ชนะศึก แต่ระวังแพ้สงคราม ได้ชัยทาง “ยุทธการ” แต่ต้องไม่ประมาท “ยุทธศาสตร์”ทางยาว คำเตือนจากบรรดานักวิชาการ นักการทหาร มืออาชีพด้านความมั่นคง ประเดประดังห้วงการสู้รบจากข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ปรับเข้าโหมดเจรจา “หยุดยิง”แม้ไทยกุมความได้เปรียบ ยึด “11 ยุทธภูมิหลัก” ไว้ได้ แต่สงครามยังไม่จบเวลานี้นอกจากรักษาฐานที่มั่น ปรับสถานการณ์ตามกลไกทหารหน้างาน ควบคู่เวทีเจรจาพูดคุย แต่ก็ต้องไม่ประมาท กลกัมพูชาเจ้าเล่ห์ออกฤทธิ์ได้เสมองานนี้กองทัพเข้มแข็ง อุ่นใจได้ เพียงแต่ที่น่าห่วงแนวรบอื่นๆ ส่อแววเพลี่ยงพล้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะรัฐบาลในฐานะฝ่ายกำหนดนโยบายโดนวิพากษ์วิจารณ์หนักพลาดตั้งแต่ยอมถอย สั่งกองทัพหยุดการรบพุ่งชายแดนแบบ “ไม่มีเงื่อนไข”นอกจากเป็นเรื่องแปลกแต่จริง “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ รมว.มหาดไทย รักษาการผู้นำ และ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม สวมหัวโขนตำแหน่ง “รักษาการ” ทั้งคู่ ไปเจรจา “ความเมือง”ผลสัมฤทธิ์คือ ยิงไม่เข้าเป้าถูกสื่อมวลชนจี้ซัก คิว “สะเปะสะปะ” ก่อนไปคุยว่าไว้อย่างหนึ่ง ต้องถอนกำลังจากหน้าแนว ก่อนหยุดยิง แต่ผลสรุปไร้เงื่อนไขต่อรองใดๆอารมณ์สังคม ประชาชนเลยตั้งคำถาม “หงอมากไป” หรือเปล่านั่นยังไม่รวมประเด็นอื่นๆ ทั้งเรื่องท่าทีการแถลงผลเจรจา แทนที่จะใช้โอกาสบอกเล่าเหตุการณ์ข้อเท็จจริง ลุ้นให้ลากประจานเพื่อนบ้านคู่กรณี “ฟ้องโลก” ก็ไม่ทำขุดความผิดพลาดตั้งแง่สงสัย ตั้งแต่การเตรียมตัว ข้อมูล ไปจนกระทั่งทักษะความพร้อมสื่อสารของรักษาการผู้นำอย่าง “ภูมิธรรม” ไม่ถึงขั้นสอบตก แต่ก็จ่อติดเอฟเห็นได้จากหลังเวทีเจรจา ตัวแสดงที่เสียบเข้ามา ทั้งผู้นำมาเลเซียและตัวแทน 2 มหาอำนาจ สหรัฐฯ–จีน ที่จดจ้องอยู่นานก็ส่งคนมาสังเกตการณ์ แบบมีท่าทีแปร่ง เทน้ำหนักไปฝั่งกัมพูชายังไม่รวมนานาประเทศที่กัมพูชาเพิ่งดึงผู้ช่วยทูตแห่ไปร่วมสังเกตการณ์ ตรวจพื้นที่จริงฝั่งกัมพูชาดึงโลกมาเขย่าเครดิตไทยรายวันสะท้อนเกมการทูตการเมืองระหว่างประเทศ เกมดีลมหาอำนาจ ไปจนกระทั่งเกมการสื่อสารบอกโลกทีมไทยแลนด์ รัฐบาลเพื่อไทยวิ่งตามหลัง ไม่รู้จบสิ้นสัญญาณอันตรายสำหรับประเทศไทย ที่รัฐบาลไทย นายกฯแพทองธาร ชินวัตร และรักษาการนายกฯภูมิธรรม โดยมีที่ปรึกษา “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นเงาหลังฉาก ให้คำปรึกษากึ่งบงการไม่ขบคิดหาทางขยับพลิกเกมสู้ ไม่ได้แล้วในจังหวะที่พัฒนาการความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลตระกูลชินฯถอยหลัง ความเชื่อถือดิ่งวูบ ขณะที่เรียกได้ว่ามีชนักปักหลัง ทั้งเรื่องความสัมพันธ์เก่าอดีตนายกฯกับผู้นำ–อดีตผู้นำกัมพูชา รวมทั้งปมร้อนหมาดๆ คลิปคุณลุง–คุณหลาน ตามหลอนยังไม่รวมบรรดามืองานรัฐบาลที่เรียกใช้ ล่าสุดดึงมืออาชีพมาเป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร รวมทั้งอีกหลายรายเคยไปพึ่งใบบุญ มีเอี่ยวกับผู้มีอำนาจกัมพูชามาก่อนฉะนั้นถึงพยายามพูดจาหรูหรา ชูหลักการเหตุยังไง เมื่อผู้คนไม่ลืม “ภาพจำทางลบ” พูดยังไงก็ไม่เข้าหูถูกตั้งคำถามโยงวาระซ่อนเร้น เข้าข้างเพื่อนบ้านโยงไปสู่สารตั้งต้นความขัดแย้ง “ตระกูลชินฯ-ตระกูลฮุน”โดยเฉพาะในภาวะวิกฤติบ้านเมืองทุกมิติ เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง กระทั่งสื่อสารต่อประชาชนนั่นไม่เท่ากับ “วิกฤติเชื่อมั่น–วิกฤติศรัทธา”เป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องเร่งแก้เกม ห้วงอำนาจรัฐบาลตระกูลชินฯมีความเสี่ยงสูง จวนเจียนพังพาบ“นายใหญ่” ต้องรีบหาทางออก จะกู้สถานการณ์ยังไง.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม