พิสูจน์ตัวเอง ทุกอย่างต้องดู วัดจากของจริง อนาคตทางการเมืองของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 สดๆร้อนๆ ในไอกรุ่นที่น่าดื่มกินบนตำแหน่งการเมืองกดดันด้วยเวลาและเงื่อนไขที่บีบกระชับก็ถูกแหละที่เจ้าตัวบอกว่ามีเวลาน้อยต้องรีบทำงานแบบไม่มีวันหยุด เพราะนี่คือช่วงเวลาที่จะวัดว่าแค่ไหนอย่างไรกับอนาคตทางการเมืองที่รออยู่ข้างหน้าว่าไปแล้วหากคิดแบบไม่ยี่หระ ได้เป็นผู้นำประเทศแม้ไม่นานนักก็น่าจะพอใจแล้ว แต่นักการเมืองนั้นต้องพร้อมที่จะยืนระยะให้ได้นานที่สุดไม่ว่าจะต้องเจออุปสรรคอะไรก็ตามอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นตัวอย่างของคนที่ไม่รู้จักพอนั่นก็ตัวอย่างที่ต้องเรียกว่าทำร้ายตัวเองแม้จะประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับแต่ด้วยหลงใหลได้ปลื้มและต้องการ “อำนาจ” ไม่รู้สิ้น สุดท้ายก็ต้องเผชิญกับชีวิตที่ยากลำบากและเจ็บปวดนี่ทำท่าว่าจะต้องเป็นสัมภเวสีอีกครั้ง...“อนุทิน” นั้นเส้นทางการเมืองนั้นถือว่าดีพอสมควร คือไม่ต้องดิ้นรนมากนัก ทุกอย่างได้มาเหมือนมีโชคหนุนด้วยการไขว่คว้ารอจังหวะไม่ต้องดิ้นมากนักพอถึงเวลาก็มาเอง!อยู่ที่ว่าจะนานคงทนแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง ไม่มีใครช่วยได้นั่นคือการทำงานให้หนัก สร้างความเชื่อมั่นมีผลงานให้ปรากฏจนประชาชนเกิดความศรัทธาและยอมรับนี่จึงเป็นช่วงเวลาเงินเวลาทอง!หากทำได้ดีอนาคตก็จะสดใส และท่ามกลางการเมืองที่แปรปรวนอย่างนี้ต่างกับ “ลูกพี่เก่า”-“ทักษิณ ชินวัตร” วันนี้ไม่ต่างกับ “ศพ” ที่เดินได้ แทบจะไม่อยู่ในสายตาแม้เพิ่งจะเก่งกาจบารมี คับบ้านคับเมืองทุกคนต่างยำเกรง ทุกคนต่างชื่นชมเพียงแค่เวลาซักเสี้ยวทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเพราะทำตัวเองจะไปโทษใครก็ไม่ได้ แต่ก่อนอาจจะบอกถูกกลั่นแกล้งแต่นาทีนี้ไม่ใช่แล้ว!คะแนนโหวตนายกรัฐมนตรีที่ “อนุทิน” ได้รับนั้นบ่งบอกได้ว่าอำนาจนั้นไม่มีความแน่นอน ถ้าดำรงอยู่อย่างมั่นคงก็ดีไปเจ้าของอำนาจก็ทะยานโลดแล่นได้เต็มที่แต่เมื่อมันเสื่อมมนต์ก็คงเห็นกันแล้ว311 เสียงที่ “อนุทิน” ได้จากการโหวตครั้งนี้มากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้จำนวนไม่น้อย เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติที่แต่แรกมาเพียงครึ่งเดียวแต่สุดท้ายก็มากันทั้งพรรคทำให้คะแนนโหวตสูงกว่าปกติแม้กระทั่งใน “เพื่อไทย” เองก็มี “งูเห่า” เกือบ 10 ตัว แถม “เฉลิม อยู่บำรุง” เกลอเก่าก็ไม่เอาด้วยเพราะแค้นเคืองเรื่องลูกชายนี่เป็นฉากการเมืองฉากหนึ่งที่สะท้อนความจริงอย่างไม่อำพรางเมื่อมันเสื่อมแล้วก็ไม่ต่างไปจาก “ศพ” ที่ไม่มีใครอยากร่วมด้วยขอเพียงเงื่อนไขและเวลาที่เหมาะสมก็ไปกันหมด“เพื่อไทย” ที่เคยตระหง่านวันนี้หมดราคาเสียแล้ว!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม