คนไทยงงกันทั้งประเทศ เมื่อ นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล บินไปลงนาม ข้อตกลงสันติภาพไทย-กัมพูชา โดยมี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อุตส่าห์บินข้ามโลกมาร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน ได้แอบลงนามใน “MOU การลงทุนในแร่หายาก (Rare Earth) ไทยกับสหรัฐฯ” กับประธานาธิบดีทรัมป์ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยไม่บอกคนไทยสักคำคนไทยรู้ความจริงเมื่อ ทรัมป์ โพสต์ลง Truth Social ว่า “ขอขอบคุณราชอาณาจักรไทย-พันธมิตรที่แท้จริงในการร่วมสร้างความมั่นคงด้านแร่ธาตุสำคัญ เพื่อโลกที่สะอาดและเสรี เรากำลังร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและสันติภาพทั่วทั้งเอเชีย”ทำเนียบขาว ก็เปิดเผย MOU ฉบับนี้ในวันอาทิตย์เช่นเดียวกันว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯไทย ได้ลงนาม “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการกระจายห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญทั่วโลกและส่งเสริมการลงทุน” และได้เปิดเผยรายละเอียดในเอ็มโอยูทั้งหมด เนื้อหาสำคัญในเอ็มโอยูฉบับนี้ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ความเชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของภาคแร่ธาตุสำคัญของไทย ช่วยประเทศไทยวิเคราะห์ฐานทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งยังระบุชัดเจนว่า ผู้เข้าร่วมทั้งสอง (ไทย-สหรัฐฯ) จะได้รับสิทธิพิจารณาการลงทุนก่อนข้อมูลแร่หายากที่คนไทยไม่รู้เลยในวันนี้ก็คือ ประเทศไทยมีแร่หายากสำรองถึง 4,500 ล้านตัน มากเป็นอันดับ 12 ของโลก ประเทศที่มีแร่หายากสำรองมากที่สุดคือ จีน 44 ล้านล้านตัน รองมา บราซิล 21 ล้านล้านตัน อินเดีย 6.9 ล้านล้านตัน ปี 2567 ไทยผลิตแร่หายากได้ถึง 13,000 ตัน มากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจาก จีน สหรัฐฯ และเมียนมาแร่หายาก (Rare Earth) เป็น กลุ่มโลหะหนัก 17 ชนิด ที่ผสมอยู่ในเนื้อหินเกือบทุกชนิด ที่ถูกเรียกว่า “แร่หายาก” มาจาก “ความยากในการสกัดให้เป็นโลหะบริสุทธิ์” ปัจจุบันแร่หายากถูกจัดเป็นแร่ธาตุสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ เป็นวัตถุดิบต้นนํ้าที่สำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง ซึ่งจำเป็นต่อ อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอาวุธ ขีปนาวุธนำวิถี พลังงานหมุนเวียน การแสดงผลจอแบน เลเซอร์ ไฟเบอร์ออปติก เซลล์เชื้อเพลิงแบบโซลิดสเตต แบตเตอรี่โซลิดสเตต การระบายความร้อนด้วยแม่เหล็ก การกักเก็บไฮโดรเจน ไปจนถึง ไดรฟ์บันทึกข้อมูล ไมโครโฟนในโทรศัพท์มือถือ แร่หายากจึงสำคัญอย่างยิ่งจีนเป็นผู้ผลิตแร่หายาก 90% ของโลก ตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมาจีนจำกัดการส่งออกแร่หายาก 12 ชนิด ใน 17 ชนิด เพื่อทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนแร่หายากไปทั่วโลก ส่งผลให้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องยอมจำนนเลิกการขึ้นภาษีจีนอีก 100%ข้อมูลจาก กรมทรัพยากรธรณีไทย ระบุว่า ปี 2566 ไทยพบแร่หายากกว่า 40 ชนิด กระจายตัวด้านตะวันตกของประเทศตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงภาคใต้ เช่น เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ อุทัยธานี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี ส่วนใหญ่พบใน แหล่งลานแร่ดีบุกเกือบทุกแห่ง ปัจจุบันมีบริษัทแคนาดาเข้ามาตั้งโรงงานสกัดในจังหวัดนครราชสีมา เป็นฐานผลิตแม่เหล็กถาวรแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้มีบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาตั้งโรงงานในไทยจำนวนมากแต่ “ฝันร้าย” ที่จะมารับ “แร่หายาก” ก็คือ “สารพิษ” ซึ่งคนไทยได้ประสบมาแล้ว สารพิษจากเหมืองแร่หายากในรัฐฉานของเมียนมา ที่ไหลมาลง แม่นํ้ากก แม่นํ้าสาย ทำให้มี “สารหนู” เกินมาตรฐาน สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศและสุขภาพของคนไทย ปัจจุบัน รัฐฉานมีเหมืองแร่หายากเพิ่มเป็น 26 แห่ง โดยใช้วิธีฉีดสารเคมีลงใต้ดินเพื่อให้แร่ละลายเรื่องนี้เป็นคำถามข้อใหญ่ถึง นายกฯอนุทิน และ พรรคภูมิใจไทย ทำไมต้องปกปิดคนไทย มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงหรือไม่ ถ้าสหรัฐฯไม่เปิดเผยคนไทยคงไม่รู้.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม