หมดแล้วการสืบทอดอำนาจตระกูลชินวัตร ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขยับมุมคิดถึงปรากฏการณ์รัฐบาลเสียงข้างน้อย 146 เสียงกับอนาคตการเมืองไทยเป็นการยกระดับการเมืองเป็นประชาธิปไตย ไม่มีรัฐประหารมาคั่นกลางให้เสียบรรยากาศ จากรัฐประหารปี 57 ถึงปัจจุบัน 11 ปี รัฐประหารปี 34 ถึงปี 49 ก็ 15 ปี ขบวนการรัฐประหารยังมาจัดการปัญหาทางการเมืองต่อเนื่องในปี 57 วงจรรัฐประหารประมาณ 14-15 ปี อาจใกล้วงจรอุบาทว์กลับมา ไม่มีใครตอบได้แต่จากเหตุการณ์ที่ประเทศไทยผ่านวิกฤติมาเยอะ มี พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ประชาชนมีวุฒิภาวะ ไม่ใช่เอะอะก็เรียกร้องล้มกระดานโดยรัฐประหาร ปัจจัยเหล่านี้ทำให้จะไม่เกิดรัฐประหารอีกแล้ว ที่ผ่านมามีปัญหาการทำรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจ ประเทศในอาเซียนไม่รัฐประหารแต่สืบทอดอำนาจกันแหลกลาญ“เมื่อตัดรัฐประหารออกไป อาจต้องเผชิญเส้นทางการเมืองแบบสืบทอดอำนาจของพรรคใดพรรคหนึ่ง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งหากปี 49 ไม่มีรัฐประหาร พรรคไทยรักไทยไม่ถูกยุบ วันนี้นายกฯทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ สืบทอดอำนาจยาวกว่า 20 ปีแต่ปรากฏการณ์พรรคเพื่อไทย–ทักษิณ–แพทองธาร ชินวัตร ทำให้การสืบทอดอำนาจตระกูลชินวัตร น่าจะทำไม่ได้แล้วฉะนั้นรัฐประหารไม่มี ห่วงอย่างเดียวการสืบทอดอำนาจ แต่รัฐบาลภูมิใจไทยเป็นแค่ 4 เดือน ถ้ากลับมาหลังเลือกตั้งอีก ยังไม่ถือว่าเป็นการสืบทอดอำนาจอะไร ต้องให้โอกาสพรรคภูมิใจไทย”แม้เป็นการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยของไทยดูประหลาด เนื่องจากรัฐธรรมนูญระบุต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สส.ที่มีอยู่ในสภา พรรคประชาชนโหวตสนับสนุนโดยไม่เข้าร่วมรัฐบาล แต่สนับสนุนกฎหมายสำคัญ ถือเป็นนวัตกรรมการเมืองของพรรคประชาชนต่างกับรัฐบาลเสียงข้างน้อยในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศแถบสแกนดิเนเวีย มีหลายพรรค เมื่อเสียงข้างมากเกินครึ่งมันตกลงกันไม่ได้ จึงใช้วิธีการเมืองแห่งการประนีประนอม ใครได้เสียงข้างมากเฉยๆ ไม่ใช่เสียงข้างมากเกินครึ่งสภาได้เป็นรัฐบาล โดยที่อีกฝั่งที่เสียงข้างมากในสภางดออกเสียงเช่นเดียวกับในอังกฤษ ถ้าไม่มีพรรคใดได้ สส.เกินครึ่งของสภาสามัญ รัฐบาลชุดใหม่ที่จัดตั้งขึ้นจะเกิดจากการหารือตกลงกันระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ หากไม่สามารถตกลงกันจนได้เสียงข้างมากเกินครึ่งของสภารัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นจะมีสามแบบ ได้แก่ 1.รัฐบาลเสียงข้างน้อยพรรคเดียว อาจได้รับการสนับสนุนจากข้อตกลงเฉพาะหน้าในแต่ละประเด็นจากพรรคการเมืองอื่นบนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกัน2.รัฐบาลเสียงข้างน้อยพรรคเดียว โดยมีข้อตกลงที่เป็นทางการระหว่างพรรคการเมือง 3.รัฐบาลผสมที่เป็นทางการ ประกอบด้วยรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองมากกว่าหนึ่งพรรค จะคุมเสียงข้างมากในสภาได้ฉะนั้น ดูรัฐบาลเสียงข้างน้อยของไทยแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก ในสภาไม่มีกฎหมายสำคัญที่เสี่ยง กฎหมายที่สำคัญอย่างงบประมาณปี 69 ก็ผ่านไปแล้ว อยู่ 4 เดือนยุบสภา ยกเว้นทำผิดเงื่อนไขก็ต้องมีเหตุผล มีข้ออ้างฟังขึ้น แม้เป็นเพียงเอ็มโอยูต่างกับเอ็มโอยูในอังกฤษ สมมติจำเป็นต้องตั้งรัฐบาลผสม ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นเท่าไหร่ในประเทศที่มี 2 พรรคการเมืองใหญ่ โดยมีคู่มือระบุชัดเจนต้องทำเอ็มโอยูส่งให้พระมหากษัตริย์รับทราบเพราะพระองค์ทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้งนายกฯที่มาจากรัฐบาลผสม ต้องแน่ใจว่าอยู่ได้นานรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล สภา โหวตให้เป็นนายกฯ สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากภาคส่วนต่างๆได้อย่างไร ศ.ดร.ไชยันต์ บอกว่า การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลตามครรลองย่อมได้เสียงตอบรับจากนักลงทุนรัฐบาลตามครรลอง นักลงทุนมั่นใจความมั่นใจไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลอยู่ยาว“นักลงทุนสามารถคาดการณ์ได้ว่าถ้า 4 เดือน รัฐบาลยุบสภา 2–3 พรรคการเมือง น่าจะกลับมา เหมือนกับในต่างประเทศ ที่รัฐบาลยุบสภา หรือนายกฯลาออกกันบ่อย สถานการณ์มันก็ไม่แย่เช่น ญี่ปุ่น นายกฯลาออกบ่อย นักลงทุนคาดได้ว่าพรรคการเมืองไหนจะเข้าสู่อำนาจหลังเลือกตั้ง ขอย้ำประเด็น สำคัญอยู่ที่ไม่รัฐประหาร ไม่มีอะไรนอกรัฐธรรมนูญ”การเมืองเปลี่ยนแปลงตามรัฐ ธรรมนูญ ไม่มีรัฐประหารเป็นการพัฒนา การเมืองอย่างไร ศ.ดร.นายไชยันต์ บอกว่า ใช่ ถ้านับตั้งแต่ปี 63 มีชุมนุมประท้วง ก้าวล่วงสถาบัน ถ้าเป็นสมัยก่อนอาจมีฝ่ายจงรักภักดีออกมาปะทะไปแล้วจนเกิดความไม่สงบ อาจถึงขั้นทำรัฐประหารแต่บ้านเมืองผ่านจุดนั้นมาแล้ว ถ้าเกิดขึ้นอีกมั่นใจว่าประชาชนคงไม่ตื่นตระหนกสุด หรือตื่นกลัวจนกลายเป็นเงื่อนไขทำให้เกิดความไม่สงบรวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา สังคมเสียวไส้รัฐบาลรับมือได้หรือไม่ มีกระแสเรียกร้องรัฐประหารให้ทหารขึ้นมา ถึงขั้นมีนักวิชาการบางคนเสนอให้กองทัพประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ ทั้งที่กฎอัยการศึกเมื่อประกาศใช้ ทำให้นักลงทุนหรือต่างชาติวิตกเช่นเดียวกับคดีคลิปสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในขณะนั้นกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา นายทักษิณ ชินวัตร หลุดคดี 112 ประชาชนชอบหรือไม่ชอบก็ยอมรับความเป็นนิติรัฐปรากฏการณ์การเมืองพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย แย่งชิงจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อเป็นรัฐบาลรักษาการช่วงเลือกตั้ง แต่พรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลสำเร็จ จนถึงมองว่าจะกลายเป็นพรรคการเมืองที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นรองเพียงพรรคการเมืองที่มาจากรัฐประหาร ศ.ดร.ไชยันต์บอกว่า เลือกตั้งปี 66พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชนต่างประกาศจะกวาดเรียบ แลนด์สไลด์ เหมือนที่มีการมองพรรคภูมิใจไทยในขณะนี้ จากที่มี สส.69 คนจะเพิ่มเป็น 250 ได้อย่างไร ยกเว้น สส.บ้านใหญ่จากพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐเทมากองที่พรรคนี้ เหมือนสมัยพรรคไทยรักไทยในปี 44-48 ถึงมีโอกาสเกิน 250 คนฉะนั้นมีวิธีเดียวโดยบ้านใหญ่ไหลมา ไหลมาเมื่อไหร่ อย่างไร คงต้องดูสถานการณ์การเมืองและเงื่อนไขการเป็นสมาชิกพรรคตามกฎหมายกำหนด 90 วัน อาจทยอยลาออกจาก สส.ก่อนยุบพรรคก็ได้พรรคประชาชนตัดสินใจโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยแต่เป็นฝ่ายค้าน มีผลกระทบทางการเมืองอย่างไร เช่น แฟนคลับบางส่วนไม่เลือก ศ.ดร.ไชยันต์ บอกว่า แฟนคลับไม่ทิ้ง ทิ้งไปก็ไม่มีตัวเลือก เพราะพรรคประชาชน มีลักษณะเฉพาะ มีความสมัยใหม่ ไม่อนุรักษ์นิยมชัดเจนแม้แฟนคลับผิดหวังในเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เขาไม่มีตัวเลือกอื่น ใจจดใจจ่อรอนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้ากลับมาเล่นการเมืองได้ บางทีน่าเห็นใจพรรคประชาชนที่มีปัญหาเรื่องผู้นำพรรคการเมืองอื่นก็มีพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีต นายกฯ ถ้าไม่กลับมาใครจะเป็นหัวหน้าพรรคที่ดึงดูด พรรคภูมิใจไทยถ้าไม่มีนายอนุทิน ก็ยังนึกไม่ออกว่าใครจะขึ้นมาแทน เพราะบุคลากรในพรรคเติบโตไม่ทัน พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ ตอนนี้ถูกตั้งคำถามเป็นพรรคเฉพาะกิจหรือไม่ ตกไปเยอะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เปลี่ยนขั้วอำนาจ บ้านจันทร์ส่องหล้า ศรัทธาลดฮวบ และพรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบหนักที่สุด ศ.ดร.ไชยันต์ บอกว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางการเมือง เปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากโดยที่ไม่มีใครคาดคิด จากคลิปคุยกับลุงสู่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดต้องโทษนายทักษิณ ที่วาง น.ส.แพทองธาร เป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ ควรให้เป็น สส.บัญชีรายชื่อเรียนรู้งานในสภา ไม่เห็นต้องรีบ จนทำให้แกนนำภายในพรรคนั่งปวดหัวว่าต่อไปนี้จะทำอย่างไรต่อตามจังหวะรัฐบาลเสียงข้างน้อยมีโอกาสตระบัดสัตย์ไม่ยุบสภาภายใน 4 เดือน ศ.ดร.ไชยันต์ บอกว่า ธรรมชาติของนักการเมือง ไม่ได้หมายถึงพรรคภูมิใจไทย โดยธรรมชาติพรรคการเมืองผิดคำพูดเยอะฉะนั้น 4 เดือนยุบสภาไม่น่ามีการตระบัดสัตย์ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยเป็นวิกฤติของประเทศไทย.ทีมการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม