เริ่มแปลกหูแปลกตาไปเหมือนกัน กับทีท่าของทั่นผู้นำอย่าง “นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล” จากที่เคยเชี่ยวชาญฝีปากวาทะตอบคำถามสื่อเสียงดังฟังชัด ชักอึกอักยึกยัก พูดอะไรไม่เต็มปากเต็มคำกันมั่งแล้ว สภาวะ “หนูเป็นราชสีห์” ผิดรูป ประเมินกันได้จากที่เห็น เพราะเล่นล้อกระแสสังคมจนแสงเจิดจ้า ถึงเวลาแสงส่องเข้าเผาตัวเองโดยเฉพาะปมร้อนจากชายแดนเขมร ล่าสุดถูกตั้งคำถาม “ซาวด์ผี เสียงหลอน” ที่นักเคลื่อนไหวแสงจ้าอีกราย ขนรถแห่ไปเล่นปั่นประสาทเขมรชายแดนยามดึก จนโดน สว. นักสิทธิมนุษยชนทักท้วง จะเข้าทางเพื่อนบ้านไปร้องโลก รายการนี้จะออกทางใดก็เสี่ยงเสียแต้ม ผู้นำเลยอ้ำอึ้งไปไม่เป็นต้องโยนลูกให้ “กองทัพ” ใช้วิชาตัวเบา “ลอยตัว” เหนือเรื่องร้อนๆบริหารด้วยกระแสจนเจอท่ายาก “ชวนเชื่อ” หนัก ก็ต้องมาพร้อมความคาดหวังและแรงกดดันสูงยิ่งปมร้อนเขม็งเกลียว เสียงเรียกร้องรัฐบาลจัดการให้จบ วันนี้เริ่มถูกทวงถามผลงานในแนวรบด้านเศรษฐกิจ มาตรการกดดันเพื่อจัดการทุนเทาดำ “แก๊งสแกมเมอร์–คอลเซ็นเตอร์” ฝั่งเขมรที่ชักอืดเนือยทั้งที่เป็นเรื่องที่รู้ มีข้อมูลพอสมควรแล้ว จุดอ่อนจุดตายของจิ้งจอกพนมเปญ มีเครือข่ายรับผลประโยชน์น้ำเลี้ยง เอี่ยวขบวนการอาชญากรรมไซเบอร์ เช็กขานชื่อได้สารพัดตัวใหญ่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องที่โลกรู้ จัดให้กัมพูชาเป็นแหล่งแก๊งโจรไซเบอร์เบอร์ต้นหันมาที่ฝั่งไทยที่กลายเป็นคู่อริวันนี้ ผู้นำอย่างนายอนุทินรู้ทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่เรื่องจริงจังปฏิบัติต้องรอพิสูจน์เพราะนาทีนี้ทุกฝ่ายตั้งข้อสงสัยถึงมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจ ฐานอาชญากรรมระดับโลกเข้มข้นเพียงใด เพราะที่เห็นทั้งไฟ–น้ำในกาสิโนฝั่งเขมรก็ยังมีใช้ อินเตอร์เน็ตยังส่งสัญญาณคล่อง ไม่รวมน้ำมัน สินค้าจากฝั่งไทยยังเต็มตลาดเขมรทั้งที่อยู่ในภาวะปิดกั้น มีมาตรการบอยคอตจากไทยจนคนสงสัยรายการนี้มีการหลับตาข้างเดียวเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ปล่อยให้ตัดไฟ แล้วก็ไปต่อให้ใหม่ ตัดอินเตอร์เน็ตแล้วก็ไปเชื่อมให้ ไม่รู้ไม่เห็นรูโหว่ช่องทางส่งออกสินค้าพลังงานให้แก๊งโจรผู้นำต้องสั่งสอดส่องสกัดกั้นจริงจังและพร้อมเพรียงหรือเกรงใจทุนเทาดำ “เขมรต่ำ” หวั่นกระทบ “เขมรสูง” ฝั่งไทยไปมีเอี่ยววันนี้แรงกดดันยิ่งถาโถม เมื่อประเทศมหาอำนาจยื่นมือเข้ามาจัดการ ทั้งทางการสหรัฐอเมริกา โดยกระทรวงยุติธรรมประกาศยึดอายัดทรัพย์สิน ตั้งข้อหาทุนจีนสัญชาติเขมรเป็นตัวเป้ง “ค้ามนุษย์” ลวงเหยื่อไปทำงานในขบวนการสแกมเมอร์หลายพื้นที่พี่เบิ้มเอาจริงไม่พอ รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้เจอแรงกดดันจากประชาชน เรียกร้องให้จัดการปัญหาการหลอกลวงไปทำงานแก๊งโจรไซเบอร์ในกัมพูชา หลังนักศึกษาถูกซ้อมทรมานจนเสียชีวิตกดดันทุกทาง ถึงขั้นขอให้รัฐบาลส่งกองกำลังไปจัดการจะมีก็แต่มหาอำนาจจีนที่แทงกั๊ก ทีท่าเอาจริงปราบคอลเซ็นเตอร์ ไม่เอาสแกมเมอร์ทุนเทานอกรีตทำโชว์เก๋าปราบเข้ม เรียกเสียงฮือฮาแล้วก็นิ่งเฉยยิ่งเมื่อผูกกัมพูชามั่ง–ดีกับไทยมั่ง “มิตรภาพครึ่งศตวรรษ” ถึงยังต้องรอวัดน้ำใสใจจริงขณะที่หันมาที่ประเทศไทยผู้นำยึกยักอึกอักไม่ทราบสาเหตุ ถึงได้ถูกฝ่ายค้านพรรคประชาชนประกาศหา “คนหาย” มีเสียงเอ๊ะ ตั้งข้อสงสัยกับรัฐบาลสารพัดปมในรายการนี้สถานการณ์บีบรัดมาถึงจุดที่มีเสียงเรียกร้องให้ใช้อำนาจ “รัฐบาลเส้นกวยจั๊บ” แก้โจทย์ใหญ่ประเทศเพราะถึงเคลียร์ชายแดนสงบได้ก็เปล่าประโยชน์ ถ้าไม่ล้างบางแก๊งโจรที่พร้อมกลับมาระรานโลกพร้อมกวนโอ๊ยเกเรเพื่อนบ้านได้เสมอและยิ่งไม่เอื้อต่อแต้มบวก แม้รัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาปากท้องฟื้นเศรษฐกิจ ออกสารพัดโครงการอัดฉีดใดๆ ถ้าไม่เอาจริงเอาจัง กดดัน ปราบปรามแก๊งมิจฉาชีพลูกหลานพระยาละแวกหลุดจากธีมภูมิใจไทยที่ขายสโลแกน “พูดแล้วทำ” หากพูดเก่งเป็นรายวันแล้วดีแต่พลิ้วทางปฏิบัติในทางยาวเป้าหมายแผนอำนาจมีโอกาสสะดุดเช่นกัน.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม