ในเจ็ดรัฐยุคจั้นกว๋อ มีใครคนหนึ่งก่อร่างสร้างพื้นฐานให้รัฐฉิน รัฐเล็กๆก่อนจิ๋นซีฮ่องเต้จะรวบ 7 รัฐไว้ในมือ รวมแผ่นดินจีนเอาไว้ ใครคนนั้น ชื่อ “ซางยาง”

เล่าขานกันว่า เด็กในแคว้นฉินร้องไห้ แค่ผู้ใหญ่ขู่ เดี๋ยวซางยางรำคาญ เด็กก็เงียบกริบ

เกิดเมืองเหว่ย รัฐวุ่ย เมื่อ 390 ปีก่อน ค.ศ.ชื่อ “ยาง” เป็นคนฉลาดมาก กงซุนจั้ว นายกรัฐวุ่ยเลี้ยงไว้ใกล้ตัว วันที่นายกวุ่ยชรา วุ่ยฮุ่ยอ๋องถาม ใครเป็นนายกคนต่อไป กงซุนจั้วเสนอ “ยาง”

วุ่ยอ๋องเห็นว่าหนุ่มเกินไป กงซุนจั้วต้องกระซิบ “ถ้าไม่เลี้ยงให้เป็นใหญ่ก็ต้องฆ่าทิ้ง”

วุ่ยอ๋องไม่เชื่อ เมื่อกงซุนจั้วตาย “ยาง” ยังมีชีวิต จนกระทั่งอ่านประกาศรับสมัครนายกรัฐฉิน ตอนนั้นเป็นรัฐเล็ก เคยเป็นรัฐลูกไล่รัฐวุ่ย

ยางพบฉินเซี่ยวกง อ๋องรัฐฉินครั้งแรก สาธยายคุณธรรม ผู้นำรุ่นเก่าฉินเซี่ยวกงหลับ พบครั้งที่สอง อธิบายถึงสติปัญญาผู้นำที่จะครองใจคนทั้งแผ่นดิน ท่านอ๋องก็โงกง่วง

พบครั้งที่สาม เสนอแผนเผด็จการ ทำผิดก็ตัดหัว ทำดีก็ให้รางวัล ฉินอ๋องตาสว่าง

“ยาง” ทดลองงานสามปี เป็นนายกแวดล้อมด้วยขุนนางรุ่นเก่า ยางมีวิธีสร้างบารมีที่ไม่เหมือนใคร เขาสั่งเอาไม้หลักต้นหนึ่งไปปักที่กลางลานประตูเมืองทิศใต้ ใครย้ายไปปักที่ประตูเมืองทิศเหนือ จะได้รางวัลสิบตำลึงทอง

สามวัน ไม่มีใครย้ายเสาไม้ งานง่ายได้เงินตั้งสิบตำลึงทอง ยางประกาศให้รางวัลเพิ่มเป็นห้าสิบตำลึงทอง เวลาผ่านไปสามวัน ขี้เมาคนหนึ่งจากรัฐอื่นอ่านประกาศก็ย้ายเสาไม้

ยางให้เงินห้าสิบตำลึงทองต่อหน้าราษฎร นับแต่วันนั้น ไม่ว่ายางจะสั่งอะไรผู้คนก็ทำตาม

ทางรัฐศาสตร์การใช้เงินห้าสิบตำลึงทองซื้อความเชื่อได้ ถือว่ากำไรงามมาก

...

ยางปฏิรูปการปกครองรัฐวุ่ย ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ออกกฎหมายแบ่งห้าหลังคาเรือนเป็นหนึ่งหมู่ คนสองหมู่บ้านติดกัน ต้องรายงานความเคลื่อนไหวกันและกัน ให้หมู่บ้านที่สามตรวจสอบสองหมู่บ้านแรก

ใครทำผิด คนทั้งสิบบ้านต้องถูกตัดเอวขาดสองท่อน ย้ายถิ่นฐาน ต้องรายงานทางการ บ้านใดให้ที่พักคนแปลกหน้า โทษประหารกฎหมายออกแล้ว วันหนึ่งเกิดเรื่องใหญ่ หัวขโมยคนหนึ่งหนีเข้าไปซ่อนตัวในวังไท่จื่อ องค์รัชทายาท ยางใช้แพะบูชายัญสั่งเฉือนปลายจมูก ผู้บัญชาการทหารองครักษ์สั่งสักหน้าผาก กงซุนเจี้ย พระอาจารย์ไท่จื่อ

เย้ยฟ้าท้าดินขนาดนี้ งานบริหารแผ่นดินก็รื่น รัฐฉินเริ่มฟื้นคืนเป็นรัฐยิ่งใหญ่ และเมื่อยางนำทัพไปโจมตีรัฐวุ่ย แคว้นบ้านเกิด ใช้อุบายลวงแม่ทัพเป็นเพื่อนเก่ามาฆ่า รัฐวุ่ยยอมแพ้

กลับถึงรัฐฉิน อ๋องให้รางวัลให้ไปครองเมืองซาง นายกชื่อยาง เรียก ซางยางมานับแต่นั้น

กินเมือง “ซาง” สองปี ฉินเซี่ยวกงสิ้นพระชนม์ ซางยางอายุ 52 ก็ตีนลอย เมืองยางไม่มีกำลังทหารในมือ

ไท่จื่อขึ้นเป็นอ๋อง ผู้บัญชาการทหารองครักษ์ ที่ถูกเฉือนปลายจมูกกับพระอาจารย์รัชทายาทที่ถูกสักหน้าผากก็ผงาดซางยางถูกคำสั่งจับ

ปลอมตัวเป็นคนแก่หลังค่อมหนีไปถึงชายแดน แต่เพราะกฎหมายที่เขาออก ไม่มีบ้านหลังใดให้ที่พัก สุดท้ายก็ถูกคนเคยรู้จักหลอกให้พัก แลกสินบนหมื่นตำลึงทอง

แล้วผู้นำเผด็จการ ที่วันนี้โลกยังจดจำ ก็ถูกประหารด้วยวิธีห้าม้าแยกร่าง

ซางยางนักปฏิรูปแผ่นดินผู้ยิ่งใหญ่ ที่ผู้นำรุ่นต่อมา กระทั่งบิสมาร์ค ผู้นำผู้ใช้นโยบายเลือดกับเหล็ก บริหารเยอรมนี ก็ถือเป็นคนต้นแบบ จนเป็นชนวนสงครามโลกครั้งที่ 1

น่าใจหาย ประวัติศาสตร์จอมเผด็จการผู้ยิ่งใหญ่ มักตายไม่ดีไปเสียทุกคน.

กิเลน ประลองเชิง