“ศิริกัญญา” พูดชัด ปชน.ยังให้เวลารัฐบาล “อนุทิน” ชี้ยังไม่พบข้อมูลร้ายแรงสุดๆจริงถึงขั้นต้องยื่นซักฟอก ฟุ้งค่ายส้มทำหน้าที่ตรวจสอบทุกวัน ไม่ต้องรอให้ยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปัดล็อกเป้าขย่ม กธ.ตีกินโกยคะแนนเสียงล่วงหน้า โอ่เลือกตั้งครั้งหน้า เอ็มโอเอรัฐบาลผสม รมต.ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลทุจริต ต้องลาออกสถานเดียว พท.จี้ใจดำเมินใช้เวทีสภาฯตรวจสอบฝ่ายบริหาร ชี้ซักฟอกกับแก้รัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกัน “วรชัย” จวกมีเทาได้เพราะมีส้ม ท้าขุดปม 2 พันล้านล้มรัฐบาล พท. “ฉัตริน” กระทุ้งสินบน 40 ล้านดีอี เลยเส้นตายนานแล้วเงียบหาย กมธ.แก้ รธน.เมินเกมจับปมแก้ รธน.เป็นตัวประกัน “ณัฐวุฒิ” นัดใหม่ 12 พ.ย. ลุยปิดจ๊อบให้เสร็จทันเดือน พ.ย.พรรคประชาชน (ปชน.) แสดงท่าทีชัดเจนผ่าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน. ถึงการยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดย น.ส.ศิริกัญญาระบุทุกวันนี้พรรค ปชน.ทำหน้าที่ตรวจสอบทุกวัน โดยไม่ต้องรอให้มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และจนถึงขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลร้ายแรงสุดๆจริงๆ คงต้องให้เวลารัฐบาลทำงาน โดยเฉพาะการปราบปรามทุนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์“ไหม” ใจชื้นโพล “เท้ง” ขึ้นนำ “เสี่ยหนู”เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 พ.ย. ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจกระแสการเมืองภาคเหนือ ยังไม่มีพรรคการเมืองและแคนดิเดตนายกฯคนใดได้อันดับหนึ่ง แต่คะแนนนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. นำนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทยว่า จากผลสำรวจใจชื้นขึ้นมา เพราะแม้คะแนนสูงสุดยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร แต่ทั้งพรรค ปชน.และแคนดิเดตนายกฯของพรรค ปชน.ยังนำเป็นอันดับหนึ่ง ต้องเก็บเป็นข้อมูลนำไปวิเคราะห์ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งต่อไป ยุทธศาสตร์หาเสียงของพรรคจะเปิดตัวฝ่ายบริหารใน ครม. ตำแหน่งบริหารสำคัญๆสร้างความมั่นใจให้ประชาชน แคนดิเดตนายกฯกระบวนการทาบทามเดินหน้าเต็มที่ ตอบรับมาหลายคนแล้วต้องมีนายณัฐพงษ์เป็นเบอร์หนึ่ง แต่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุการเมืองที่เกิดขึ้น เบอร์ 2 และเบอร์ 3 อาจยังไม่ได้รีบร้อนตัดสินใจ ทั้งนี้ ได้บุคคลที่จะมาลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แล้ว รอเปิดตัวสิ้นเดือนนี้ขย่ม กธ.ไม่ได้หวังโกยคะแนนเสียงเมื่อถามว่าช่วงนี้โจมตีพรรคกล้าธรรม (กธ.) เป็นพิเศษ เป็นยุทธศาสตร์เพื่อหาเสียงหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า จริงๆต้องแยกกัน การที่พรรค ปชน.พุ่งเป้าไปที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ ช่วงนี้เป็นเรื่องการตรวจสอบรัฐบาล ยังไม่ได้เริ่มเป็นยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ถ้าวิเคราะห์กันดีๆฐานเสียงที่จะเลือกพรรค กธ. หรือพรรค ปชน. อาจไม่ได้ทับซ้อนกันขนาดนั้น เป็นกระบวนการตรวจสอบตามปกติที่ฝ่ายค้านพึงกระทำ ไม่ได้พุ่งเป้าเป็นพิเศษ แต่ช่วงนี้โจทย์ใหญ่ของประเทศคือการปราบปรามสแกมเมอร์ ดังนั้น รัฐมนตรีที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากพรรค ปชน. ไม่ได้มีเจตนาจะเป็นเกมการเมือง เพื่อการเลือกตั้งเลย เมื่อถามถึงกรณีการยื่นยุบพรรค ปชน.จากคุณสมบัติผู้ช่วย สส.เป็นหมัดสวนจากพรรค กธ. น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ไม่ได้กังวลอะไรข้อมูล ข้อเท็จจริงเราชี้แจงได้ยังไม่พบข้อมูลร้ายแรงถึงขั้นซักฟอกน.ส.ศิริกัญญาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ทุกวันนี้เราทำหน้าที่ตรวจสอบทุกวัน โดยไม่ต้องรอให้มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเครื่องมือสำคัญใช้ในการกำกับพรรค ภท.ให้ปฏิบัติตาม MOA แต่ไม่ปฏิเสธว่าถ้ามีเรื่องร้ายแรงที่เราไม่สามารถให้รัฐบาลพรรค ภท.เป็นแกนนำบริหารประเทศต่อไปได้อีกแม้แต่วันเดียว เราไม่ลังเลใจที่จะยื่นแน่นอน แม้จะเท่ากับว่า MOA จะสูญเปล่า แต่จนถึงทุกวันนี้เรายังไม่พบข้อมูลร้ายแรงสุดๆจริงๆ ที่เราอยากกระทุ้งให้รัฐบาลแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือทำอะไรบางอย่าง เราได้พยายามผลักดันทุกวิถีทางด้วยกลไกที่เรามีอยู่แล้ว ถ้าจะมีพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงร่วมกันเกิน 1 ใน 5 ของสมาชิกสภาไปยื่น เราคงห้ามไม่ได้เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านเหมือนกันคงต้องมาคุยกันว่าจะยื่นเมื่อไหร่รอดูรีเเอ็กชัน รบ.ล้างบางแก๊งคอลฯเมื่อถามว่าทุนเทาที่เปิดประเด็นมายังไม่ร้ายแรงอีกใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ต้องรอรีเเอ็กชันว่ารัฐบาลจะมีการปฏิบัติอย่างไร เรายังให้เวลาว่าจะแก้ไขอย่างไรต่อไป จะปลดหรือเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่มีส่วนพัวพันหรือไม่ หรือมีข้อเท็จจริงอะไรที่นำมาใช้เป็นเบาะแสแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ เรายินดีรอว่ามีการกระทำอะไรเกิดขึ้น แอ็กชันของรัฐบาลส่วนอื่นๆเรื่องการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เป็นไปตามแนวทางที่พรรค ปชน.นำเสนอต่อประชาชน แม้จะช้าไปหน่อย ทั้งประกาศตัวจะเป็นเจ้าภาพ ประกาศสงคราม ตั้งคณะกรรมการขึ้นมายังค่อนข้างช้า ต้องกระทุ้งรัฐบาลต่อไปให้แก้ไขปัญหาให้กระจ่างแจ้งพูดชัดเจนต้องให้เวลารัฐบาลน.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน แต่น่าจะเป็นการร่วมมือต่อต้านการค้ามนุษย์ในสมัยใหม่ รวมถึงแสวงหาความร่วมมือกับนานาชาติที่เจอปัญหาเดียวกับประเทศไทย เมื่อถามว่าจะให้เวลารัฐบาลถึงเมื่อไหร่ เพราะเหลือเวลาอีกไม่มาก น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า จริงๆแล้ว รัฐบาลก็พยายามทำตามมาเรื่อยๆ แต่ท้ายที่สุดคงจะมีจุดสัมพันธ์ ที่ถ้าข้ามจุดนี้ไปแล้วยังแก้ไม่ได้คงจะเป็นปัญหา ตอนนี้เรายังติดตามอยู่ว่ากระบวนการต่างๆเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ รอบคอบ รัดกุมหรือไม่ คงต้องให้เวลากับรัฐบาลในเรื่องนี้คนละครึ่งพลัสตอบโจทย์แค่ระยะสั้นจากนั้น น.ส.ศิริกัญญาเข้าร่วมบรรยายในงานเสวนา หัวข้อ “นโยบายทางเศรษฐกิจทิศทางการขับเคลื่อนประเทศไทย” จัดโดยนิสิตระดับปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย น.ส.ศิริกัญญากล่าวตอนหนึ่งว่า นโยบายของทุกรัฐบาลส่วนใหญ่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อตอบโจทย์ระยะสั้นท่าเดียว แต่จะทำแต่ระยะสั้นไม่วางรากฐานไปสู่ระยะยาวไม่ได้ นโยบายคนละครึ่งไม่ตอบโจทย์กระตุ้น GDP เพราะแค่เปลี่ยนที่ใช้เงิน แต่ไม่ได้ควักกระเป๋าสตางค์เพิ่ม แค่เปลี่ยนร้านใช้ ช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับร้านขนาดเล็ก ขนาดย่อยได้ดี ช่วยลดค่าครองชีพ เราสนับสนุน เพราะเมื่อเงินเฟ้อแล้วมันไม่ลง แต่ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจแน่นอนตอบโจทย์บางโจทย์ ไม่ได้ตอบทุกโจทย์ เราเห็นด้วยไม่เคยบ่นเรื่องคนละครึ่งเลย แต่ที่บ่นเพราะเขาแอบไปเติมเงินให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเป็นงบฯของปี 68 ที่ขาดดุลมหาศาลอยู่แล้ว ถ้าจะประหยัดอะไรได้ควรจะประหยัดโอ่ MOA รบ.หน้า รมต.ทุจริตต้องออกผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงตอบคำถามมีนิสิตถามว่าทำอย่างไรให้รัฐบาลโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้สังคม มีวิธีการอย่างไรลดคอร์รัปชัน น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า เวลาที่เราบอกว่าตรวจสอบ สส.ต้องเป็นคนตรวจสอบ สส. 500 คนมีดวงตา 500 คู่จับจ้องตรวจสอบ แต่ถ้าเมื่อไหร่มีการเปิดข้อมูลแบบ OPEN DATA จะมีตาอีกเป็นล้านคู่ช่วยตรวจสอบ นิสิตถามอีกว่าหากนักการเมืองในพรรคเป็นคนมีอรรถประโยชน์ ต่อพรรคมากๆ แต่ทุจริตรับสินบน มีความเห็นอย่างไร ควรดำเนินการอย่างไร น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า ถ้ามีใครทำผิดต้องกล้าฟัน อรรถประโยชน์นิยมคือของส่วนรวมไม่ใช่ของพรรค ต้องฟันให้เห็น ถ้าเรากล้าดำเนินคดีกับรัฐมนตรีของเราเอง ถ้ามีการคอร์รัปชันน่าจะเป็นแบบแผนที่ดี เป็นกรณีตัวอย่างที่ดีได้เลย “หนึ่งในส่วนประกอบของ MOA ถ้าหากเราต้องเป็นร่วมรัฐบาลแบบไม่ใช่พรรคเดียวรอบหน้า 1 ในเกณฑ์ที่ต้องจัดการคือถ้ามีรัฐมนตรีถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวกับคอร์รัปชัน ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วต้องลาออกสถานเดียว บอกไว้ตั้งแต่ต้นว่านี่คือวิธีการทำงานของพรรค ปชน. ใครก็ตามถ้าอยากเป็นรัฐมนตรีร่วมกับรัฐบาลเรา ถ้ามีคดีทุจริตที่ชี้มูลแล้ว ลาออกสถานเดียวเท่านั้น”พท.จี้ใจดำ ปชน.เมินเวทีสภาตรวจสอบวันเดียวกัน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ปชน. ยังไม่ถึงขั้นผิดร้ายแรงถึงขั้นต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า อาจเป็นคำที่สะท้อนว่าพรรค ปชน.กำลังรอให้วิกฤติเกิดก่อนแล้วค่อยตรวจสอบ แต่ฝ่ายค้านควรทำหน้าที่ดับไฟตั้งแต่ต้นลม ไม่ใช่รอให้ลุกไหม้ทั้งบ้าน การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านเป็นกลไกตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ พรรค พท.ในฐานะฝ่ายค้านมีสิทธิและหน้าที่เต็มที่ใช้ช่องทางนี้ ขอบคุณแกนนำพรรค ปชน.ที่ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนว่าอาจเลือกใช้กระบวนการตรวจสอบรูปแบบอื่น เป็นสิทธิแต่ละพรรค แต่เมื่อ สส.พรรค ปชน. ทั้งนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.ออกมาเรียกร้องผ่านสื่อ ให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาบางประเด็น พร้อมตั้งคำถามต่อรัฐมนตรีบางคนในเชิงสาธารณะ แล้วเหตุใดจึงไม่ใช้กลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจภายในสภาฯ เป็นช่องทางที่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองและเปิดเผยข้อมูลหลักฐานได้เต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเห็นข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใสและเป็นระบบมากกว่าการตั้งคำถามภายนอกซักฟอก-แก้ รธน.ไม่เห็นต้องขัดกันน.ส.ลิณธิภรณ์กล่าวอีกว่า กรณีความกังวลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากพรรค ปชน.กังวลว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจะกระทบต่อกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรค พท.พร้อมพูดคุยและหา ทางออกร่วมกัน เพราะจุดยืนของเราชัดเจนว่าการตรวจสอบรัฐบาลกับการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกัน สิ่งสำคัญฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ปล่อยให้ปัญหาบานปลาย เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้หมายถึงการล้มรัฐบาลเสมอไป แต่คือการทำให้รัฐบาลต้องตอบคำถามต่อสาธารณะ และปรับปรุงการบริหารงานให้ดีขึ้น“วรชัย” หวดวาทกรรมมีเทาไม่มีเรานายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรคประชาชน ออกสโลแกน มีเทา ไม่มีเราว่า ประชาชนกำลังร้องยี้กับสแกมเมอร์ที่มีข่าวพัวพันมาถึงนักการเมือง การที่พรรค ปชน.ออกสโลแกนเช่นนี้เป็นวาทกรรมดึงคะแนนผู้สนับสนุน นำไปสู่การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นไม่กี่เดือนข้างหน้า ใช้สถานการณ์เหมือนเลือกตั้งที่ผ่านมาใช้วาทกรรมว่า “มีเรา ไม่มีลุง” ตอนนั้นคนเบื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เบื่อลุง ต้องการคนใหม่ๆเข้าสู่การเมือง วันนี้ปัญหาสแกมเมอร์เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก เกี่ยวพันถึงประเทศไทย มีข่าวลุกลามไปถึงนักการเมือง พรรค ปชน.จึงหยิบฉวยโอกาส เรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วและพรรค ปชน.เคยหยิบมาอภิปราย รู้ดีว่าใครเป็นอย่างไร ใครคือเทาที่ว่าท้า ปชน.ขุด 2 พันล้านล้มรัฐบาล พท.“ย้อนกลับไปไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราเห็นการลงนามเอ็มโอเอของส้มและน้ำเงิน ส้มรู้ดีใครจะมาร่วมรัฐบาลมีเทาหรือไม่มีเทา ถ้าบอกว่ามีเทาไม่มีเรา หากคนในรัฐบาลมีเทาอยู่ทั้งที่ส้มรู้อยู่แก่ใจแล้วผลักดันให้ได้เป็นรัฐบาล แบบนี้วันนี้มีเทาได้เพราะมีส้ม คงจำกันได้ก่อนล้มรัฐบาลพรรค พท. สมเด็จฮุน เซน ประธาน สว.กัมพูชา พูดว่าจะล้มรัฐบาลและคนออกมาปล่อยข่าวว่ามีการระดมทุนถึง 2 พันล้านบาท ล้มรัฐบาลตั้งรัฐบาลใหม่ ที่บอกว่ามีเทาไม่มีเราอยากให้ส้มไปตรวจสอบตรงนี้ด้วยว่าเงิน 2 พันล้านนั้นไปอยู่ที่ไหน ให้ใครเพื่อใช้ทำอะไร ถ้าอ้างตัวว่ามีเทาไม่มีเราควรเอาเรื่องนี้มาบอกให้ประชาชนเห็น” นายวรชัยกล่าว“ชนินทร์” ยันยื่นอภิปรายนายกฯแน่นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการพรรค พท.โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า พรรค พท.ทยอยเปิดเหตุผลที่เราไม่สามารถไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้ อาทิ แต่งตั้งโยกย้ายเพื่อประโยชน์ส่วนตัวปัดเป่าคดีพวกพ้อง บริหารจัดการน้ำล้มเหลว ใช้งบฯ 4,000 ล้านบาท อุ้ม MotoGP ไม่คุ้มค่า ไม่จริงจังแก้ปัญหาสแกมเมอร์ มุบมิบเซ็น MOU แร่หายาก เสี่ยงทำไทยเสียดินแดนและอีกมากมายที่เตรียมเปิดต่อ ถ้าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ผิดถึงขั้นต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วนายชนินทร์ให้สัมภาษณ์ว่าพรรค พท.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ต้องดูหลายปัจจัยว่าจะยื่นวันไหน เพราะมีประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อยากให้เดินหน้าเต็มที่ เมื่อถามว่าพรรค พท.จะยื่นอภิปรายหรือไม่ นายชนินทร์กล่าวว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกลไกตรวจสอบรัฐบาล เราเห็นความผิดพลาดหลายเรื่องที่รัฐบาลทำแล้ว เมื่อถึงเวลาเหมาะสมเรายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน ใช้เสียง สส. 1 ใน 5 หรือขั้นต่ำ 100 สส.พรรค พท.มีเพียงพอ จะเป็นประเด็นไหนช่วงใดต้องพิจารณาอีกครั้ง ยืนยันเราไม่มีการฮั้วกับพรรค ภท. หลีกเลี่ยงซักฟอกแน่นอน ถ้าจะสงสัยให้สงสัยไปที่พรรค ปชน.มากกว่า มีกระแสข่าวว่าจะยื่นอภิปรายเป็นรายบุคคลเว้นนายกฯ แต่ของเราซักฟอกตัวนายกฯแน่นอนซัด รบ.ถนัดแต่เซ็น MOU ไม่เร่งใช้ ก.ม.นายฉัตริน จันทร์หอม อดีตรองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง ประจำนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลประกาศจับสแกมเมอร์ที่มีเงินหมุนเวียนต่อปีได้ 35,000 ล้านบาท แล้วเกทับว่าทำได้ดีกว่ารัฐบาลก่อนหน้าที่ทำได้แค่ 14,500 ล้านบาทว่า มูลค่าความเสียหายที่ลดลง ไม่ใช่แค่เอายอดเงินหมุนในบัญชีม้ามานับโชว์ ต้องเทียบที่ความเสียหายของประชาชน ถามง่ายๆช่วงไหนที่คุณได้รับ SMS หลอก หรือสายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์น้อยที่สุด ก่อนรัฐบาลเพื่อไทย ระหว่างรัฐบาลเพื่อไทยหรือหลังจากนั้น คำตอบชัดอยู่แล้วครับ พอเรื่องนี้เป็นกระแสรัฐบาลออกมาขึงขังเซ็น MOU อย่างยิ่งใหญ่ วันที่ 10 พ.ย. จะบินไป อ.แม่สอด ส่งคนอินเดียที่ลักลอบเข้าเมืองกลับประเทศ ถ้าท่านไม่บินไป เขากลับเองได้ รัฐบาลนี้ถนัดเซ็น MOU และ MOA แต่ผลงานจริงยังไม่เห็นสินบน 40 ล้าน “ไชยชนก” เงียบกริบนายฉัตรินกล่าวอีกว่า ที่เห็นสานต่อจากรัฐบาลที่แล้วคือการประชุมตำรวจอาเซียนเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการปราบสแกมเมอร์ของภูมิภาค แต่สแกมเมอร์ที่เสนอเงิน 40 ล้านบาทให้นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี ยังไม่ถูกดำเนินคดีใดๆทั้งที่เกินเส้นตายมานานแล้ว ยังไม่มีการยึดทรัพย์และดำเนินคดีกับเครือข่ายสแกมเมอร์ที่ทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน หรือแม้แต่กัมพูชาก็ไม่ดำเนินการ ทำให้ไทยกลายเป็นตัวตลกในสายตาโลก ยังช้ากับการออกกฎหมายลูก และไม่บังคับใช้ พ.ร.ก.กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่รัฐบาลพท.ทำไว้ เพื่อนำเงินมาคืนผู้เป็นเหยื่อ ดังนั้นรัฐบาลอย่าเพิ่งรีบอวดผลงาน เพราะยังมีผู้เสียหายอยู่ทุกวันกมธ.เมินเกมจับ รธน.เป็นตัวประกันนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. ประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย.กมธ.จะลงมติจะใช้กลไกยกร่างรัฐธรรมนูญลักษณะใด แต่องค์ประชุมไม่ครบจากหลายปัจจัย แต่มั่นใจว่า การประชุม กมธ. วันที่ 12 พ.ย.ที่จะลงมติเรื่องกลไกยกร่างรัฐธรรมนูญ จะไม่มีปัญหาเรื่ององค์ประชุม ไม่มี กมธ.คนใดไม่สนับสนุนการปลดล็อกรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าจะพิจารณาเสร็จในเดือน พ.ย.แน่นอน ความกังวลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาร่วมกัน ไม่ให้มีประเด็นใดสุ่มเสี่ยงผิดคำวินิจฉัย หรือถูกร้องภายหลัง จะปิดช่องความสุ่มเสี่ยงทั้งหมด ส่วนการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ กมธ.ไม่สามารถกำหนดได้ เป็นเรื่องรัฐบาลหรือสภา แต่ กมธ.จะทำงานให้เสร็จเดือน พ.ย. หากจะเปิดสมัยประชุมวิสามัญเป็นไปได้ตั้งแต่เดือนพ.ย.หรือต้น ธ.ค. จะทำหน้าที่ กมธ.ให้สมบูรณ์สุด ไม่มีข้อขัดแย้งที่ไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จได้ กมธ.ไม่นำประเด็นอื่นๆเป็นข้อกังวล เช่น การยุบสภา หรือใช้รัฐธรรมนูญเป็นตัวประกันให้ส่งผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ“ภราดร” ยัน รบ.เยียวยาน้ำท่วมเร็วแน่นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย เน้นย้ำการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ครม.อนุมัติจ่ายเงินเยียวยาแล้วกว่า 6 แสนหลังคาเรือน 6 พันกว่าล้านบาท กำลังจะพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพิ่มเติม กรณีน้ำท่วมขังบ้านเรือนนาน 30 วัน 60 วัน และ 90 วัน รวม 17 จังหวัด จำนวน 124,430 ครัวเรือน วงเงิน 463,870,000 บาท กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะเป็นหน่วยรับงบฯ และจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยผ่านธนาคารต่อไป สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) รายงานให้ทราบถึงภาพรวมการ บริหารจัดการน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ ต้องสอดคล้องกัน พร้อมประเมินผลกระทบอย่างรอบคอบทุกด้าน ส่วนมวลน้ำที่ระบายจากเขื่อนภูมิพล จะไม่ทำให้ระดับน้ำสูงสุดในเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น เขื่อนสิริกิติ์ยังมีพื้นที่กักเก็บน้ำเพียงพอรองรับปริมาณน้ำหลากจากพื้นที่ด้านเหนือเขื่อนได้อีก“ธรรมนัส” ขน รมต.กธ.ลุยสุไหงโก–ลกเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ลานคนเดินสนามกีฬามหาราช เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) ลงพื้นที่เปิดโครงการเร่งรัดผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมว ควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สนองพระปณิธาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ มีรัฐมนตรีพรรค กธ.ทั้งหมด 5 คน ร่วมลงพื้นที่ด้วย อาทิ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ นายอัครา พรหมเผ่า รมว.การพัฒนาสังคมฯ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.การท่องเที่ยวฯ และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รมช.เกษตรฯ มีนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส พรรค กธ. และนางสาลีฮะ มะยูโซ๊ะ นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก ต้อนรับ ท่ามกลางประชาชนมารอต้อนรับแน่นลานสนามกีฬา โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงภารกิจราชการ แต่มาฟังประชาชนจริงๆ นี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีรัฐมนตรีลงพื้นที่สุไหงโก-ลกพร้อมกันถึง 5 คน ประชาชนจะได้เห็นโครงการต่างๆเกิดขึ้นจริง ทั้งที่ดินทำกินเกษตร การศึกษา การพัฒนาสังคมและการท่องเที่ยว ขอยืนยันว่าทุกปัญหาที่พี่น้องสะท้อนมาจะถูกสั่งการและแก้ไขทันทีลั่นทำให้กลับมาเป็นเมืองท่องเที่ยวร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เรื่องการศึกษา นางนฤมลจะช่วยผลักดันการเรียนรู้และอาชีพในพื้นที่ นายอัคราดูแลพี่น้องกลุ่มเปราะบาง การท่องเที่ยวตนกำกับการท่องเที่ยวและกีฬา และเป็นประธานบอร์ดบริหารกองทุนกีฬา ได้คุยกับพี่น้องไว้แล้วว่าวันที่ 31 ธ.ค. นายอรรถกรจะมาร่วม Countdown กับพี่น้องชาวสุไหงโก-ลก ส่งเสริมให้สุไหงโก-ลก สุคิรินและพื้นที่ชายแดนอื่นๆ กลับมามีชีวิตชีวา ทำให้โกลกกลับมาเป็นเมืองท่องเที่ยวชายแดนที่คึกคักอีกครั้งชูนราธิวาสโมเดลต้นแบบพัฒนาต่อมาเวลา 12.00 น. ที่ลานคนเดิน สนามกีฬามหาราช เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์ถึงการขับเคลื่อนพัฒนา “นราธิวาสโมเดล” ว่า “นราธิวาสโมเดล” จะเป็นรูปแบบบูรณาการทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นราธิวาสเป็นสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งพี่น้องชาวไทยมุสลิม คนจีนและคนไทยพุทธ อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ตนโตมาจากที่นี่ พยายามแก้ปัญหาให้ชาวนราธิวาสมาตลอด ที่ผ่านมาเราขาดอำนาจขับเคลื่อน แต่วันนี้ ครม.มอบหมายให้ดูแลการบริหารจัดการพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นราธิวาสถือเป็นบ้าน ตั้งใจใช้จังหวัดนี้เป็นศูนย์กลางขับเคลื่อน งานทุกมิติ จะตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนา จ.นราธิวาส ครอบคลุมทุกด้านทั้งสวัสดิการทางสังคม การศึกษา การท่องเที่ยวและการเกษตร มอบหมายให้นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รมช.เกษตรฯ คนนราธิวาส ทำหน้าที่ประธานขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ชาวนราธิวาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จะใช้บ้านเกิดเป็นต้นแบบการพัฒนา เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกันให้ยั่งยืนแท้จริงโพลภาคเหนือ “เท้ง” นำ “หนู”ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ “กระแสการเมือง ภาคเหนือ” สำรวจเมื่อวันที่ 30 ต.ค.-4 พ.ย. จากผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคเหนือ 17 จังหวัด พบว่าบุคคลที่คนเหนือจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ วันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 36.60 ระบุยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 21.50 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (พรรค ปชน.) อันดับ 3 ร้อยละ 13.90 ระบุว่าเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรค ภท.) อันดับ 4 ร้อยละ 5.90 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรค ปชป.) อันดับ 5 ร้อยละ 4.15 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรค ทสท.) ส่วนพรรคที่คนเหนือจะสนับสนุน ร้อยละ 28.40 ระบุยังหาพรรคที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 28.10 พรรค ปชน. อันดับ 3 ร้อยละ 16.60 พรรค พท. อันดับ 4 ร้อยละ 10.40 พรรค ภท. อันดับ 5 ร้อยละ 5.15 พรรค ปชป.คนไทยพร้อม ลต.แต่หวั่นวุ่นซ้ำรอยอดีตขณะที่ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง” กลุ่มตัวอย่าง 1,174 คน เมื่อวันที่ 4-7 พ.ย. กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 69 ร้อยละ 56.81 มองว่าการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นอาจเกิดความขัดแย้งหรือการเมืองซ้ำรอยเดิม ร้อยละ 53.15 อยากเห็นพรรคการเมืองเตรียมทีมงานมืออาชีพพร้อมทำงานจริงหลังการเลือกตั้ง ร้อยละ 56.39 โดยพรรคที่มองว่ามีความพร้อมรับศึกเลือกตั้งมากที่สุด คือ พรรค ปชน. ร้อยละ 18.99 รองลงมาคือ ภท.ร้อยละ 16.87 และ พท. ร้อยละ 15.25น.ส.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพลกล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่พร้อมเลือกตั้ง แต่ยังมีเงาความไม่ไว้วางใจต่อการเมืองไทยอยู่ไม่น้อย กังวลจะเกิดสถานการณ์ซ้ำรอยเหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมา จึงอยากเห็นกติกาและระบบเลือกตั้งที่ยุติธรรม เคารพเสียงของประชาชนแท้จริง ทั้งนี้พรรคการเมืองควรจัดทัพเตรียมบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ พร้อมทำงานจริงหลังการเลือกตั้ง และพิสูจน์ให้ได้ว่าพร้อมจริง ไม่ใช่แค่คำพูดทภ.2 เร่งสร้างหลุมหลบภัย 256 แห่งพล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างฐานที่มั่นกำบัง (หลุมบุคคลคู่) ภายใต้โครงการ “กองทุนหทัยทิพย์” ของมูลนิธิจุฬาภรณ์ ที่ฐานปฏิบัติการแดนไกล ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังเกิดการปะทะในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนหน้านี้กำลังพลไทยเสี่ยง ไม่มีที่กำบัง ทำให้ทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตถูกโดรนโจมตี โครงการนี้เป็นความร่วมมือของกองทัพภาคที่ 2 และกองกำลังสุรนารี เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้แก่กำลังพล และประชาชนตามแนวชายแดน ปัจจุบันก่อสร้างหลุมบุคคลคู่ 256 แห่ง และหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน 7 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ จ.อุบล ราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์และบุรีรัมย์ สร้างฐานที่มั่นกำบังในพื้นที่เสี่ยงหรือบังเกอร์สำคัญในการปกป้องชีวิตนักรบชายแดน ขอบคุณทุกภาคส่วนที่สนับสนุนโครงการกองทุนหทัยทิพย์ ที่ช่วยให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจมากยิ่งขึ้น“บิ๊กเล็ก” สาบานเปล่าสั่ง “บิ๊กกุ้ง” หยุดยิงนายวันวิชิต บุญโปรง ที่ปรึกษา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหมโพสต์เฟซบุ๊กว่า ใครสั่งหยุดยิง จะขอชี้แจงตรงนี้ ตอนนี้กำลังขบวนการตัดต่อคลิป พยายามบ่งชี้ว่า “ใครสั่งแม่ทัพกุ้งหยุดยิง” เป็นการดิสเครดิตทำให้ดูเหมือนว่ารัฐมนตรีกลาโหมเกี่ยวข้อง โดยนายวันวิชิตไล่เรียงบทสนทนากับ รมว.กลาโหม จนถึงช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ถูกทาบทามเป็นที่ปรึกษา รมว.กลาโหม ตรงกับคลิปในกระแสที่กำลังสัมภาษณ์แม่ทัพพี่กุ้ง ผมเรียนถามท่านว่า “การเจรจาหยุดยิงเที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค.พี่ได้โทร..ไปหาพี่กุ้งมั้ยครับ” พล.อ.ณัฐพลบอก “พี่ตอบอาจารย์จริงๆนะ พี่สาบาน พี่ไม่เคยโทร.ไปหรือสั่งการใดๆกับกุ้ง หรือแม้แต่ ผบ.ทบ.เลย พี่เป็นทหารทำไมจะไม่รู้” ผมบอก “ถ้าอย่างนั้นเป็นคุณ....ใช่มั้ยครับ” พล.อ.ณัฐพลบอก “พี่ไม่ก้าวล่วง และเข้าไม่ถึง...ด้วย” ผมจึงบอก “ครับ งั้นผมน่าจะเข้าใจแล้วว่าใคร ขอคิดเองคนเดียวนะครับ ถ้าเป็นอย่างนี้ผมยินดีเข้าร่วมทำงานกับพี่ครับ”“บิ๊กดุลย์” ปัดไทยถูกกดดันปล่อยเชลยที่ จ.ฉะเชิงเทรา พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลของประชาชนในพื้นที่ปราสาทตาควายว่า เป็นผลจากการตกลงให้คำประกาศความสัมพันธ์ฯ เมื่อสงครามยุติใครครอบครองตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น พื้นที่ปราสาทตาเมือนและพื้นที่อื่นๆเราครอบครองไว้ได้หมด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการปฏิบัติตาม 4 ข้อตกลงในเฟสที่ 1 คลิปขัดขวางทหารไทย เป็นปกติของกำลังทหารที่ใกล้กัน ทุกฝ่ายต่างหวงแหนดินแดน ตั้งแต่รับราชการปี 53 มา อธิปไตยไทยอยู่ในอัตราส่วนแผนที่ 1:50,000 ส่วนการปล่อยตัว 18 เฉลยศึกกัมพูชาในวันที่ 12 พ.ย. คณะผู้แทน AOT และ 2 รัฐบาลจะประเมิน หากปฏิบัติตามกรอบ ไม่เหตุผลต้องคุมตัวไว้ ยืนยันทั้งสหรัฐฯและมาเลเซียไม่ได้กดดันให้ไทยปล่อยเชลยศึก บางรายไม่อยากกลับ เพราะอยู่ในประเทศไทยแล้วมีความสุข ก่อนส่งตัวกลับอาจจะให้สัมภาษณ์ จึงอยากขอให้สื่อได้ถามว่าอยู่ในไทยแล้วสบายอย่างไร ปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติหรือไม่อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่