช่างประปา ช่างไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างซักผ้ารีดผ้า ไปจนถึง คนทำสวน

ถ้ารัฐบาลทำเรื่องนี้จริงจัง จับมือกับห้างยักษ์ที่ขายอุปกรณ์ก่อสร้างบ้าน ซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ฝึกทักษะคนจนในแต่ละอำเภอ ทุกจังหวัดทั่วประเทศให้เป็นช่าง ทั้ง ช่างสร้างบ้าน ซ่อมบ้าน และสารพัดช่าง นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาให้ธุรกิจก่อสร้างระดับเอสเอ็มอีแล้ว ยังช่วยสร้างอาชีพใหม่ให้คนจนทั่วประเทศอีกด้วย รีบทำเลยครับจะได้ “กำจัดจุดอ่อนรัฐบาล” ให้หมดไปเสียที.

“ลม เปลี่ยนทิศ”