ก็เป็นข่าวฮือฮาเมื่อ คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกฯและรัฐมนตรีวัฒนธรรม ถูก "กองทัพ IO เขมร" โจมตีอย่างหนักด้วยคำว่า “Best Drama queen 2025” หลังจากที่ นายกฯแพทองธาร ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพที่ไปเยี่ยมประชาชนที่หนีภัยสงครามชายแดนกัมพูชาไปอยู่ในศูนย์อพยพชั่วคราวจังหวัดสุรินทร์ว่า "วันนี้ดิฉันเดินทางมายังจังหวัดสุรินทร์ เพื่อมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดน ณ --- และพบกับประชาชนที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ---" เส้นปะคือ "ชื่อสถานที่ที่เป็นพิกัด" ผมขอตัดออกหลังจากที่ถูกไอโอเขมรโจมตี นายกฯอิ๊งค์ ก็ได้ปรับข้อความใหม่โดย “ลบชื่อสถานที่ที่เป็นพิกัดโรงพยาบาลและศูนย์อพยพชั่วคราว” ออกไป แต่การโจมตีของไอโอเขมรก็ยังไม่หยุด ในที่สุด นายกฯอิ๊งค์ก็ลบข้อความที่โพสต์ ออกไปทั้งหมดเรื่องที่สังคมตำหนิ นายกฯแพทองธาร ก็คือ ก่อนที่นายกฯจะลงพื้นที่หนึ่งวัน กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนว่า ขอความร่วมมือในการใช้สื่อโซเชียล ให้งดถ่ายภาพแชร์ภาพยุทโธปกรณ์ทหารและระบุที่ตั้ง ระมัดระวังในการโพสต์ข้อมูลต่างๆในสื่อโซเชียล เนื่องจากปัจจุบันมีข้อมูลว่า ฝ่ายตรงข้ามมีขีดความสามารถในการหาพิกัดที่ตั้ง จากการโพสต์และแชร์ข้อมูลในสื่อโซเชียล ด้วยระบบ OSINT (Open–Source Intelligence) หรือ “ข่าวกรองจากแหล่งเปิด” แต่นายกรัฐมนตรีไทยกลับโพสต์เสียเอง นายกฯช่างไม่รู้อะไรเลย ทำไมคนที่ห้อมล้อมมากมายไม่มีใครเตือนนายกฯเลยวันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับ “ข่าวกรองแบบเปิด” (Open– Source Intelligence–OSINT) ว่าทำงานอย่างไร มีผลต่อการทำสงครามอย่างไรข่าวกรองแบบเปิด OSINT คือ กระบวนการรวบรวม วิเคราะห์ ตีความข้อมูลจากแหล่งเปิด เช่น โซเชียลมีเดีย ข่าวสาธารณะ ภาพถ่ายดาวเทียม เอกสารราชการ ฯลฯ เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจทางยุทธศาสตร์และความมั่นคง การทำงานของข่าวกรองแบบเปิดมี 5 ขั้นตอน คือ 1.กำหนดเป้าหมาย เช่น สถานที่เกิดเหตุ 2.เก็บข้อมูล จากเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ภาพถ่ายดาวเทียม ข้อความ และบันทึกเสียง 3.เตรียมข้อมูล ด้วยระบบ Metadata (ที่สามารถบูรณาการกับข้อมูลอื่น เช่น ไฟล์ภาพ บอกวันเวลาที่ถ่ายภาพ กล้องที่ใช้ ตำแหน่งที่ถ่ายภาพ) มาจัดโครงสร้างข้อมูลให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ 4.วิเคราะห์ โดยเชื่อมโยงข้อมูลหลายแหล่ง เพื่อหาแหล่งกำเนิด พิกัด วันเวลาจริง 5.สรุปรายงาน ออกมาเป็นแผนที่ แผนผัง สรุปย่อ เพื่อการตัดสินใจข่าวกรองแบบเปิด OSINT จึงเป็นยุทธการสำคัญอย่างหนึ่งในการรบ กองทัพจึงขอความร่วมมือประชาชนให้งดถ่ายภาพ โพสต์ภาพจุดที่เป็นยุทธศาสตร์ แต่นายกฯกลับโพสต์เสียเองปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า กัมพูชาใช้ OSINT ค้นหาเป้าหมายโจมตีในไทย (เชื่อว่าขีดความสามารถยังไม่ถึง การยิงจรวดและปืนใหญ่ยังสะเปะสะปะ) แต่ในสงครามยุคใหม่ OSINT มีบทบาทสำคัญด้านความมั่นคง สามารถวิเคราะห์ภัยคุกคามได้ล่วงหน้า จากภาพถ่ายดาวเทียม TikTok Telegram Facebook ฯลฯ “ทุกข้อมูลออนไลน์” ในโลกโซเชียลและสื่อต่างๆคือ “สนามรบ” การเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่ตั้งใจ อาจกลายเป็นจุดอ่อนที่ถูกใช้โจมตีได้ เป็นเรื่องที่ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี นักการเมือง ที่ชอบใช้สื่อโซเชียลหาเสียงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในยามสงครามภาพถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ Smart Phone มักจะถูก ฝังข้อมูลพิกัด (GPS Metadata) โดยอัตโนมัติ สามารถบอกพิกัดแม่นยำระดับเมตร ดังนั้น ควรตั้งค่าปิดการฝังพิกัด ในสมาร์ทโฟนก่อนโพสต์ภาพใดๆ โดยเฉพาะภาพจากพื้นที่ชายแดนหรือโครงสร้างสำคัญก็ฝากข้อมูลนี้ไปถึง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี นักการเมือง ที่ชอบโพสต์หาเสียงทั้งหลาย เดี๋ยวจะกลายเป็น “ไส้ศึกเขมร” ไปโดยไม่รู้ตัว."ลม เปลี่ยนทิศ"คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม