มะไฟชนิดนี้ พบขึ้นทั่วไปตามป่าธรรมชาติทางภาคใต้ของประเทศไทย โดยจะมีขึ้นบริเวณที่เป็นที่ราบเชิงเขาและริมห้วย ริมลำธารทั่วไป พบมากที่สุดทางจังหวัดตอนล่างของภาคใต้ประเทศไทย ในต่างประเทศพบที่มาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่ง “มะไฟแดง” มีชื่อวิทยาศาสตร์เฉพาะว่า BACCAUREA SCORTECHINII HOOK.F. ชื่อสามัญ CHINESE LANTERN TREE อยู่ในวงศ์ EUPHOBIACEAE มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นไม้ยืนต้น สูง 6-10 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม รูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ยอดอ่อนเป็นสีน้ำตาลแดง สามารถกินเป็นผักเคียงกับขนมจีนใต้ได้ มีรสชาติเปรี้ยวปนฝาดเล็กน้อยอร่อยมาก ดอก ออกเป็นช่อตามลำต้นและกิ่งก้าน ลักษณะเป็นดอกแยกเพศ โดยดอกตัวผู้และดอกตัวเมียจะไม่มีกลีบดอก เป็นสีม่วงเข้ม ดอกมีกลิ่นหอม เวลามีดอกจะดูงดงามและส่งกลิ่นหอมเป็นที่ประทับใจยิ่ง

ผล รูปกลมแป้น สีของเปลือกผลเมื่อผลแก่จัดจะเป็นสีแดงอมม่วง เปลือกผลค่อนข้างหนา ติดผลดกเป็นพวงห้อยลงสวยงามน่าชมมาก เนื้อหุ้มเมล็ดเป็นสีชมพู ใน 1 ผลจะมี 3 พู หรือ 3 เมล็ด เนื้อหุ้มเมล็ดมีรสชาติหวานปนเปรี้ยวนิดๆ รับประทานอร่อยเหมือนกับเนื้อมะไฟทั่วไปทุกอย่าง ติดผลดกปีละครั้งตามฤดูกาลในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายนทุกปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง มีชื่อเรียกอีกคือ ส้มไฟป่า, ส้มไฟดิน, มะไฟเต่า และ มะไฟกาแดง นิยมปลูกเพื่อเก็บผลกินในครัวเรือนและเก็บผลขายมาช้านานแล้ว กิโลกรัมละหลายบาท ปัจจุบันนักจัดสวนนิยมนำต้นไปปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากเวลามีดอกและติดผล นอกจากดอกจะสวยงามส่งกลิ่นหอมแล้ว ผลยังเก็บรับประทานได้อีกด้วย

...

ใคร ต้องการกิ่งตอนแท้มีขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 9 แผง “คุณหมู” โทร.08–1861–6644 ราคาสอบถามกันเอง ปลูกได้ในดินทั่วไป เวลามีดอกและติดผลดกเต็มต้นจะดูงดงามและเก็บผลกินหรือขายได้ราคาดีและคุ้มค่ามากครับ.

“นายเกษตร”