เชื่อก็งมงาย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ มนต์ปะกำช้าง “ขลังจริง” หลักฐานเป็นคลิปแชร์กันว่อน ในงานคล้ายวันเกิดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ ผู้มีบารมีสูงสุดค่ายเซราะกราว ได้ทำพิธีเสกสายสิญจน์ ผูกข้อมือ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยท่องคาถากำกับเสียงดังฟังชัด “กูให้มึงเป็นนายกฯ”แล้วก็ดั่งพระร่วงวาจาสิทธิ์ สภาลงมติด้วยคะแนน 311 ต่อ 152 เสียง “เสี่ยหนู” ได้ขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย แบบที่ “ส้มหล่นใส่” ดวงดาวโคจรเหมาะเจาะเหมาะเหม็งด้วย “เส้นทางพิสดาร” ที่ต้องบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองเกมบังคับ “ท่ายาก” ค่ายส้ม พรรคประชาชน จำใจกัดฟันเท 143 เสียง โหวตให้นายอนุทินขึ้นแท่นผู้นำคนใหม่ เพื่อไม่ให้เกมสภาไหลเข้าทางตันเบรกสกัด “อัศวินม้าขาว” ปาดหน้าคิวเข้าวินแลกกับการเซ็นลงนาม “เอ็มโอเอ” ข้อตกลงร่วมที่ “กุมารเท้ง” นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาชน จัดทำเป็นรูปเล่มอย่างดี ส่งให้ “เสี่ยหนู” เซ็นชื่อจะจะต่อหน้าสื่อมวลชนรับรู้ทั่วประเทศประชาชนคนไทยนับล้านร่วมเป็นสักขีพยานนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป พร้อมกับการเดินหน้ากระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร.ให้จบก่อนวันเลือกตั้งใหญ่พร้อมเงื่อนไขพิลึกพิลั่น “ขันชะเนาะ” มัดคอกันในทีเพื่อสร้างหลักประกันว่านายกฯคนใหม่จะยุบสภา ภายใน 4 เดือนจริง พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ดำเนินการใดๆเพื่อให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากข้อสุดท้ายเงื่อนไขสุดพิเศษแบบที่ไม่เคยเกิดในการเมืองไทยพรรคประชาชนยืนยันจะเป็นฝ่ายค้านต่อไป โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีค่ายส้ม “ตีเช็คเปล่า” ให้ “เสี่ยหนู” กับทีมภูมิใจไทย ยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่ 1ตรงกันข้าม “นายใหญ่” ต้องเจ๊งหุ้นการเมืองยับ เสียหายหนัก แทบหมดตัวสถานการณ์ดำดิ่งที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตกที่นั่งลำบาก นับจากช็อตที่ปรับขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม ถีบค่ายภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลแล้วก็เหมือนโดนผีผลักหงายท้อง “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร พลาดโดน “จิ้งจอกฮุน เซน” ผู้นำตัวพ่อกัมพูชา ปล่อยคลิปประจานบทสนทนาร้อนๆ ก่อนเสียงปืนแตกชายแดนไทย-เขมร ปะทะระอุเดือด คนไทยตายเป็นเบือสุดท้าย “อิ๊งค์” ก็ไม่รอด โดนศาลรัฐธรรมนูญฟันตกเก้าอี้ผู้นำ“จุดเปลี่ยน” อำนาจ รัฐบาลผสมพรรคเพื่อไทย “หัวขาด”แม้ “นายใหญ่” พยายามยื้อสถานะแกนนำรัฐบาล แต่นั่นก็ไม่อาจกุมสภาพแพแตก ตัวแปรสำคัญอย่าง “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขาใหญ่พรรคกล้าธรรม พลิกหนีไปเกาะทุ่นภูมิใจไทยของ “เนวิน-อนุทิน” นำร่องก๊วนแก๊งอื่นโดดหนีกันกระจาย เหมือนเห็บชิ่ง “หมาผอม”ภาวะใกล้จนตรอก “ทักษิณ” ยอมลงทุนบาก หน้าง้องอนทีมเด็ก อ้อนพรรคประชาชนให้หนุนนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย แลกกับออปชัน ยุบสภาทันทีหลังแถลงนโยบายแต่นั่นก็สายเกินไป เด็กส้มไม่หลงขนม แถมด่าสวนเพื่อไทย “ตัวป่วน”ปิดประตูใส่ “นายใหญ่” มาทีหลัง “เนวิน–อนุทิน”หรือไม้ตายที่ “เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ยื่นยุบสภาตัดหน้าขบวนแห่ “อนุทิน” ก็โดนตีกลับหน้าหงายสุดท้าย “นายใหญ่” แพ้ทุกเกม พลาดทุกกระดาน ส่อพังทั้งขบวนจากอาการดิ้นสุดฤทธิ์ในการยื้อกุมสภาพ “อำนาจรัฐ” ไว้ในกำมือ นั่นคือโจทย์บังคับที่ “ทักษิณ” ต้องทำให้ได้ แต่เมื่อไม่สำเร็จก็ต้องลุ้นผลตรงกันข้ามในยามที่ “ขาลอย” จากเกมอำนาจ ไร้ตัวช่วยพิเศษใดๆพลังความขลังลดวูบวาบไปทันตา แม้แต่แรงดึงดูด ณ “จุดศูนย์กลางแท้ๆ” ยังเบาบาง แบบที่ สส.พรรคเพื่อไทยแปลงร่างเป็นงูเห่าทันทีทันใด เปิดตัวหนุน “อนุทิน” เป็นนายกฯตั้งแต่นาทีพลิกขั้ว“นายใหญ่” สิ้นมนต์สะกดนักเลือกตั้งอาชีพนั่นก็ไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ในการกำกับข้าราชการจมูกไว โดยเฉพาะขุมข่ายสิงห์มหาดไทย ที่พร้อมแปลงกายจากสีแดงกลับไปเป็นสีน้ำเงินแบบพรึบพรับหนียุทธการโยกย้ายล้างบาง กลับข้างไปแทงหวยเต็งพรรคภูมิใจไทยข้าราชการเปลี่ยนข้าง สส.หนีการเมืองขาลง สภาพของค่ายเพื่อไทยกลายเป็นหุ้นไร้อนาคต สั่นสะเทือนยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งใหญ่รอบต่อไปแบบหนักหน่วงแน่อย่าว่าแต่หลักร้อย เซียนตั้งราคาพรรคต่ำกว่า 50 ด้วยซ้ำและตามฉากตอกย้ำปรากฏการณ์ “จนแต้ม”ในจังหวะเวลาคาบลูกคาบดอก ก็เป็น “ทักษิณ”ที่ไปโผล่สนามบินดอนเมือง ขึ้นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวแจ้งไปสิงคโปร์ แต่ไปโผล่ที่ดูไบหลังโดนตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกักตัวอยู่กว่า 2 ชั่วโมง เช็กหมายศาลห้ามออกนอกประเทศตามสถานการณ์ลับๆล่อๆกว่าจะได้ไฟเขียวนาทีสุดท้าย แม้เจ้าตัวจะโพสต์ข้ามประเทศ ยืนยันแค่ไปพบแพทย์ประจำตัว กลับประเทศไทยไปฟังคำสั่งศาลฎีกาคดีวีไอพีชั้น 14 ตามนัดวันที่ 9 ก.ย.นี้แน่นอนแต่กระแสสังคมไม่ปักใจเชื่อ แม้แต่ลูกข่าย สส. เพื่อไทยยังระส่ำระสาย“ทักษิณ” โดนไล่บี้จนสุดกระดาน พ่ายเดิมพันเกมอำนาจในขณะที่ตัวแปรสำคัญคือค่ายส้ม พรรคประชาชน ในยุค “กุมารเท้ง” เซ็นชื่อ “ตีเช็คเปล่า” ให้เกรียน 2 น.นั่นก็คือการยอมรับความเสี่ยงกับการ “ออกลูกเป็นลิง” เพราะเชื่อน้ำคำ “นักเลือกตั้งอาชีพพันธุ์พิเศษ” ที่ “ลิ้นไม่มีกระดูก” ลีลาพลิ้วได้ตามธรรมชาติ โกหกเป็นเรื่องปกติประกันไม่รับเคลมอาการค่ายส้ม “หลังหัก” จากการโดนขบวนแห่นายอนุทิน “หักหลัง”สภาพเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แต่ต้องเอากระดูกมาแขวนคอพรรคประชาชนไม่ได้เอี่ยวชิ้นปลามัน แต่ถูกลากมาเอี่ยวเกมเดิมพัน ต้องจ่ายต้นทุนหน้าตักไปฝาก “อนุทิน” ไปเสี่ยงนำรัฐบาลเป็ดง่อย ถ้าผลประกอบการภายใต้การนำของ “เสี่ยหนู” ออกมาดี ค่ายส้มก็แค่เสมอตัว แต่ถ้าออกมาห่วยกว่ารัฐบาลเพื่อไทย ค่ายส้มหนีไม่พ้นต้องรับเสียงด่าในภาวะโจทย์เศรษฐกิจหนัก หนาสาหัส ปากท้องประชาชนหาเช้า กินค่ำฝืดเคืองเต็มทนยิ่งถ้า “เสือหิว” กับ “เสือโหย” อาละวาด ปล้นทิ้งทวน สถานการณ์เหมือนพรรคประชาชนเป็นคนเปิดประตูให้โจรปล้นบ้าน รัฐบาลเฉพาะกิจเกิดการทุจริตโกงกินกันแบบโจ่งครึ่มมันก็ยิ่ง “เข้าเนื้อ” หนัก “กุมารเท้ง” ต้องโดนฝ่ายต้านสมน้ำหน้า “ด้อมส้ม” เซ็ง หมดศรัทธาทั้งหมดทั้งปวง คนที่ถือเดิมพันสูงสุดก็คือคนชื่อ “อนุทิน” ที่ต้องแบกความเสี่ยงไว้เต็มบ่า กับสถานะผู้นำ “ส้มหล่น” ที่ถือตั๋วพิเศษ โหนเชือกเส้นใหญ่มาในจังหวะสถานการณ์เหมือนฟ้าบันดาลได้โอกาสตัดตอน เบรกไฟร้อนคดี “เขากระโดง” กับ “โพยฮั้ว สว.” ไม่ให้เดินหน้าสังคมพอเข้าใจได้กับเชิงการเมืองที่ก๊วนเซราะกราวต้องปกป้อง “จุดตาย” ของตัวเอง รวมไปถึงการชิง ความได้เปรียบในเกมรองรับการเลือกตั้งรอบต่อไปโดยวิสัย “อนุทิน–เนวิน” ต้องฉวยกุมแต้มต่อแน่แต่ในภาวะ “งานหลวง” ประเดประดัง ทั้งวิกฤติชายแดนไทย-เขมร ที่ยังระอุ พร้อมกลับมารบกันได้ทุกขณะ ไหนจะโจทย์เศรษฐกิจปากท้องที่ต้องใช้ “มือบริหารอาชีพ” มาประคองความมั่นใจของนักลงทุนถ้า “อนุทิน” ไม่แสดงให้เห็นความตั้งใจเอาปัญหาบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง มีหวังพังตอนจบ ศพไม่สวยแน่นอน หน้าตาของทีมบริหารในชุด “หนูนำราชสีห์” จะเป็นตั๋วผ่านด่านแรกสภาพแหวกม่านเห็นแต่ตัวจี๊ด ทั้ง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขาใหญ่ค่ายกล้าธรรม “เสี่ย เฮ้ง” นายสุชาติ ชมกลิ่น หัวขบวนก๊วนกบฏรวมไทยสร้างชาติ เสี่ยสันติ พร้อมพัฒน์ เจ้าของโควตาเมืองมะขามหวาน ที่มาผนึกกับพะยี่ห้อ “เนวิน”“ดรีมทีม” นักการเมืองพันธุ์พิเศษ ต่อแถวรอแต่งชุดขาวเป็นขบวนกระตุก “ฝันร้าย” ของสังคมที่หวัง “นายกฯหนู” นำรัฐบาลเฉพาะกิจผ่าทางตัน.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม