เห็นเงียบๆเรื่องเทคโนโลยี แต่พอเปิดตัวปั๊บ ธนาคารกรุงเทพ ของ คุณ “โทนี่” ชาติศิริ โสภณพนิช ก็กลายเป็น ธนาคารแรกของไทย ที่กำลังจะเปิดใช้ “คิวอาร์โค้ดข้ามประเทศ” สามารถใช้จ่ายด้วยระบบคิวอาร์โค้ดใน จีน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ ผ่านเครือข่าย TPN UnionPay โดยไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตรเครดิตอีกต่อไป
ถือเป็นความก้าวหน้าอีกก้าวทางเทคโนโลยีการเงินของวงการแบงก์ไทย
คุณโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า สองเดือนก่อน ธนาคารได้นำระบบคิวอาร์โค้ดบัตรเครดิต และ บัตรเครดิต ของ ธนาคารกรุงเทพ ไปทดสอบที่ ศูนย์ทดสอบนวัตกรรมทางการเงิน (sandbox) ของธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่า น่าจะได้รับการอนุมัติในเดือนตุลาคมนี้ เมื่อผ่านออกมาแล้ว คิวอาร์โค้ดบัตรเดบิตและบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ จะสามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการในประเทศและต่างประเทศได้ ทั้ง จีน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์
ระบบคิวอาร์โค้ดบนบัตรเดบิตและบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ เป็นระบบที่ออกร่วมกับ TPN UnionPay (TPN คือ บริษัทไทย เพย์เมนต์ เน็ทเวิร์ค จำกัด เป็นระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ส่วน UnionPay เป็นระบบการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดของจีนภายใต้แบงก์ชาติจีน มีเครือข่ายการชำระเงินผ่านบัตรต่างๆ 170 ประเทศทั่วโลก)
เมื่อได้รับการอนุมัติจากแบงก์ชาติแล้ว บัตรเดบิตยูเนียนเพย์ และ บัตรเครดิตยูเนียนเพย์ ของ ธนาคารกรุงเทพ ก็จะเป็น บัตรที่ใช้คิวอาร์โค้ดข้ามประเทศเป็นแบงก์แรกของไทย โดยใช้ผ่าน แอปพลิเคชัน BeWallet (บีวอลเลท) ที่ธนาคารกรุงเทพสร้างขึ้นใหม่ แยกออกจากแอปพลิเคชัน บัวหลวง เอ็ม แบงกิ้ง ปัจจุบันบัตรเดบิตที่ ธนาคารกรุงเทพ ออกร่วมกับ ทีพีเอ็น ยูเนียนเพย์ มีฐานลูกค้าประมาณ 5 ล้านใบ จากฐานลูกค้าบัตรเดบิตรวม 14-15 ล้านใบ
...
คุณโชค กล่าวว่า การนำคิวอาร์โค้ดไปใช้ในต่างประเทศ ต้องเป็นบัตรที่ออกร่วมกับทีพีเอ็น ยูเนียนเพย์เท่านั้น แต่ต้องดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน BeWallet ก่อน จึงจะสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดข้ามประเทศได้ ในอนาคต “บีวอลเลท” จะสามารถรองรับบัตรประเภทอื่นๆได้ด้วย เช่น บัตรวีซ่า บัตรมาสเตอร์การ์ด รวมทั้ง บัวหลวง เอ็ม แบงกิ้ง
ก็ถือเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของแบงก์ไทยที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
ปัจจุบัน คนไทยที่ไปเที่ยวเมืองจีน บ่นกันมากมาย ไม่สามารถใช้เงินสดใช้จ่าย ซื้อสินค้าและบริการได้ เพราะในประเทศจีนวันนี้ ร้านค้าใช้คิวอาร์โค้ดในการใช้จ่าย ผ่านเครือข่าย อาลีเพย์ วีแชตเพย์ เกือบทั้งหมด ยกเว้นร้านค้าขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวต่างชาติจะไปสมัครใช้บริการอาลีเพย์และวีแชตเพย์ในจีนก็ไม่ได้อีก เพราะรัฐบาลจีนบังคับให้ใช้ เบอร์โทรศัพท์ในประเทศจีน และ บัญชีเงินฝากในประเทศจีน เท่านั้น ถ้าเป็นเบอร์โทรศัพท์ต่างประเทศ ก็สมัครใช้บริการไม่ได้
เมื่อคิวอาร์โค้ด “บีวอลเลท” ของ แบงก์กรุงเทพ ผ่านแซนด์บ็อกซ์ แบงก์ชาติออกมาในเดือนหน้า การไปเที่ยวเมืองจีนต่อไปก็สบายขึ้น สามารถใช้โทรศัพท์มือถือเบอร์ไทยไปจ่ายค่าสินค้าและบริการด้วยคิวอาร์โค้ดที่เมืองจีนได้ เพราะมีระบบของยูเนียนเพย์ของแบงก์ชาติจีนรองรับ ใหญ่กว่าอาลีเพย์และวีแชตเพย์เสียอีก
ผมไม่แน่ใจว่าเมื่อประเทศไทยมี “บีวอลเลท” แล้ว แบงก์ชาติยังจะปล่อยให้ อาลีเพย์ วีแชตเพย์ ที่ นักท่องเที่ยวจีนนำมาใช้จ่ายในเมืองไทย แต่เงินที่จ่ายกลับไม่ได้อยู่ในเมืองไทย กลับไปจ่ายเป็นเงินหยวนที่ประเทศจีนอีกหรือไม่ ถึงเวลาแล้วที่ไทยต้อง “เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม” จาก นักท่องเที่ยวจีน ที่มากินมาเที่ยวมาใช้ทรัพยากรธรรมชาติในเมืองไทยจนเสียหายยับเยินบ้าง มิฉะนั้นคนไทยก็แบกรับภาระฝ่ายเดียว.
“ลม เปลี่ยนทิศ”