หวยงวดวันที่ 29 สิงหาคม 2568 เลขที่ออก 6–3 ผลการตัดสินศาลรัฐธรรมนูญลงดาบฟัน “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จากคลิปร้อนอ้อน “อังเคิล” ฮุน เซน มีลักษณะเป็นการไม่พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของชาติ เป็นการถือเอาผลประโยชน์ของสมเด็จฮุน เซนเหนือกว่าผลประโยชน์ของไทย จึงเข้าข่ายมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยให้มีผลความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม และมีผลให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะสิ้นสุดลง“นายกฯอิ๊งค์” ร่วง หลุดยวงทั้ง ครม. “แพทองธาร”บ่งหนอง “ทักษิณ” สภาพการเมืองเหมือน “ฝีแตก” แม้จะแผลเหวอะหวะ แต่อาการเจ็บปวดจะบรรเทาเบาบางลงไประดับหนึ่ง เพราะมาถึงจุดของการเยียวยารักษา ไม่อมหนองอีกต่อไปตามรูปการณ์ที่ไหลเข้าสู่ “จุดเปลี่ยนทางการเมือง” ต้องเลือกนายกฯใหม่–ครม.ใหม่จังหวะปลดล็อกเงื่อนไขสถานการณ์บ้านเมืองที่ถูกผูกติดอยู่กับชะตากรรมของ “นายกฯคนลูก” ตระกูลชินวัตร ทำให้โลกการเมืองไทยเหมือนหยุดหมุนอึดอัด อึมครึมมากว่า 2 เดือน ที่ประเทศไทยไร้ “นายกฯตัวจริง”สภาพ “อิ๊งค์” เหมือนมวยสะบักสะบอม แต่พี่เลี้ยงไม่ยอมโยนผ้า ลากมาจนศาลพิพากษา ตามเหลี่ยมยื้อเดิมพันเกมอำนาจการเมืองในจังหวะประเทศตกอยู่ในภาวะคับขันภายใต้โจทย์สถานการณ์ฉุกเฉิน เกินมือ “นายกฯคนลูก” เกินคาด “นายกฯคนพ่อ”โดยเฉพาะปมที่นำมาซึ่ง “จุดตาย” ของ “ผู้นำคนลูกตระกูลชิน” จากฉากควันสงครามปะทุเดือด เสียงปืนแตก การสู้รบชายแดนไทย–กัมพูชา ที่แม้จะเจรจาหยุดยิงไปแล้ว แต่แนวโน้มยังเผลอไว้วางใจ “จิ้งจอก” ฮุน เซน ผู้นำตัวพ่อของเขมร ไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวสันดาน “หมาลอบกัด” ยังจ้องงับแข้งทุกลมหายใจสดๆร้อนๆทหารไทยต้อง “ขาขาด” เป็นรายที่ 6 ติดต่อกันแล้ว จากการเหยียบทุ่นระเบิดที่ทหารเขมรลอบวางดักไว้ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ชายแดนอีสานด้านจังหวัดสุรินทร์ คล้อยหลังการประชุม RBC ระหว่างทหาร 2 ฝ่ายไม่กี่อึดใจชัดเจนสิ่งที่กัมพูชารับปากตกลงกันไว้ เชื่อไม่ได้เลยรูปการณ์ไม่ได้ผิดจากที่ “แม่ทัพบุญสิน” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พูดชัดๆ “เขมรไว้ใจไม่ได้” เป็นคนพาลที่ไม่ควรคบหาไฟเขียวยิงได้ทันที ถ้ามีการจงใจรุกล้ำอธิปไตยเข้ามาแนวรบภูผาชายแดนอีสานพร้อมกลับมาตะลุมบอนแลกเลือดกันได้ทุกขณะ ในจังหวะที่เขมรจ้องตีคืนพื้นที่ที่ถูกทหารไทยไล่ถล่มถอยร่น ส่วนกองทัพไทยก็ต้องการยึดปราสาทตาควายแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดบรรยากาศตึงเครียด ชาวบ้านต้องเงี่ยหูฟังเสียงปืน อพยพได้ทุกนาทีแต่ที่ระอุขึ้นมาก็คือแนวรบพื้นที่ราบเขตเมืองของกองทัพภาคที่ 1 ถึงจุดที่กองกำลังบูรพาต้องประกาศ “กฎอัยการศึก” กำหนดพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อยในเขตบ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ภายหลังปรากฏเหตุประชาชนจากฝั่งกัมพูชาลักลอบเข้ามาก่อความไม่สงบในเขตแดนไทยอันเป็นภัยต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่จากเล่ห์ของ “จิ้งจอกฮุน เซน” ใช้โล่มนุษย์มาป่วนยั่วยุทหารไทย ปั่นชาวบ้านเขมรในพื้นที่อาละวาดทวงดินแดน แหย่ประชาชนผู้รักชาติฝ่ายไทยนัดรวมพลังตอบโต้กลับแบบตาต่อตาฟันต่อฟันระดมรถดูดส้วมประจันหน้า ตั้งท่าประจัญบานสถานการณ์ “พร้อมบวก” ประชาชน 2 ชาติเดือดระอุ เร้าชนวนเสี่ยงปะทะ ดีกรีความแตกแยก “สยาม-ละแวก” ที่ไม่เคยเจือจางตั้งแต่อดีตกาล ไทย-เขมร เลยจุดที่กลับมาญาติดีกันเหมือนเดิม ศึกชายแดนรอบนี้ไม่มีจบง่ายๆและมาถึงจุดที่ต้องต่างคนต่างอยู่ ปิดประตูล็อกลงกลอนตามสัญญาณที่นานาชาติยังต้องจับตา กับการที่ขุนทหารที่เป็นศูนย์โฟกัสอำนาจ ณ ชั่วโมงนี้ อย่าง “บิ๊กอ๊อป” พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด ประกาศเดินหน้าโครงการยักษ์ สร้างรั้วถาวรกั้นแนวเขตแดนไทย– กัมพูชา ปักหมุด 10 กิโลเมตรแรก ที่คลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วแนวโน้มรัฐไทยต้องจัดระเบียบความมั่นคงชายแดนเพื่อนบ้าน โยงภูมิรัฐศาสตร์โลกและนั่นหมายถึงว่า “ผู้นำคนใหม่–รัฐบาลชุดต่อไป” ต้องอยู่ในโหมด “เล่นเป็นทีมเดียวกัน” กับกองทัพในการรับมือกับบทเฮี้ยว “จิ้งจอกฮุน เซน” ผู้นำกองโจรเขมรแดง ที่ครบเครื่องทั้งลูกโหด ใจกล้า หน้าด้าน แถมจัดจ้านในเวทีการเมืองโลกที่สำคัญต้องหักดิบ “ไพ่เด็ด” ที่ “ผู้นำเขมรตัวพ่อ” ถือแต้มเหนือกว่ามาตลอดทำลายเกมต่อรองผลประโยชน์ที่แฝงอยู่ในโซนชายแดน ทั้งบ่อนกาสิโน พนันออนไลน์ ศูนย์กลางสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึงขุมทรัพย์พลังงานมหาศาลใต้ทะเลอ่าวไทยทับซ้อนทะเลกัมพูชาเป็นเหลี่ยมฉวยจังหวะรุกคืบยึดพรมแดนไทยมาอย่างต่อเนื่องรัฐบาลชุดใหม่ต้องหักมุมกับภาพหวาดระแวงของสังคมไทย ที่เป็นจุดอ่อนของ “พ่อลูกตระกูลชิน” ลามไปถึงทีมพรรคเพื่อไทย ไม่เว้นแม้แต่ก๊วนทหารเฒ่า นายทุนใหญ่ ที่พากัน “ตกหล่มศรัทธา” อารมณ์ประชาชนคนไทยไม่ไว้วางใจก๊วน “ดีลลังกาวี” เอาผลประโยชน์ทางธุรกิจไปเสี่ยงกับการเสียดินแดนอธิปไตยต้องพร้อมตามน้ำตามกระแส ล้มกระดานเอ็มโอยู 43 ปรับเกมปักหมุดเขตแดนไทย-กัมพูชา ล้มโต๊ะเอ็มโอยู 44 เบรกอภิมหาโปรเจกต์ขุดพลังงาน ปรับจุดเสี่ยงเสีย “เกาะกูด” ให้เขมรรัฐบาลชุดใหม่ต้องมาพร้อม “ศรัทธา” จากประชาชน เข้าขากับทหารล้อตามโจทย์ความมั่นคงชายแดนฉุกเฉิน ขณะที่ด่วนไม่แพ้กันก็คือโจทย์สถานการณ์เศรษฐกิจที่ความเดือดร้อนลามถึงปากท้องประชาชนผู้มีรายได้น้อย คนหาเช้ากินค่ำหนักขึ้นทุกทีสังเกตได้ตลาดมีแต่พ่อค้า แม่ค้า คนซื้อบางตา กำลังซื้อหดหายไปตามรายได้ที่เหือดแห้งอ้างอิงจากมุมของคน กลางๆอย่างนายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองชื่อดัง วิเคราะห์ ความกังวลในเรื่องภาวะเศรษฐกิจที่โตประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นเศรษฐกิจที่ขยายตัวค่อนข้างต่ำส่งผลกระทบลุกลามไปยังการจ้างงานที่เริ่มมีความกังวลในการเลิกจ้าง หรือปลดพนักงานเพิ่มขึ้น ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองที่มีผลต่อการคาดการณ์ทิศทางข้างหน้า เป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยข้อมูลเชิงเศรษฐศาสตร์ ล้อไปกับฉากปรากฏการณ์ในตลาดสดดัชนีชี้วัดชัดเจนสุดก็คือราคาข้าว ชาวนาเดือดร้อนหนักจากราคาข้าวเปลือกตกต่ำเป็นประวัติการณ์ หล่นเหลือเกวียนละ 5,000–6,000 บาท ไม่คุ้มต้นทุนราคาปุ๋ย ยาเคมี เกษตรกรแห่ขายที่นาทิ้งความจริงที่เจ็บปวด เจ้าตำรับ “โครงการจำนำข้าว” ขวัญใจชาวนาอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่สามารถช่วยได้ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยบ้อท่าความหวังจะกลับมาฟื้นสภาพกินดีอยู่ดี เลิกมโนได้ตรงกันข้ามกับข่าวร้าย สัญญาณลบที่จ่อกระทบกระเป๋าสตางค์ นายพิชัย ชุณหวชิร รักษาการรองนายกฯและ รมว.คลัง กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวตจาก 7 เปอร์เซ็นต์ ที่ถูกตรึงมานานกว่า 20 ปี ยกตัวอย่างเทียบกับอินโดนีเซียที่ปรับแวตขึ้นไปที่ร้อยละ 12“ขุนคลัง” ทีมเพื่อไทย รับสภาพไฟต์บังคับประเทศไทยต้องปรับแนวทางสร้างรายได้รัฐอย่างยั่งยืน จ้องรีดภาษีมูลค่าเพิ่มเติมเงินคลังที่กำลังถังแตกแจกประชานิยมโกยแต้มไม่คล่องมือเหมือนอดีตไทยรักไทยแบบที่เพิ่งหัวทิ่มหัวตำ “รถไฟฟ้า 20 บาท” ไม่มาตามเวลานัด วันที่ 1 ตุลาคม ต้องก้มหน้ายอมรับเสียงด่า พรรคเพื่อไทยต้องเสียท่า เสียฟอร์ม นโยบายเรือธงล่มไม่เป็นท่าเป็นอุทาหรณ์ นายกฯใหม่ ครม.ใหม่ ต้องไม่มือเติบในภาวะคลัง “ถังแตก”พวกเสพติดประชานิยมเลิกหวังมุกแจกเงินหลวงหาเสียงได้เลย.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม