หลังจากที่เกิดความสงสัยในหมู่ประชาชน กปปส. จะตั้งพรรคตามที่แกนนำบางคนประกาศหรือไม่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ กปปส. ได้ออกมาตอกย้ำว่าแม้จะไม่ประสงค์ตำแหน่งทางการเมือง แต่ก็มีหน้าที่ดูแลงานการเมือง ขอให้ติดตามต่อไป จะพบนวัตกรรมใหม่ๆทางการเมือง โดยมีกระบวนการประชาชนและพรรคการเมืองประชาชนทำหน้าที่นี้
นวัตกรรมใหม่ๆในทางการเมือง คืออะไร? ยังไม่มีคำชี้แจงในรายละเอียดของแนวทาง และวิธีการที่จะบรรลุเป้าหมาย ประธาน กปปส. พูดเรื่องนี้ ในขณะที่การเมืองของไทยกลับมาคึกคัก มีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากที่ เงียบเหงาไปเกือบ 4 ปี ขณะนี้มีการขอจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่เป็นประวัติการณ์ มีพรรคใหม่ๆ คนรุ่นใหม่ อนาคตใหม่และความหวังใหม่ๆ
แต่ยังไม่มีพรรคใดประกาศนวัตกรรมการเมืองใหม่อย่างจริงจัง ถ้าใครทำได้น่าจะเป็นคุณูปการใหญ่หลวงต่อประเทศชาติและคนไทย เพราะการเมืองไทยตกอยู่ในภาวะน้ำเน่ามาหลายทศวรรษ มีการซื้อสิทธิขายเสียงอย่างมโหฬาร มีการทุจริตโกงกินเพื่อถอนทุนตามหลักธุรกิจการเมือง พรรคกลายเป็นของนายทุน และแม้เศรษฐกิจจะพัฒนาขึ้นแต่ถูกซ้ำเติมด้วยความเหลื่อมล้ำ
แม้จะมีกติกาการต่อสู้ทางการเมือง ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ แต่นักการเมืองบางส่วนยึดคติ “แพ้ไม่เป็น ต้องชนะลูกเดียว” เมื่อแพ้ในสภาจึงนำการเมืองออกไปเล่นกันข้างถนน นำไปสู่การใช้ความรุนแรงถึงขั้นนองเลือดบ่อยครั้ง กลายเป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญ ล้มการเลือกตั้ง การบริหารประเทศใช้นโยบายลดแลกแจกแถม มุ่งหาเสียงระยะสั้นๆ
แม้ คสช.จะยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ ปกครองประเทศมาเกือบ 4 ปี และประกาศหนักแน่นจะปฏิรูปประเทศในทุกด้าน เพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยมีกลไกที่มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันและขจัดการทุจริต ขจัดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในทางเศรษฐกิจและสังคม แต่การทุจริตก็ยังเฟื่องฟู เช่นเดียวกับนโยบายลดแลกแจกแถม เพื่อช่วยเหลือคนจน
...
นักวิชาการวิจารณ์ว่า โครงการช่วยเหลือคนจน ไม่ว่าจะเป็นเงินสงเคราะห์ผ่านศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง หรือนโยบายไทยนิยมที่กำลังเร่งดำเนินการในขณะที่ประเทศเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ด้วยการจัดสรรงบแจกกว่า 83,000 หมู่บ้าน แห่งละ 2 แสนบาท ไม่ได้ต่างจากประชานิยม และกำลังนำการเมืองไทยถอยหลังสู่ยุค “ประชาธิปไตยครึ่งใบ” อีกครั้ง ส่วนปฏิรูปอื่นๆยังนิ่งอยู่
อันที่จริง นวัตกรรมการเมืองมีอยู่แล้วเพียบ ไม่ต้องเสียเวลาไปค้นหาใหม่ๆ เพียงแต่ปัดฝุ่นรัฐธรรมนูญที่ประชาชนมี
ส่วนร่วม เช่นฉบับ 2517 ที่มาจากการต่อสู้ของนักศึกษา ประชาชน ฉบับ 2540 และ 2550 ที่มุ่งปฏิรูปการเมืองก็จะพบนวัตกรรมที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องใหม่ สำหรับการเมืองไทย แต่ไม่มีรัฐบาลใดนำไปปฏิบัติจริง การเมืองจึงจมปลักอยู่ในวงจรน้ำเน่า.