ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ค.60 ปิดที่ 1,571.52 จุด ลดลง 2.57 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 38,185.56 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,335.16 ล้านบาท
บล.ทิสโก้ แนะนำถือเงินสดในสัดส่วนมากกว่าถือหุ้น รอจังหวะทยอยสะสม เมื่อดัชนีปรับตัวลงต่ำกว่า 1,550 ลงมา พร้อมระบุว่า ตลาดหุ้นไทยเสี่ยงปรับตัวลงในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า (ก.ค.-ส.ค.) จากปัจจัยเสี่ยงภายนอก ทั้งโอกาสเกิดการปรับฐานของหุ้นสหรัฐฯ หลังขึ้นยาวนาน 1 ปีเต็มโดยไม่มีการปรับฐานลงมากกว่า 5%
ขณะที่นโยบายการเงินโลกที่จะเริ่มปรับเปลี่ยนไปในทางที่เข้มงวดขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ โดยเฉพาะการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญต่างๆภายในไตรมาส 3 นี้ จะเป็นตัวกดดัน
โดยคาดว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเริ่มประกาศยกเลิกแผนการเข้าซื้อพันธบัตรปีละ 80 ล้านล้านเยน ในการประชุมเดือน ก.ย. นี้ ส่วนธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) คาดว่าจะลดขนาดวงเงิน QE เป็นเดือนละ 4 หมื่นล้านยูโร ช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ทำให้ ECB อาจต้องส่งสัญญาณการปรับนโยบายการเงินในทางที่เข้มงวดขึ้น
สำหรับธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) คาดจะเริ่มประกาศแผนลดงบดุลลงเดือน ก.ย. ด้วยแนวโน้มนโยบายการเงินโลกที่เริ่มปรับเปลี่ยนเบนเข้าหากันในทางที่เข้มงวดขึ้น น่าจะหนุน Bond Yield โลกแกว่งซิกแซกขึ้น แนะให้จับตา Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯ หากขึ้นทะลุ 2.4% อาจกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายหุ้นทั่วโลกได้
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ มองแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ในเชิงลบ และราคาน้ำมันที่ต่ำกว่าระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล จึงมองภาพรวมกำไรของตลาดมีแนวโน้มถูกปรับลงมากขึ้นในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า
สำหรับหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 2 จะออกมาดี และราคายังมี upside ชอบ AMA, BCH, BEAUTY, ERW, ROJNA, RS, TPIPP, UNIQ, WORK และหุ้นที่คาดว่าจะมีปันผลจ่ายระหว่างกาลงวดนี้ระดับ 2% ขึ้นไป คือ BANPU, BPP, HANA, INTUCH, LH, QH, RATCH, SPCG, TCAP, TTW
...
อย่างไรก็ดี มองว่าไม่ใช่ช่วงเวลาในการเพิ่มพอร์ตลงทุน ยังแนะให้ถือเงินสดเพื่อรอซื้อที่ต่ำ จากมุมมองที่เป็นห่วงการปรับฐานของหุ้นโลกรวมถึงหุ้นไทยช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. เบื้องต้นดัชนีระดับต่ำกว่า 1,550 น่าจะเป็นจังหวะเริ่มทยอยสะสมของพอร์ตการลงทุน
ทั้งนี้ หุ้นเด่นที่แนะนำเดือน ก.ค. คือ BBL, BEAUTY, BTS, MM, ROJNA, SEAFCO, TPIPP ส่วนหุ้นเด่นครึ่งปีหลัง คือ AMA, BEAUTY, CK, JWD, ROJNA, SEAFCO!!
อินเด็กซ์ 51