คนภาคกลางอย่างผม คุ้นๆกับสำนวน “มะพร้าวห้าวยิ่งแก่ยิ่งมัน” เท่านั้นแหละครับ อ่านสารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ ฉบับ พ.ศ.2529 ของสถาบันทักษิณคดีศึกษา จึงรู้ว่าคนภาคใต้รุ่มรวยสำนวนมะพร้าวมาก

อย่างแก่พร้าวเฒ่าลอกอ ถ้าคนใต้พูดถึงคนแก่คนไหน ก็แสดงว่าด่ากันรุนแรง หยาบคาย ตัดไมตรีกันเลย

มีคำอธิบาย มะพร้าวที่มีต้นแก่อายุมากยอดสูงเสียดฟ้า แต่ก็มีประโยชน์ใช้สอยน้อยมาก ยิ่งแก่เท่าใดการให้ผลก็ยิ่งลดลง จนในที่สุดก็เป็นมะพร้าวหัวเรียว ไม่มีผลประโยชน์ที่จะได้ลูกผลต่อไป

คงเหลือแต่ลำต้นอย่างเดียว เปรียบคนแก่ที่เกิดมานานจนเหลือแต่ร่างกายให้พอรู้ว่าเป็นคนเท่านั้น

ส่วน เฒ่าลอกอ ธรรมชาติมะละกอก็เหมือนมะพร้าว ยิ่งต้นแก่ก็ยิ่งมียอดเรียวเล็ก หมดผลก็เหลือแต่ใบติดยอด เหลือต้นก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้

อีกสำนวน สิบเจ็ดน้ำคลอง สิบสองน้ำพร้าว ฟังแล้วกว่าจะเข้าใจ ต้องอธิบายยาว

ในอดีตน้ำคลองเป็นน้ำสะอาด ใช้เป็นน้ำดื่มน้ำใช้ แม้การพิธีกรรมบางอย่างก็ต้องใช้น้ำคลอง เช่น การอุปสมบทที่สมบูรณ์ต้องสวดญัตติในอุโบสถ แต่เมื่อไม่มีอุโบสถ อนุญาตให้ใช้เกาะกลางแม่น้ำ

ถ้าไม่มีเกาะ อนุญาตให้ใช้เรือที่ลอยอยู่กลางคลอง ทั้งนี้เพราะถือกันว่าน้ำคลองเป็นน้ำสะอาด

ส่วนน้ำมะพร้าว ถือกันว่าเป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ นอกจากใช้ดื่มธรรมดาแล้ว ยังนิยมใช้ในการทำพิธี เช่น ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวดื่มเป็นน้ำมงคลในวันแต่งงาน

ใช้ล้างอาถรรพณ์แก้ของปลอง ให้คนถูกคุณยาใช้อาบเพื่อแก้เวทมนตร์คาถาที่ถูกทำ ที่เรียกกันว่า“ซุยแทรก” (ถูกเสนียดจัญไร) มีแต่ความเป็นอัปมงคล ทำมาหากินไม่เกิดผล หรือเจ็บป่วยออดๆแอดๆ รักษาไม่หายขาด

ต้องเข้าพิธีชำระล้างเสนียดจัญไรให้หมด

พิธีที่ว่านี้ ต้องเริ่มด้วยการตักน้ำคลอง 17 คลองเทใส่รวมกัน และใช้น้ำมะพร้าวต่างพันธุ์ 12 ผล เทใส่รวมกัน

...

ใช้ทั้งอาบและดื่ม พร้อมกับมีเวทมนตร์กำกับ

เชื่อกันว่าสามารถชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายให้หมดไปได้

สำนวนนี้ยังใช้กล่าวตำหนิคนที่มีความชั่วมาก คนบาปหนา ว่าถึงจะอาบน้ำคลอง 17 คลอง กับ 12 น้ำพร้าว ก็ยังมิอาจล้างความชั่วให้หมดไปได้

การหาน้ำถึง 17 คลอง และหาน้ำมะพร้าวถึง 12 พันธุ์นั้นหายากมาก ต้องใช้เวลานาน การทำพิธีที่ใช้น้ำทั้งสองชนิด จึงเป็นพิธีที่ขลัง

ส่วนคนที่มีความชั่ว และถูกตำหนิ การด่าด้วยสำนวนนี้ ก็ทำให้เห็นว่าคนผู้นั้นชั่วมาก

ผมยังครึกครื้นรื่นแรงกับบรรยากาศการเมือง ช่วงเวลาสามก๊กสองกั๊กอยู่ครับ ตอนนี้ไม่ว่าก๊กไหนพรรคใด ก็เห็นมีเรื่องต้องใช้ทั้งเนื้อหาและสำนวนด่ากันไม่ค่อยซ้ำ

นึกขึ้นได้ว่า ตอนที่กลุ่ม กปปส.ขึ้นเวทีด่า สำนวนแบบเฮทสปีช ฟังแล้วเกลียดชังกันนัก มีนักวิชาการออกมาบอกว่าแรงไป

ขัดเกลาหรือลดโทนลง แบบ แก่พร้าวเฒ่าลอกอ หรือสิบเจ็ดน้ำคลองสิบสองน้ำพร้าว ฟังแล้วลดความโกรธขึ้งปึงปังได้บ้าง

ทั้งน่าจะสร้างบรรยากาศการเมืองได้ดีกว่า

ถ้าบรรยากาศการเมืองดี อารมณ์คนการเมืองก็ดี เช่นเห็นมุกดูดน้ำด้วยหลอดสามสี สีแดง สีเขียว สีเหลือง ก็มองเป็นเรื่องเฮฮาหัวเราะเข้าใส่กัน ผมว่า ดีกว่าการโวยใส่กันเยอะเลย.

กิเลน ประลองเชิง