“อนุทิน” รูดซิปปากไม่ตอบปมฎีกา “ทักษิณ” ขอพระราชทานอภัยโทษ “รุทธพล” ชงความเห็นส่งกลับไป สลค.แล้ว “สมชาย-เยาวภา” เข้าเยี่ยม ในเรือนจำ ยันอดีตนายกฯหน้าตาสดใส ทำใจได้ รู้ว่าควร อยู่อย่างไร “ธนดล” ทนายความ “เบน สมิท” ยื่นฟ้อง อาญา-แพ่ง เรียก 100 ล้าน “โรม” อภิปรายกล่าวหาเป็นหัวขบวนสแกมเมอร์ ปัดฟ้องปิดปากให้พิสูจน์ความจริงในศาล “รังสิมันต์” โวย “นายกฯหนู” ปล่อย “ผู้กองนัส” ขู่ฟ้องนักการเมืองและสื่อไม่ส่งผลดี ย้อนว่าตนรับงาน แล้วท่านรับงานใครมา จี้ รบ.แก้กฎกระทรวงตามเส้นคริปโตฯสีเทา ปราบแก๊งคอลฯ ให้จริงจัง “หมอเปรม” โวย รมว.ดีอีเมินตอบกระทู้ดีลสินบน 40 ล้าน คาใจทำไม รมต.ไม่แจ้งความเอาผิด “ไชยชนก” ท่องคาถาย้ำพูดเรื่องจริง ขอให้ เชื่อมั่นรอผลสอบ กก.ชุดปลัดดีอีจากกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีต รมว.ยุติธรรม เคยเสนอเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) พิจารณาให้ รมว.ยุติธรรมคนใหม่ ถวายความเห็นประกอบพระราชดำริ ก่อนส่งเรื่องให้ สลค.นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาต่อไปนั้น“อนุทิน” ชิ่งตอบปมฎีกา “ทักษิณ”เมื่อเวลา 16.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่าหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) ครั้งที่ 1/2568 ผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงกรณี พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม ถวายความเห็นประกอบพระราชดำริ เพื่อส่งคืนเรื่องให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณานำความกราบบังคับทูลพระกรุณาตามขั้นตอนในเรื่องที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษแล้วหรือยัง เมื่อนายอนุทินฟังคำถามเสร็จแล้วตอบกลับว่า “วันนี้ประชุมเรื่องน้ำนะครับ เดี๋ยวต้องประชุมอีกหลายเรื่องเลย”พา “ธรรมนัส” ขึ้นตึกไทยฯไหว้นรสิงห์จากนั้นนายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุม แล้วเดินออกจากวงสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวพยายามถามเรื่องฎีกานายทักษิณอีกครั้ง นายอนุทินหยุดฟัง แต่ไม่ได้ตอบอะไร ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ โดยนายอนุทินนำ ร.อ.ธรรมนัสไปไหว้รูปปั้นนรสิงห์จำลอง บนระเบียงชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า“สมชาย–เยาวภา” เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”เมื่อเวลา 09.30 น. ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรมและส่วนของศูนย์บริการเยี่ยมญาติ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ มาประสานการเยี่ยม ต่อมานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ น้องเขยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณมาถึงเรือนจำฯ เดินยกมือไหว้ทักทายกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงรอต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ ก่อนจูงมือกันเดินเข้าด้านในเรือนจำ จากนั้นเวลา 10.10 น. หลังเข้าเยี่ยมทั้งคู่เดินออกมาเปิดเผยว่า นายทักษิณมีกำลังใจดีและเข้าใจในระบบกระบวนการ ไม่ได้ฝากอะไรมาพิเศษ พูดคุยตามประสาพี่น้อง เห็นใจกันที่ต้องมารับเคราะห์แบบนี้ สุขภาพดี ใบหน้าสดใส ทำใจได้ ท่านรู้ว่าควรอยู่ อย่างไร รู้ว่าอยู่แค่ชั่วคราว ฝากขอบคุณคนเสื้อแดงและทุกคนที่มาห่วงใยเยี่ยมเยียนท่าน ไม่ได้พูดเรื่องขออภัยโทษ จากที่เกิดขึ้น เราเข้าใจและเห็นใจไม่ก้าวล่วง ยธ.พิจารณาขออภัยโทษซ้ำนายวิญญัติกล่าวว่า เรื่องยื่นขออภัยโทษครบกำหนด 3 วันที่ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม มอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณาข้อกฎหมายเรื่องที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายเป็นครั้งที่ 2 จะดำเนินการได้หรือไม่ ทราบว่าอยู่ในกระบวนการของกระทรวงยุติธรรม เราไม่ได้ไปก้าวล่วง กรณี รมว.ยธ.ตั้งคณะกรรมการมาดูข้อกฎหมายว่าการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายดำเนินการได้หรือไม่ ไม่มีความเห็น เป็นดุลพินิจ รมว.ยธ. ขอรอฟังผลดีกว่า“รุทธพล” ส่งความเห็นไป สลค.แล้ววันเดียวกัน กระทรวงยุติธรรม เผยแพร่ข่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ปลัดกระทรวงยุติธรรมเสนอเรื่องการพิจารณาให้สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรมและ รมว.ยุติธรรม ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 261 ถวายความเห็นประกอบพระราชดำริ เพื่อส่งคืนเรื่องให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) พิจารณานำความกราบบังคมทูลพระกรุณาตามขั้นตอนต่อไป ในส่วนความเห็นของ รมว.ยุติธรรม ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นเอกสารมีชั้นความลับของทางราชการ จึงไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้“เบน สมิท” ยื่นฟ้องแพ่ง–อาญา “โรม”อีกเรื่อง เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศาลอาญา นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ (ด้านกฎหมาย) ผู้รับมอบอำนาจจากนายเบน สมิท หรือเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ นักธุรกิจชาวต่างชาติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน (ปชน.) ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พร้อมฟ้องแพ่งเรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านบาท นายธนดลกล่าวว่า มายื่นฟ้องหมิ่นประมาทนายรังสิมันต์ กรณีวันที่ 30 ก.ย. อภิปรายในสภา กล่าวหานายเบนเป็นแก๊งสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้เสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง นายเบนทำธุรกิจทั้งในไทยและสิงคโปร์ เป็นนายหน้าขายเรือยอชต์ เครื่องบินและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นายรังสิมันต์อภิปรายไป ทำให้เสียหายจนถูกตรวจสอบอย่างละเอียดที่สิงคโปร์ แต่ยังไม่พบความผิดทั้งในไทยและสิงคโปร์ ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเรียบร้อยนัดไต่สวนวันที่ 24 พ.ย. ข้อสังเกตว่านายเบนใช้ทีมทนายของ ร.อ.ธรรมนัส ร.อ.ธรรมนัสและนายเบนรู้จักกันผ่านนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และเคยมีการลงทุนที่นครดูไบด้วย ตนยังได้รับมอบหมายให้ดูข้อกฎหมายของนายเบนเกี่ยวกับธุรกิจ กฎหมายไม่ได้ห้ามการทำหน้าที่ทนาย ความรู้สึกประชาชนไม่สามารถก้าวล่วงหรือห้ามได้ ก่อนเป็นทนายความให้ได้ตรวจสอบแล้วว่านายเบนไม่เคยต้องโทษในคดีใด ส่วนคดีที่ ก.ล.ต.ดำเนินคดีนายเบนจามิน เรื่องการลงทุน เมื่อปี 64 เป็นคนละคน ชื่อคล้ายกันเท่านั้น“ธนดล” ปัดฟ้องปิดปากพิสูจน์ในศาลนายธนดลกล่าวว่า ความสัมพันธ์นายเบนกับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา นายเบนระบุเคยไปลงทุนที่กัมพูชาและชวนนักลงทุนไปลงทุนที่กัมพูชาจริง เป็นที่ปรึกษารัฐบาลจริง แต่ไม่เคยร่วมประชุมและได้รับเงินเดือนจากรัฐบาลกัมพูชาเลย ตนได้รับมอบหมายจาก ร.อ.ธรรมนัสให้ดูแลกฎหมายให้ ไม่ใช่เฉพาะแค่คดีนี้ ถึงอาจโดนทัวร์ลงด้วย แต่ตามที่นายรังสิมันต์อภิปรายไป ถ้านายเบนเป็นสแกมเมอร์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริง ไปแจ้งความได้ทันที พร้อมออกจากทีมกฎหมายนายเบน แต่ถ้าความจริงไม่ใช่จะรับผิดชอบกับชื่อเสียงเขาอย่างไร นายรังสิมันต์เคยอภิปราย สว.ทรงเอ โยงนายอุปกิต ปาจรียางกูร สุดท้ายศาลยกฟ้อง ใครรับผิดชอบ จะให้ชื่อเสียงนายเบนเสียไปเพราะเรื่องนี้ด้วยหรือ ไม่ได้ฟ้องปิดปาก แต่พูดอะไรอย่าทำให้ผู้อื่นเสียหาย นายรังสิมันต์ยอมรับเอาข้อมูลมาจากนายทอม ไรท์ ถ้าเป็นข้อมูลปลอมจะรับผิดชอบได้ไหม จำเป็นต้องฟ้องศาลพิสูจน์“โรม” ชี้ปล่อย “ผู้กอง” ขู่ฟ้องไม่ส่งผลดีที่ จ.ศรีสะเกษ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีถูกนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ทนายความนายเบนจามิน สมิท ฟ้องหมิ่นประมาทว่า เขามีสิทธิ์ฟ้องร้อง แต่แหมไม่น่าใช้คณะทำงาน ร.อ.ธรรมนัสเลย สังคมยิ่งห่วงว่าเอ๊ะรองนายกฯทำไมกระวนกระวาย ไม่ส่งผลดีต่อ ร.อ.ธรรมนัส รัฐบาลต้องดำเนินการจริงจัง ภรรยานายเบนจามินชื่อแคทลียา ดูไม่ยากไปร่ำรวยจากไหนซื้อหุ้นหลายบริษัท เส้นทางการเงิน ปปง.ต้องลงไปตรวจสอบ “ผมทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ แต่ ร.อ.ธรรมนัสปกป้องผลประโยชน์ใคร ฝากถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย การปล่อยให้ ร.อ.ธรรมนัสไปทำเรื่องเสียหายขู่ฟ้องคนนั้นคนนี้ ไม่ได้ส่งผลดีต่อรัฐบาล การทำงานของผมเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ หาก ร.อ.ธรรมนัสขู่ฟ้องสื่อมวลชน นักการเมือง ต้องถามกลับไปว่า ท่านทำเพื่อใคร ท่านถามว่า ผมรับงานใครมา แล้วท่านล่ะรับงานใครมา ผมขอยืนยันว่านโยบายเริ่มปราบคอลเซ็นเตอร์ควรเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล” นายรังสิมันต์กล่าวจี้แก้กฎกระทรวงตามคริปโตสีเทานายรังสิมันต์กล่าวว่า แปลกใจที่พรรค ภท.และนายอนุทินดูเงียบมาก ท่านควรอาศัยจังหวะนี้มีมาตรการเชิงรุกปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เด็ดขาด ล่าสุดนายอนุทินเตรียมนั่งประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางดิจิทัล มีคณะกรรมการเยอะ แต่สิ่งที่หายไปคือการประสานงาน และการแชร์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ไม่ใช่แค่ว่าเขามีฐานปฏิบัติการอยู่ที่ไหน แต่เส้นเงินที่ข้ามไปมา มีลักษณะส่งเงินไปประเทศอื่นที่รวดเร็วใช้คริปโตเคอร์เรนซี หากจะแก้ไข นายกฯต้องสั่งการ ปปง.แก้กฎกระทรวง โดยเฉพาะทราเวลรูล (Travel Rule) ที่ติดตามการใช้จ่ายผ่านคริปโตเคอร์เรนซี ต้องรีบทำไม่จำเป็นต้องรอ พ.ร.บ.ปปง.คลอด แก้กฎกระทรวงดำเนินการได้เลย จิ๊กซอว์อีกตัวที่สำคัญคือ พวกตัวใหญ่ๆที่เป็นเอเย่นต์ใหญ่ๆ นายหน้าตัวเบิ้มๆ ขอไม่พูดซ้ำว่ามีใครบ้าง พอพูดไปหลายรอบแล้ว ต้องเร่งปราบปราม บางคนหลบหนีไปแล้วต้องออกหมายแดง แต่ต้องดูเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากน้อยแค่ไหน บางบริษัทสูงมาก 3.3 ล้านล้านบาท มีทรัพย์สินอยู่ในไทยอย่างไรถามดีเอสไอไหนหมายจับหม่องชิตตู่นายรังสิมันต์ยังกล่าวถึงกรณีคนไทยถูกล่อลวงไปทำงานกับแก๊งสแกมเมอร์ ที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมาว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังอยู่ ที่เคยไปลุยในเมียวดีได้แค่ตัวเล็กๆ ไม่ได้จัดการโครงสร้างอาชญากรขนาดนั้น พล.อ.หม่องชิตตู่ ผบช.กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (บีจีเอฟ) ถูกทางการสหรัฐฯขึ้นบัญชี ถูกคว่ำบาตรเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กรมสอบสวนคดีพิเศษเห็นประสานไปยังอัยการ แต่ทุกวันนี้ออกหมายจับแล้วหรือยัง ขอใช้โอกาสนี้ติดตามตกลงแล้วจะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ใช่หรือไม่ อยากให้รัฐบาลนายอนุทินเอาจริงเอาจัง ไม่เช่นนั้นเท่ากับว่าท่านละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่ท่านรู้ ท่านอาจเพิ่งเคยเป็นนายกฯ แต่เป็น รมว.มหาดไทยมาก่อน รู้อยู่แล้วว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ร้ายแรงขนาดไหน“โสภณ” ชี้ย้ายพรรคปกติ สส.หาที่มั่นนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสข่าวตระกูลรัตนเศรษฐจะย้ายเข้าพรรค ภท.ว่า ยังไม่ทราบแต่การเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองช่วงนี้พูดแบบตรงไปตรงมา มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดทุกพรรค คนเป็นนักการเมือง ไม่ว่า สส.ขณะนี้หรือผู้ที่จะสมัคร สส. แสวงหาพรรคที่มั่นคงเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ผู้แทนฯสมัครหวังอยากได้เป็น เมื่อถามว่าตั้งเป้า สส.ภาคอีสานเท่าไหร่ เพราะพรรค ภท.ในพื้นที่อีสานค่อนข้างเด่น จะลามจากอีสานใต้ไปอีสานเหนืออย่างไรนายโสภณกล่าวว่า ความคาดหวังเรา นายกฯเป็นคนบุรีรัมย์ ภาคอีสานต้องคาดหวังเต็มที่ อย่าเพิ่งไปคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ยังไม่จบว่าใครจะอยู่พรรคใดหรือใครจะย้าย แต่ถ้าวันไหนมันจบแล้วยุบสภา จะประกาศเป้าทันที ส่วนอนาคตจะเห็นคนพรรคเพื่อไทย (พท.) ย้ายมา ภท.เพิ่มขึ้นหรือไม่ยังไม่รู้ ผู้แทนฯอยู่ที่ต่ออายุ ถ้าที่ไหนมั่นคงจะไปที่นั่น เราเปิดตัวผู้สมัคร สส.ใครสนใจ แต่หากมีตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากเราเจรจาปรับเปลี่ยน พรรคอยากได้ผู้แทนฯมากๆ และนักการเมืองไม่อยากสอบตกโชว์รับจบปัญหาชาวบ้านทันทีต่อมาเวลา 12.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายโสภณ พร้อมนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ รับหนังสือจากกลุ่มขบวนคนจนเพื่อสิทธิที่ดินและที่อยู่อาศัย (P-Move) นำโดยนายจำนงค์ หนูพันธ์ ขอให้บรรจุการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ให้กลุ่มคนจน โดยนายโสภณขึ้นรถกระจายเสียงกล่าวว่า ปัญหาประชาชนเป็นปัญหาที่เราจะแก้ไขร่วมกันให้ได้ กฎกติกา กฎหมายใดไม่เอื้อต่อการดูแลประชาชน หากขัดระเบียบก็แก้ระเบียบ หากขัดกฎหมายจะเสนอแก้กฎหมายทันที หากสิ่งใดไม่ขัดต่อระเบียบหรือกฎหมาย จะทำทันทีภายใน 4 เดือนตามธงของรัฐบาล จากนั้นนางประทีป อึ้งทรงธรรม ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป ยื่นข้อเสนอและแผนปฏิรูปชุมชนคลองเตยให้นายโสภณ ระบุว่า “ภูมิใจไทยพูดอะไรต้องทำได้ใช่หรือไม่” นายโสภณตอบทันทีว่า “ประชาชนอย่าลืมว่าพวกผมทำให้ 4 ปี ต้องให้พวกผมนะ”เมิน “จิรายุ” จี้สอบคุณสมบัติ “สันติ”ต่อมานายสิริพงศ์กล่าวถึงกรณีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ เรียกร้องให้มีการปรับ ครม. หลังพบนายสันติ ปิยะทัต รมต.ประจำสำนักนายกฯ กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มีผลประโยชน์ทับซ้อนว่า หากนายจิรายุเห็นอย่างไรดำเนินการไปตามบทบาทหน้าที่ ตามที่ท่านทำได้เลย แต่การตั้ง ครม.นายกฯส่งตรวจสอบประวัติทุกคนครบถ้วนแล้ว แต่เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่พอใจ เพราะรัฐมนตรีที่เคยอยู่กับเขามาครั้งที่แล้วมาครั้งนี้เขายังไม่พอใจนายสันติ ปิยะทัต รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี ชี้แจงว่า เข้ามากำกับดูแล สคบ.ตามขั้นตอนกฎหมายถูกต้องโปร่งใส ก่อนรับตำแหน่งได้ลาออกและขายหุ้นตามระเบียบทางราชการ เพื่อให้ปราศจากข้อครหา ไม่ได้ประกอบธุรกิจลีสซิ่ง ยืนยันไม่มีปัญหาความขัดแย้งผลประโยชน์ใดๆ ทราบจาก สคบ.ว่าขณะนี้ไม่มีเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภคต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ตามที่ปรากฏในข่าว และไม่สามารถไปแทรกแซง สคบ.ได้“ศักดิ์ดา” โว 4 เดือน ผลงานเหนือ 2 ปี พท.นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย กล่าว ถึงนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค พท. ตั้งข้อสังเกตลาออกมารับตำแหน่งรัฐมนตรี ทำให้เสียเงินจัดเลือกตั้งใหม่เขต 4 กาญจนบุรีว่า เป็นคำพูดย้อนแย้งตัวเอง พรรค พท.เสนอให้ยุบสภาทันทีหากเลือกนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯ เลือกตั้งซ่อม สส. เขต 4 กาญจนบุรี 1 เขตกับการเลือกตั้งทั่วประเทศ 400 เขตและบัญชีรายชื่ออีก 100 คน อย่างไหนจะใช้งบฯมากกว่ากัน เลือกตั้งใหญ่ 1 ครั้งใช้งบฯเกือบ 4,000 ล้านบาท ที่ผ่านมา พรรค พท.ทำงานมา 2 ปีมีผลงานอะไรบ้าง แตกต่างจากรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ เข้ามาทำงานทันทีมีผลงานให้เห็น บางครั้งการทำงานเพียง 4 เดือนอาจมีผลงานมากกว่าทำงานมา 2 ปี ยังมั่นใจว่า น.ส.วิสุดา วิเชียรศิลป์ ผู้สมัคร สส.เขต 4 กาญจนบุรี จากพรรค ภท.บุตรสาว จะได้รับชัยชนะล้านเปอร์เซ็นต์ ชาวบ้านในพื้นที่จะเลือกผู้สมัครที่อยู่ติดกับพื้นที่ใกล้ชิดประชาชน ไม่ใช่เข้ามาหาประชาชนช่วงเลือกตั้งเท่านั้น“ภราดร” ดันคนละครึ่งพลัส “เข้า ครม.”นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงบประมาณ ให้สัมภาษณ์ถึงวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 7 ต.ค.ว่า จะมีวาระแผนบูรณาการที่มอบหมายงานให้รองนายกฯไปดูแลงานบูรณาการด้านต่างๆ และงบกลางฯที่จะนำไปใช้ในโครงการคนละครึ่งพลัส เข้า ครม. เมื่อถามว่างบฯปี 69 มีวาระอะไรที่อยากจะผลักดัน นายภราดรกล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนคือการเยียวยาประชาชนในพื้นที่อุทกภัย ตั้งแต่เดือน พ.ค. ถึงวันที่ 30 ก.ย.68 ประมาณ 5 แสนกว่าหลังคาเรือน คาดว่าจะใช้งบฯจากงบฯกลางรวมหลายพันล้าน ซึ่งขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนสำรวจตรวจสอบและพิจารณา ยังไม่เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในเวลานี้ โดยจะพยายามเร่งรัดให้หน่วยงานราชการไปสำรวจในส่วนที่เสียหายจากอุทกภัยทั่วประเทศวิป รบ.ยัน ก.ม.อากาศสะอาดจบสมัยนี้น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรค ภท.และเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ว่า เบื้องต้นประสานวิปฝ่ายค้านและพรรค พท.ว่านอกเหนือจากพิจารณาวันที่ 8 ต.ค. จะขอให้พิจารณาวันที่ 9 ต.ค. ต่อ หลังตั้งกระทู้ถามสดด้วย วาจา เราทำเต็มที่จะพยายามทําให้เสร็จก่อนปิดสมัยประชุมวันที่ 30 ต.ค. ส่วนการประชุมวุฒิสภาที่ รมว.ดีอีไม่ไปตอบ ต้องถามวิปวุฒิสภาเกิดอะไรขึ้น ประสานผิดพลาดอะไรหรือไม่ เรื่องเสียงข้างน้อยไม่ได้กังวล ได้พูดคุยกับวิปฝ่ายค้านไว้ด้วย การทํางานร่วมมือกันดี ทั้งกระทู้ องค์ประชุม เมื่อกฎหมายเข้ามาในวาระ 2-3 แล้วเป็นกฎหมายของทั้งสภา ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเบื้องต้นจะประชุมวันที่ 14-15 ต.ค. จะประชุมวิป 3 ฝ่ายพิจารณาวัน เวลาและจำนวนชั่วโมง จัดสรรเวลากันอย่างไรเว็บทำเนียบฯเปลี่ยนใช้สีน้ำเงินวันเดียวกัน เว็บไซต์รัฐบาลไทย (Royal Thai Government) https://www.thaigov.go.th ได้มีการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ทันสมัยขึ้น โดยมีการปรับปรุงรูปแบบให้ทันสมัยขึ้นและจัดหมวดหมู่ให้อ่านง่ายขึ้น พร้อมปรับตัวอักษรเป็นโทนสีน้ำเงิน เหมือนสีประจำพรรคภูมิใจไทยนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล www. thaigov.go.th ช่องทางเผยแพร่ข่าวสารรัฐบาลสู่ประชาชน ได้ปรับเฉดสีใหม่ จากเดิมเฉดสีโทนสีฟ้าอ่อน เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน จะใช้โทนสีนี้ทุกช่องทางการสื่อสาร เป็นสีดูแล้วสบายตาดูง่าย และสีน้ำเงินแสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รัฐบาลจะปรับคอนเทนต์ให้ทุกคนเข้าถึงง่าย เข้าใจง่าย ให้ดูสนุกสนานยิ่งขึ้น สีน้ำเงินของเว็บไซต์ทำเนียบฯไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเฉดสีเดียวกับพรรค ภท. ของพรรคสีน้ำเงินเข้มกว่า ไม่อยากให้เหมารวมคาใจ รมว.ดีอีไม่แจ้งความดีลสินบนที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แถลงว่า ได้ตั้งกระทู้ถามนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ประเด็นสินบนเดือนละ 40 ล้านบาท ไม่ให้ปราบอาชญากรรมออนไลน์ สแกมเมอร์และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย แต่ถึงเวลานายไชยชนกแจ้งว่าไม่สามารถมาตอบกระทู้ถามสดได้ ติดภารกิจสำคัญเร่งด่วน ทำให้กระทู้ตกไป ประชุมวุฒิสภาครั้งถัดไปต้องการถามกระทู้เดิมอีก ต้องถามประธานวุฒิสภาว่าบรรจุให้ได้หรือไม่ รองประธาน กมธ.การเทคโนโลยีสารสนเทศฯ วุฒิสภา จะเสนอ กมธ.ให้พิจารณาเรื่องนี้ ไม่สามารถอยู่เฉยได้ สงสัยทำไมนายไชยชนกไม่แจ้งความทันที รับรู้ได้ว่าเป็นเรื่องไม่โปร่งใส ไม่แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 การตั้งกรรมการตรวจสอบมีปลัดกระทรวงดีอี เป็นประธาน ปลัดกระทรวงดีอีไม่กล้าตรวจสอบรัฐมนตรี และ สส.ซีกรัฐบาล ขอฝากครูใหญ่ช่วยสอนรัฐมนตรีป้ายแดงด้วยว่าคนรุ่นใหม่ควรทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ใช่เล่นการเมืองแบบเก่า เอาดีใส่ตัวเอาชั่ว ใส่คนอื่น หาก รมว.ดีอีทำได้จริงจะยกอันดับความโปร่งใสของประเทศได้ จากอันดับประเทศทุจริตอันดับ 108“ไชยชนก” ท่องคาถาพูดเรื่องจริงนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของกระบวนการสอบสินบน 40 ล้านบาทว่า มีการติดต่อมาทางอ้อมเพื่อเสนอสินบนเดือนละ 40 ล้านบาท ให้ละเว้นการปราบปรามและจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์สแกมเมอร์และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ยืนยันว่าเรื่องที่ พูดเป็นเรื่องจริง และขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ มอบหมายให้นายพชร อนันตศิลป์ ปลัดกระทรวงดีอี เป็นประธาน ส่วนที่กังวลกันว่าปลัดกระทรวงเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ จะนำไปสู่ข้อเท็จจริงได้หรือไม่ นายไชยชนกตอบว่า “ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร เพราะได้พูดเรื่องนี้กันเพียงแค่ครั้งเดียว ผมรับรองและขอให้เชื่อมั่นในการตรวจสอบว่าจะออกมากระจ่าง โปร่งใส สมกับที่สื่อมวลชนให้ความสนใจ” ส่วนคณะ กมธ.และหน่วยงานอื่นขอให้เข้าไปชี้แจง ต้องดูว่าจะเสียเวลาหรือไม่ เพราะกระบวนการตรวจสอบกำลังดำเนินอยู่ พูดมากไปจะทำให้การสอบสวนได้รับผลกระทบ“พีระพันธุ์” ฉะ สคก.ล้มโซลาร์เซลล์เสรีวันเดียวกัน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หรือร่าง พ.ร.บ.โซลาร์เซลล์เสรี ที่กระทรวงพลังงานเสนอและผ่านความเห็นชอบแล้วจาก ครม.ชุดที่ผ่านมาว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่มีอำนาจหน้าที่ปัดตกร่างกฎหมายที่ได้ผ่าน ครม.อนุมัติแล้ว หน้าที่หลักของคณะกรรมการกฤษฎีกามีอยู่ 2 ส่วน การให้ความเห็นปรับปรุงร่างกฎหมายตามมติ ครม. เพื่อให้กฎหมายสมบูรณ์มากขึ้น และเสนอแก้ไขกฎหมายเก่าที่มีอยู่หรือเสนอยกร่างกฎหมายใหม่ ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบัน จึงไม่มีอำนาจล้มล้างร่าง พ.ร.บ.ที่ผ่านมติ ครม.แล้ว เว้นแต่ ครม.ชุดใหม่จะมีมติใหม่ยกเลิก ขอเรียกร้องให้รัฐบาลปัจจุบันสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้เพื่อประโยชน์ประชาชน เพราะส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงการผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ได้ง่ายกว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องเดิมที่มีมากถึง 6 ฉบับ เป็นกฎหมายเน้นควบคุมมากกว่าการส่งเสริม“สกลธี” คืนรังฟุ้งร่วมฟื้นฟู ปชป.เมื่อเวลา 11.30 น. นายสกลธี ภัททิยกุล อดีต สส.กทม.และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค ปชป.เรียบร้อยแล้ว นับแต่วันที่ลาออกเกือบ 10 ปีพอดี...ออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทำให้เติบโตขึ้นมากทางการเมือง มีประสบการณ์เพิ่มขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ถ้าใครเคยอ่านบทสัมภาษณ์ย้อนหลังไปเมื่อหลายปีก่อน ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าถึงแม้จะลาออกจากพรรค ปชป. แต่สักวันหนึ่งตั้งใจจะกลับไปชดใช้บุญคุณของพรรค จุดเริ่มต้นชีวิตการเมือง ทำให้ได้เป็นผู้แทนราษฎรสมัยแรก บัดนี้คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะกลับไปช่วยฟื้นฟูพรรค“เจ๊แมว” ให้ปากคำเพิ่มคดีเขากระโดงเมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคารบี ชั้น 8 กรมสอบสวนคดีพิเศษ คณะพนักงานสืบสวนคดีที่ดินเขากระโดง เรื่องสืบสวนที่ 97/2568 เชิญ นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท หรือเจ๊แมว ให้ปากคำในฐานะพยานเพิ่มเติม โดยนางกุสุมาลวตีเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยยื่นเรื่องให้ดีเอสไอรับคดีเขากระโดงเป็นคดีพิเศษ เพราะชัดเจนเป็นการบุกรุกที่ดินสาธารณะ คำพิพากษาศาลฎีกาที่มีคู่กรณี 35 ราย เป็นโจทก์ยื่นฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือกรณีศาลอุทธรณ์ ภาค 3 ศาลปกครองกลาง ยืนยันชัดเจนว่าเป็นที่ดินของ รฟท. 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ดินผิดชัดเจนแล้วมี 4 แปลง น่าจะเป็นของนางกรุณา ชิดชอบ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้ว ที่ดินที่ไปทำสนามแข่งรถ สนามแข่งฟุตบอล สิ่งปลูกสร้างอีกมากมาย รวมถึงบ้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม ที่ดินที่ปรากฏชื่อนายไชยชนก ชิดชอบ ทั้งหมดต้องคืนให้เป็นที่หลวง อยากขอให้ รฟท.บังคับคดีโดยไม่ต้องไปฟ้องใคร เพราะชัดเจนอยู่แล้วในคำพิพากษาศาลฎีกา แค่บังคับคดีแล้วเอาที่ดินหลวงกลับมาเป็นที่สาธารณะของ รฟท.“ทนายอั๋น” จ่อฟ้อง “แสวง” โอนงบฯมิชอบที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น เปิดเผยว่า เตรียมแจ้งความดำเนินคดีนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ กรณีออกประกาศ กกต.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการใช้จ่ายเงินสนับสนุนหรือเงินอุดหนุนของศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย 2567 เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 ขัดต่อ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 โดย นายภัทรพงศ์กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนจาก ผอ.กกต.ประจำจังหวัด 23 จังหวัด กรณีนายแสวงออกประกาศ กำหนดให้เมื่อสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดได้รับโอนเงินจากส่วนกลางแล้วให้โอนงบอุดหนุนนี้ให้ ศส.ปชต.โดยตรง ใน ศส.ปชต.ประกอบด้วย นายก อบต. อสม. ผู้ใหญ่บ้าน และ อบต. ในกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย สังคมรู้ว่าเป็นฐานเสียงของนักการเมืองและพรรคการเมือง ตอนนี้ กกต.จ่ายไปแล้วหลายจังหวัด เช่น อ่างทอง บุรีรัมย์เป็นคิวแรกๆเลย รวมกว่าหลายล้านบาท เจ็บปวดที่สุด อสม.ที่ว่ากันว่าเป็นตัวจักรสำคัญของพรรคสีน้ำเงิน ช่างประจวบเหมาะอะไรกับการที่นายแสวงออกประกาศไปหัก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ เพื่อประโยชน์ให้พรรคสีน้ำเงินใช่หรือไม่อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่