วงสุดยอดผู้นำอาเซียนร่วมรับรองเอกสาร 16 ฉบับ-แก้ไขข้อตกลงการค้าอาเซียน (ATIGA) ฉบับที่ 2 “อนุทิน” โชว์วิชันผนึกชาติอาเซียนปราบอาชญากรรมไซเบอร์-พัฒนาเศรษฐกิจ-เสริมสร้างสันติภาพเสถียรภาพในภูมิภาค “โดนัลด์ ทรัมป์-อันวาร์” สักขีพยาน ไทย-กัมพูชาลงนามข้อตกลงสันติภาพ ถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดนกลับที่ตั้ง เลิกปั่นโซเชียลยั่วยุ ฟื้นฟูสัมพันธ์การทูต เก็บกู้ทุ่นระเบิด ร่วมกันแก้อาชญากรรมข้ามชาติ นายกฯตั้งเงื่อนไขเขมรต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขก่อน มั่นใจไม่กล้าบิดพลิ้ว เลขาฯยูเอ็นหนุนแก้ปัญหาสันติ “ทรัมป์” ชื่นชมนายกฯไทย-กัมพูชา ตอบรับในหลักการมาเยือนไทย งัดข้อตกลงการค้าเป็นหลักประกัน “จาตุรนต์” ตัวเต็งหัวหน้าพรรคแย้ม “ชลน่าน” 1 ในแคนดิเดตนายกฯที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 47 ร่วมลงนามรับรองเอกสารจำนวน 16 ฉบับ ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯไทย และนายฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา ลงนามถ้อยแถลงข้อตกลงสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา มีเงื่อนไขสำคัญให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอนอาวุธหนัก และอาวุธร้ายแรงออกจากพื้นที่พรมแดน“อนุทิน” ยันข้อตกลงไม่เสียเปรียบเมื่อเวลา 07.40 น.วันที่ 26 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊กจากประเทศมาเลเซีย ก่อนลงนามประกาศสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มีเนื้อหาสรุปว่า ช่วงสายนี้จะมีการลงนามในปฏิญญาหาแนวทางการเจรจาและปฏิบัติเพื่อนำไปสู่สันติภาพของประเทศไทยและกัมพูชา ที่มีความห่วงกังวลว่าจะทำให้ไทยเสียเปรียบหรือไม่ ยืนยันว่าในปฏิญญาที่เราจะลงนามไม่มีข้อไหนที่ทำให้ไทยเสียเปรียบ และปฏิญญานี้ไม่ใช่สนธิสัญญา ไม่จำเป็นต้องไปขอการรับรองจากรัฐสภา แต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้การรับรองเรียบร้อยแล้ว มี 4 หัวข้อหลักที่กัมพูชาต้องดำเนินการ คือ 1.การถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดน 2.เก็บกู้วัตถุระเบิด 3.การร่วมมือกันปราบปรามอาชญากรรมสแกมเมอร์หรืออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ 4.หาแนวทางบริหารพื้นที่ทับซ้อนร่วมกันไม่ให้เกิดปัญหา ทั้ง 4 ข้อต้องเริ่มจากกัมพูชาก่อน เราถึงมาประเมินแล้วดำเนินการต่อไป แต่ยังไม่มีเรื่องเปิดด่านลั่นไม่ต้องการเป็นศัตรูกับใครนายอนุทินกล่าวอีกว่า เราไม่ต้องการเป็นศัตรูกับใคร สิ่งที่ประเทศไทยปฏิบัติมาตลอดยังยึดมั่นอยู่ในกรอบนี้ ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบเราไม่เคยขลาด ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่ารัฐบาลไทย กองทัพไทย ข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ เราทำงานหนักกว่าจะมาถึงจุดนี้ ตนไม่ได้มองเรื่องการเสียเปรียบได้เปรียบ แต่มองในเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ทำให้ไทยรักษาเกียรติภูมิ รักษาอธิปไตย และรักษาดินแดนของเราไว้ได้ มั่นใจว่าเราต้องมีชัย และจะทำให้ดีที่สุดเพื่อประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรา ถือพี่น้องประชาชนเสมือนเป็นผู้บังคับบัญชา เป็นเจ้านายของตนตลอดเวลาเลขาฯยูเอ็นหนุนแก้ปัญหาสันติต่อมาเวลา 09.35 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงกัวลาลัมเปอร์ เร็วกว่ากรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง) ที่ห้อง 3 Hall 7A ชั้น 3 ศูนย์ประชุม KLCC กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย หารือทวิภาคีกับนายอันโตนิอู มานูแอล เดอ โอลิไวรา กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือว่า นายอนุทินได้กล่าวถึงการลงนามถ้อยแถลง ผลการหารือกับนายกฯกัมพูชา เป็นการยืนยันว่าไทยต้องการสันติในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน และต้องปกป้องอธิปไตย ขณะที่เลขาธิการสหประชาชาติแสดงความเห็นสนับสนุนและเห็นพ้องว่า เขตแดนเป็นประเด็นซับซ้อน ทุกฝ่ายควรใช้วิถีทางสันติ ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับสถานการณ์เมียนมา เลขาธิการสหประชาชาติยังแสดงความเข้าใจดีว่าไทยในฐานะเพื่อนบ้านใกล้ชิดจะมีมุมมองและให้ความสำคัญเป็นพิเศษจับมืออาเซียนปราบแก๊งสแกมจากนั้นเวลา 11.00 น. ที่ Conference Hall 2 ชั้น 3 ศูนย์ประชุม Kuala Lumpur Convention Centre (KLCC) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 แบบเต็มคณะ (Plenary) มีผู้นำและผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน เลขาธิการอาเซียน นายกฯแคนาดา นายกฯสหราชอาณาจักร ประธานคณะมนตรียุโรป และกรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เข้าร่วม นายอนุทินกล่าวถ้อยแถลงมีเนื้อหาโดยสรุปว่า ขอบคุณนายกฯมาเลเซียสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น ไทยพร้อมทำงานร่วมกับประเทศสมาชิก เพื่อผลักดันประโยชน์ที่แท้จริงสู่ประชาชน ขอเน้นย้ำ 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่ 1.การสร้างประชาคมอาเซียนที่มั่นคงปลอดภัยสำหรับประชาชน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนขึ้น ความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนขึ้นอยู่กับความสามารถรับมือภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ทั้งอาชญากรรมไซเบอร์ การหลอกลวงออนไลน์ และการค้ามนุษย์ ไทยพร้อมทำงานกับประเทศสมาชิกอย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือร่วมกันที่ประชุมรับรองเอกสาร 16 ฉบับนายอนุทินกล่าวต่อว่า 2.การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและยั่งยืน ผ่านการบูรณาการทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มดิจิทัล เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ ยินดีที่อาเซียนสามารถลงนามในความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ASEAN Trade in Goods Agree ment : ATIGA) ฉบับปรับปรุง และความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ฉบับที่ 3 ได้ในระหว่างการประชุมสุดยอดครั้งนี้ และ 3.การเสริมสร้างสันติภาพและเสถียรภาพ ยึดมั่นต่อระบบที่ตั้งอยู่บนกฎเกณฑ์ เพื่อรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค และยินดีต่อความสำเร็จในการเป็นประธานอาเซียนของมาเลเซียในปีนี้ และพร้อมสนับสนุนฟิลิปปินส์ในการเป็นประธานอาเซียนปีหน้า เป็นปีที่อาเซียนจะขับเคลื่อน “วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ.2045” ร่วมกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 แบบเต็มคณะ ที่ประชุมได้ร่วมกันรับรองเอกสารการประชุมสุดยอดอาเซียน จำนวน 16 ฉบับ และมาเลเซียได้ออกแถลงการณ์ของประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 (Chairman’s Statement of the 47th ASEAN Summit) จำนวน 1 ฉบับ หลังจากนั้น ผู้นำอาเซียนได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีส่งมอบสารแก้ไขความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) ฉบับที่ 2“อันวาร์” ชื่นชมผู้นำไทยกล้าหาญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นประธานเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ ได้กล่าวต้อนรับผู้นำอาเซียนทุกประเทศ ช่วงหนึ่งนายอันวาร์กล่าวขอบคุณนายกฯไทย ในฐานะผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และกล้าหาญในการผลักดันสันติภาพชายแดนด้วยวิถีทางการทูต จนนำไปสู่การลงนาม Joint Declaration ที่จะนำไปสู่สันติภาพไทย-กัมพูชา การลงนามฯของไทยและกัมพูชาจะทำให้ประชาคมโลกได้เห็นว่าสันติวิธีของอาเซียน นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม เพราะสันติภาพคือพลังแห่งความกล้าหาญ ที่ทำให้แต่ละชาติสามารถกำหนดอนาคตของตนเองได้ไทย-กัมพูชาลงนามละเว้นใช้กำลังต่อมานายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย และนายฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา ลงนามถ้อยแถลงผลการพบหารือระหว่างกันจำนวน 8 ข้อ มีเนื้อหาสรุปว่า พวกเรายืนยันความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ต่อสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างสองประเทศ ตามที่ได้ประกาศไว้ที่เมืองปุตราจายา มาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. มุ่งมั่นละเว้นการคุกคามหรือใช้กำลัง แก้ไขข้อพิพาทโดยสันติ พวกเรายืนยันความมุ่งมั่นอย่างหนักแน่นในการยึดมั่น และดำเนินการตามข้อตกลงที่ได้บรรลุร่วมกัน ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป และได้ลงนามในเอกสารขอบเขตการจัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team : AOT) ที่ประกอบด้วยบุคลากรจากรัฐสมาชิกอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงได้รับการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์ และได้ให้คำมั่นที่จะลดความตึงเครียด ฟื้นฟูความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันเดินหน้าฟื้นฟูสัมพันธ์การทูตถ้อยแถลงยังมีเนื้อหาอีกว่า เพื่อบรรลุและสนับสนุนเป้าหมายเหล่านี้ พวกเราได้ตกลงในขั้นตอนดังต่อไปนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อตกลงหยุดยิงจะได้รับการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์ และเพื่อฟื้นฟูสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน จะลดความตึงเครียดทางการทหารภายใต้การสังเกตการณ์และการยืนยันตรวจสอบโดย AOT รวมถึงการถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดน กลับไปยังที่ตั้งปกติ จะมอบหมายให้คณะทำงานของแต่ละฝ่ายร่วมกันหารือเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปเรื่องการจัดทำแผนปฏิบัติการที่ปฏิบัติได้ และเป็นขั้นตอนภายใต้การสังเกตการณ์โดยคณะผู้สังเกตการณ์การหยุดยิงชั่วคราว (IOT) ละเว้นการเผยแพร่หรือส่งเสริมการใช้ข้อมูลเท็จ และวาทกรรมที่สร้างความเสียหาย เพื่อลดความตึงเครียด และเห็นพ้องดำเนินมาตรการสร้างความเชื่อมั่นในทันทีและเต็มรูปแบบ เพื่อฟื้นฟูและรักษาความเชื่อมั่นความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพื่อแก้ไขความแตกต่างอย่างสันติ ร่วมมือเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ ประสานงานและดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ชายแดนตามที่ได้ตกลงกันในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างสองประเทศใช้กลไกที่มีอย่างมีประสิทธิภาพยืนยันความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนและการจัดทำหลักเขตแดน ละเว้นการคุกคามหรือใช้กำลัง หรือการกระทำที่เป็นการยั่วยุใดๆ ผ่านสันติวิธีและกฎหมายระหว่างประเทศ และตระหนักว่าคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เป็นกลไกทวิภาคีสำหรับการทำงานร่วมกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชายแดนอย่างสันติ เมื่อมีการดำเนินการตามมาตรการข้างต้นอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะยอมรับว่าเป็นการสิ้นสุดการเป็นปรปักษ์ที่ดำเนินอยู่ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการส่งเสริมความเชื่อมั่นและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไทยจะดำเนินการปล่อยเชลยศึกโดยพลันร่วมกันแก้อาชญากรรมข้ามชาติพวกเราตกลงเพิ่มพูนความร่วมมือ การแบ่งปันข้อมูล และการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งของการตรวจสอบควบคุมตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพลเมืองทั้งสองประเทศ และประชาคมระหว่างประเทศ พวกเราตระหนักถึงความจำเป็นในการวางแนวทางเพื่ออนาคตที่สดใสที่ไม่ยึดติดกับความขัดแย้งในอดีต และรัฐบาลทั้งสองฝ่ายยืนยันความมุ่งมั่นในการแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ โดยเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญา และความตกลงที่มีอยู่ พวกเราแสดงความเชื่อมั่นว่าการหารือครั้งนี้ มีประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย เข้าร่วมและให้การสนับสนุน เป็นรากฐานที่มั่นคงต่อความเคารพซึ่งกันและกัน พวกเรารับทราบด้วยความขอบคุณอย่างยิ่ง“ทรัมป์” ชื่นชมนายกฯไทย–กัมพูชานายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ยกย่องนายกฯทั้งสองประเทศที่ให้การตอบรับการเจรจา และหยุดยิงทันที เพื่อลดการสูญเสียชีวิต พร้อมขอบคุณนายกฯมาเลเซียที่เป็นตัวกลางครั้งนี้ ขณะที่นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้เป็นหมุดหมายบทใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นการก้าวเดินอย่างเป็นรูปธรรมไปสู่สันติภาพ ขอบคุณนายกฯ มาเลเซียที่แสดงบทบาทนำในฐานะประธานอาเซียน และพยายามอย่างแข็งขันในการธำรงไว้ซึ่งความเป็นเอกภาพของอาเซียน พร้อมแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อส่งเสริมสันติภาพระหว่างทั้งสองประเทศ และเชิญชวนมิตรประเทศร่วมกันสนับสนุนกระบวนการนี้ เพื่อให้การดำเนินการตามถ้อยแถลงเป็นไปอย่างครบถ้วนและจริงใจ“อนุทิน” ชี้บรรยากาศเป็นไปด้วยดีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังลงนามถ้อยแถลงว่า บรรยากาศไปในทางที่ดี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีส่วนเกี่ยวข้องลงไปในรายละเอียด ถือว่าทุกฝ่ายช่วยกันที่ต้องการสร้างสันติภาพ มันมีความคุ้มค่ามากกว่าการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ส่วนตัวมีโอกาสคุยกับ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และได้ยืนยันว่าเราจะปฏิบัติตามแนวทางข้อตกลงที่เราได้ลงนามร่วมกันไว้ ถือว่าเป็นข้อปฏิบัติที่จะนำไปสู่การบริหารจัดการความขัดแย้งให้ลดระดับลงมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างขั้นตอนการร่วมลงนาม นายอนุทินสลับที่นั่งกับนายฮุน มาเนต เพื่อไปนั่งข้างนายทรัมป์ และแลกเอกสารการลงนามระหว่างกัน ก่อนที่ทางเจ้าภาพพูดทักขึ้นมาว่าป้ายประเทศ Thailand-Cambodia ไม่ได้สลับไปด้วย ทำให้นายอนุทินลุกมาจับป้ายพลิกดูชื่อและหยิบไปวางสลับให้ถูกต้องอารมณ์ดี จนนายทรัมป์หันมาหัวเราะพร้อมแซวนายอนุทินว่า “That’s a good move” (คล่องแคล่วมาก)เขมรต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขก่อนกระทั่งเวลา 15.15 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง นายอนุทินให้สัมภาษณ์หลังเดินทางกลับจากมาเลเซียว่า เรื่องการเคลียร์พื้นที่ชายแดนฝ่ายกองทัพมีการประสานงานกันอยู่ ทราบว่าจะดำเนินการทันที ให้ไปถามรองเสนาธิการที่เป็นหัวหน้าทีมเจรจา เมื่อถามว่ามีโอกาสพูดคุยกับนายฮุน มาเนตสองต่อสองแบบเปิดใจหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันแบบสองต่อสอง แต่หลังจากนี้คิดว่าคงพูดคุยกันมากขึ้น แต่ละฝ่ายต้องพยายามปฏิบัติเพื่อนำไปสู่การยกระดับให้เกิดสันติภาพเร็วที่สุด เมื่อถามว่าขณะนี้ถือว่าเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้วหรือยัง นายอนุทินตอบว่า ยัง ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ ในปฏิญญาและจากการพูดคุยของทีมเจรจา ยังมีขั้นตอนที่ฝ่ายกัมพูชาต้องเริ่มปฏิบัติเป็นลำดับ ควบคู่กับของไทย ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขก่อนเชื่อกัมพูชาจะไม่กล้าบิดพลิ้วอีกผู้สื่อข่าวถามว่าการลงนามครั้งนี้มั่นใจแค่ไหนว่าจะได้รับการตอบสนองที่ดีจากกัมพูชา นายอนุทินตอบว่า มีสักขีพยาน มีผู้ประสานงาน และเป็นการลงนามในฐานะที่มีการประชุมสูงสุดของอาเซียน นายกฯมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ลงลายมือชื่อในฐานะสักขีพยานด้วย เปรียบเสมือนว่า การบรรลุเงื่อนไขในปฏิญญาครั้งนี้ดำเนินการภายใต้การรับรู้รับทราบของประชาคมอาเซียน รวมถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับรู้ข้อตกลงครั้งนี้ น่าจะเป็น นิมิตหมายที่ดี ถ้าเป็นเราคงไม่กล้าทำอะไรที่นอกเหนือ หรือไม่ปฏิบัติตาม“ทรัมป์” ตอบรับหลักการเยือนไทยนายอนุทินกล่าวอีกว่า มีโอกาสพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ขอให้ช่วยสนับสนุนเรื่องภาษีให้มากกว่านี้ ที่ประเทศไทยให้ความร่วมมือในหลายเรื่องกับสหรัฐอเมริกา อยากให้ช่วยพิจารณาลดภาษีให้มากขึ้น กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงที่เกี่ยวข้องจะหารือ USTR ต่อไป รวมทั้งได้เชิญนายโดนัลด์ ทรัมป์ มาเยือนประเทศไทย เพราะประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ได้มาเยือนไทยประมาณ 10 ปีแล้ว ซึ่งท่านตอบรับในหลักการงัดข้อตกลงการค้าเป็นหลักประกันด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนสหรัฐอเมริกา มีความภูมิใจที่สามารถยุติความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา และสร้างอนาคตในภูมิภาค ทั้ง 2 ประเทศสามารถก้าวต่อไปด้วยความเจริญรุ่งเรืองด้านความมั่นคงและสันติภาพ นอกจากนี้สหรัฐฯจะลงนามข้อตกลงการค้าสำคัญกับกัมพูชาและลงนามข้อตกลงแร่ธาตุกับไทย สหรัฐฯจะร่วมมือกับ 2 ประเทศอย่างดีในด้านการค้าและด้านอื่นๆ ตราบเท่าที่ยังยึดมั่นในข้อตกลงสันติภาพ และสหรัฐฯจำเป็นต้องใช้ข้อตกลงการค้าเป็นหลักประกันให้แน่ใจว่าไทยและกัมพูชาจะไม่เข้าสู่สงครามระหว่างกันอีก“จาตุรนต์” ตัวเต็งหัวหน้าพรรคผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า ในการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ ในวันที่ 31 ต.ค. บรรดา สส.ของพรรคต่างพูดคุยถึงแคนดิเดตผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ จากเดิมมี 2 รายชื่อ คือ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ ที่มีจุดแข็งในเรื่องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ถือเป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายประชาธิปไตย กับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ ที่มีเสียงสนับสนุนในความเป็นคนรุ่นใหม่ ทำงานช่วย น.ส.แพทองธาร ล่าสุดมีการหยิบยกรายชื่อขึ้นมาอีก 2 คน คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ ที่มีความโดดเด่นงานสภาฯ สำหรับรายชื่อที่ได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุด คือนายจาตุรนต์ ที่เหมาะจะมานำพรรคในช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อเรียกคะแนนนิยมกลับคืนมา ส่วน นพ.ชลน่าน สส.บางส่วนเห็นว่าควรให้ไปลุ้นเป็นหนึ่งใน 3 แคนดิเดตนายกฯของพรรคโพลชี้พรรคประชานิยมได้เปรียบขณะที่สวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,216 คน เรื่อง “คนไทยกับนโยบายลดค่าครองชีพ” ระหว่างวันที่ 21-24 ต.ค. พบว่าร้อยละ 76.43 เข้าร่วมโครงการของภาครัฐที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพ คือคนละครึ่ง ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากที่สุด ร้อยละ 78.04 เห็นว่าโครงการเหล่านี้ช่วยแก้ปัญหาปากท้องและลดภาระค่าครองชีพได้ ร้อยละ 69.31 ชอบโครงการคนละครึ่งในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์มากที่สุด ร้อยละ 61.92 อยากได้เพิ่มเติมในระยะยาว คืออยากให้รัฐบาลควบคุมราคาสินค้าให้เหมาะสม ทั้งนี้หากมีการเลือกตั้งร้อยละ 67.43คิดว่าพรรคที่มีนโยบายประชานิยมจะได้เปรียบอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่