กลัวๆกล้าๆ...ก็เป็นอย่างนี้แหละ ก่อนจะ “ยุบสภา” เพื่อเลือกตั้งกันใหม่ก็ต้องเอาเหลี่ยมเอามุมเพื่อความเหนือกว่า“เพื่อไทย” จะยื่นซักฟอกก็ยังไม่กล้าเพราะไม่รู้ “คุ้มหรือไม่คุ้ม”ในเมื่อหาดใหญ่ยังฟื้นฟูเยียวยาได้แค่นิดเดียวพูดง่ายๆคือชาวบ้านยังเดือดร้อน ขืนไปฟาดฟันรัฐบาลที่กำลังแก้ไขปัญหาแทนที่จะดีกลับถูกด่าเอาได้เพราะเอาแต่เล่นการเมืองทั้งๆที่ชาวบ้านยังเดือดร้อนสภาเปิดประชุมวิสามัญระหว่างวันที่ 10-11 ธ.ค.2568 เปิดพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2-3 ทุกพรรคดูเหมือนจะเห็นตรงกันคือยกมือให้ผ่าน!แม้แต่ สว.ก็ต้องยอม เพียงแต่ขออย่าตัดอำนาจเท่านั้น“อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี บอกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 แน่ และจะยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ตามข้อตกลงเดิมหากรัฐธรรมนูญผ่านไปได้ก็หมดเงื่อนไขจะยื่นซักฟอกก็ทำได้เพียงแต่ “ภูมิใจไทย” จะยอมหรือไม่เท่านั้นเพราะมีเสียงขู่มาแล้วว่าหากยื่นซักฟอกก็จะยุบสภาไม่ยอมให้ด่าฟรีๆแน่ ก็เป็นสิทธิของทั้ง 2 ฝ่าย ว่ากันไม่ได้ความจริงก็ไม่ได้มีอะไรให้ตื่นเต้นจริงๆแล้วบรรยากาศการเมืองเวลานี้ทุกพรรคต่างก็พร้อมเลือกตั้งอยู่แล้ว ดังนั้นยุบสภาเลือกตั้งกันใหม่ก็น่าจะดี!เศรษฐกิจที่ไม่ดีก็จะเป็นแรงกระตุ้นชุดใหญ่จากการเลือกตั้งที่ไม่ต้องมีวิธีการที่ยุ่งยาก เพราะนักการเมืองสามารถจัดการได้อยู่แล้วที่สำคัญทุกพื้นที่ต่างๆก็ได้แรงกระตุ้นไม่ต่างกันแต่วันนี้ที่มีปัญหาคือ สแกมเมอร์ซึ่งเป็นประเด็นที่ฮอตที่สุดและเกี่ยวพันกับการเลือกตั้งที่สุด เพราะนักการเมืองที่ซุ่มเงียบหวังเอาเงินจากธุรกิจสีเทานี้มาเป็นค่าใช้จ่ายทั้งซื้อนักการเมือง ทั้งซื้อเสียง ทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆแต่ปัญหาก็คือเรื่องยังคาราคาซังอยู่ เพราะยังไม่สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้นอกจากอายัดทรัพย์สินไว้เท่านั้นอีกทั้งยังมีรายชื่อคนเด่นคนดังโดยเฉพาะนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวพันด้วยนายกรัฐมนตรีก็ยังมีชื่ออยู่ด้วยก็เลยยังไม่รู้ว่าใครมือปราบหรือใครจะถูกปราบประเด็นสำคัญก็คือมีความพยายามที่จะ “ล้มคดี” นี้ เพราะไม่ต้องการให้สาวไปถึงใครต่อใครมาเกี่ยวข้องด้วยความจริงตัวละครก็พอจะมองเห็นเพียงแต่พยานหลักฐานยังไปไม่ถึงเท่านั้นยิ่งใกล้เลือกตั้งก็ยิ่งต้องลุ้นเพราะหากจับได้ก่อน การเลือกของบางพรรคก็จบทันทีก่อนเปิดสนามจึงต้องมีเกม “คมเฉือนคม” เบิกร่องก่อน!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม
