การประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ครั้งที่ 14/2560 เมื่อวันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2560 ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบตามบัญชีที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ ชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกาคนที่ 1 ให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากเป็น ผู้มีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต มีความรู้ในทางวิชาการคดี เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตุลาการ และเป็นไปตามลำดับอาวุโส ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไปนั้น สังคมพอยอมรับได้ แต่การนัดประชุม ก.ต. ครั้งต่อไป ครั้งที่ 15/2560 วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม 2560 เวลา 09.30 น. ที่มีวาระจัดการกับ ศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ โดยผลักดันให้ไปเป็น ที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา ทั้งๆที่ เจ้าตัวไม่สมัครใจนั้นเป็นการกระทำที่เกินเลยไปหรือไม่ขอให้ตั้งสติพิจารณาด้วยความเป็นธรรมด้วย...
ทำบันทึกถึงผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงในสำนักนายกรัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าหน่วยงานเทียบเท่า ปลัดกระทรวง ที่เกษียณอายุราชการในปีนี้ไปแล้วเมื่อตอนต้นเดือนมาพบว่ายังเสนอข้อมูลไม่ครบถ้วนกล่าวคือบอกไปเพียง 2 หน่วยงานอันได้แก่ สมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กับ หิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ทั้งที่ยังมีอีก 2 หน่วยงานสำคัญ คือ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กับ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่หัวหน้าหน่วยงานเกษียณเหมือนกัน...
ของ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ นั้นเมื่อตัว ผู้อำนวยการ คือ รวี ประจวบเหมาะ ถึงเวลาเกษียณในปีนี้ คนที่น่าจะได้ขึ้นคือ ชูเกียรติ มาลินีรัตน์ รองผู้อำนวยการที่ครองอาวุโสสูงสุด แต่ก็สูสีกับรองอีก 2 คือ ธวัชชัย ฤทธากรณ์ กับ วิม ยาหิรัญ ที่เพิ่งขึ้นมาเมื่อ 1 ตุลาคม 2559....
ส่วนที่ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ นั้น เมื่อ พลเอกทวีป เนตรนิยม เลขาธิการ ที่โอนมาจากทหารถึงคราวเกษียณอายุปรากฏว่าไม่มีวี่แววว่าจะมีใครข้ามห้วยมาครองตำแหน่งนี้ต่อจึงเป็นโอกาสสำคัญของ สมเกียรติ ศรีประเสริฐ รองเลขาธิการ
...
สมช.ที่ยังเหลืออยู่คนเดียวโดดๆจะได้ก้าวขึ้นมาเป็น เลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ คนใหม่เพราะ อีก 2 รองนั้นต่างเกษียณไปด้วยกันคือ ปกรณ์ ศรีจันทร์งาม กับ วีระ อุไรรัตน์ ทำให้ตำแหน่งรองเลขาธิการว่างพร้อมกันทีเดียว 3 เก้าอี้ คนที่จะได้ขึ้นมาคือ 2 ที่ปรึกษาอันได้แก่ สิงคิ์ วิเศษพจนกิจ กับ ชลิตา โชไชย และ ดนัย มู่สา ผู้ช่วยเลขาธิการ ซึ่งชื่อหลังนี้มีสิทธิก้าวถึงเลขาธิการถ้าไม่มีรายการเสือข้ามห้วยจากทหารอีก...
ย้อนกลับไปพิจารณาที่ สำนักงบประมาณ ที่ สมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ เกษียณไปพร้อมกับ 3 รอง ทำให้การพิจารณาง่ายขึ้นเหลือรองอาวุโสอยู่คนเดียวคือ เดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา และจะอยู่ยาวถึง 4 ปี คือจะเกษียณในปี 2564 โน่น ส่วนคนที่อยู่ในคิวที่จะขยับจากที่ปรึกษาไปเป็นรองที่จะว่างถึง 4 อัตรานั้นมี 6 ราย คือ ดวงตา ตันโช ภูมิรักษ์ ชมแสง เยาวลักษณ์ จำปีรัตน์ วิยดา โชติรัตนะศิริ สมหมาย ลักขณานุรักษ์ และ ประยงค์ ตั้งเจริญ...
ที่บีโอไอ เมื่อ เลขาธิการ หิรัญญา สุจินัย เกษียณ ก็มี 3 รอง เรียงตามอาวุโสให้พิจารณาขึ้นเป็นเลขาธิการคนใหม่คือ อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ และ โชคดี แก้วแสง....
รายการแต่งตั้ง กงสุลใหญ่ มีมาใหม่อีกรายคือ นางสาวอรชา ธนากร ผู้อำนวยการกองเขตแดน กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมมณฑลฉ่านซี มณฑลกานซู และเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย....
“ซี.12”